ความไว้วางใจยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในโลกที่ไม่น่าเชื่อถือของสกุลเงินดิจิทัล

กดไลน์-แชร์ให้เพื่อนๆด้วยครับ

1AAC1 bitcion4

ในฐานะที่เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้เช่นเดียวกับสกุลเงินดิจิตอล ผู้คนยังคงเป็นผู้ใช้หลัก และผู้คนต้องการความไว้วางใจ

ความไว้วางใจยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในโลกที่ไม่น่าเชื่อถือของสกุลเงินดิจิทัลความคิดเห็น

ตามที่กำหนดโดยสมุดปกขาว Bitcoin (BTC) ของ Satoshi Nakamoto แก่นของสกุลเงินดิจิทัลคือระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบเพียร์ทูเพียร์ที่ขจัดความจำเป็นสำหรับคนกลางเช่นธนาคาร ความเป็นอิสระที่ร่าเริงและการเยาะเย้ยในการถือครองระบบธนาคารแบบดั้งเดิมนั้นแพร่หลายไปทั่ว cryptosphere

กระนั้น เมื่อเป้าหมายของการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมจำนวนมาก การถือครองบางอย่างจึงมีความจำเป็นเพื่อที่จะนำพาทุกคนไปสู่การเดินทางสู่การเงินแบบกระจายอำนาจอย่างแท้จริง เราไม่สามารถคาดหวังให้ปู่ย่าตายายของเรา ซึ่งมีปัญหาในการส่งอีเมล เพื่อหาวิธีจัดการคีย์ส่วนตัว วลีเมล็ดพันธุ์ และกระเป๋าเงินดิจิทัล และส่งของขวัญวันเกิดของคุณใน Bitcoin โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ อันที่จริง การเปลี่ยนไปใช้การเงินแบบกระจายอำนาจนี้ทำได้ดีกว่าการส่งเงินวันเกิด และได้มีการพัฒนาเพื่อรวมการทำฟาร์มผลผลิต การขุดสภาพคล่อง และการประมูลโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ด้วยเหตุนี้ ตัวกลางที่เชื่อถือได้จึงไม่เคยมีความสำคัญต่อการเติมเต็มความปรารถนาหลักของ DeFi และ crypto มากนัก

ที่เกี่ยวข้อง: การขุดสภาพคล่องกำลังเฟื่องฟู- จะคงอยู่หรือจะพัง?

หุ่นยนต์ไม่ต้องการความไว้วางใจ แต่มนุษย์ต้องการ

ความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อชีวิตประจำวันในทุกอารยธรรม เราเชื่อมั่นในความคิดเห็นของแพทย์ เราเชื่อว่าคนขับแท็กซี่จะพาเราไปในที่ที่ต้องไป เราเชื่อมั่นว่าอาหารที่เสิร์ฟให้กับเราที่ร้านอาหารนั้นปลอดภัยสำหรับรับประทาน เราเชื่อว่ารถจะหยุดเมื่อสัญญาณไฟเดินบนทางม้าลาย

ในโลกที่ไม่น่าเชื่อถือของ cryptocurrencies เรายังคงตัดสินใจเกี่ยวกับใครและสิ่งที่เราไว้วางใจ พวกเราส่วนใหญ่ไม่ใช่นักพัฒนาหรือวิศวกรที่สามารถวิเคราะห์รหัสของทุกโปรโตคอล DeFi และทุกโทเค็นก่อนที่เราจะเข้าร่วม แต่เรารวบรวมข้อมูลและประเมินว่าจะดำเนินการใดโดยพิจารณาจากสิ่งที่เราเข้าใจ คำถามสำคัญในกระบวนการตัดสินใจนี้คือ: เราไว้วางใจองค์กรและบุคคลที่อยู่เบื้องหลังโปรโตคอลหรือไม่? เราเชื่อหรือไม่ว่าพวกเขากำลังกระทำการโดยสุจริตและระเบียบการทำตามที่กล่าวไว้หรือไม่?

จากการศึกษาพบว่าจุดที่เราให้ความไว้วางใจมีการพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ แม้จะมีความแปลกใหม่ของอัลกอริธึมที่ปรับใช้แมชชีนเลิร์นนิงและปัญญาประดิษฐ์ แต่ผู้คนต่างก็ไว้วางใจอัลกอริทึมมากกว่ามนุษย์ด้วยกัน ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในScience Daily พบว่าเมื่ออาสาสมัครถูกนำเสนอด้วยภาพถ่ายฝูงชนและถามว่าใครจะมาถึงจำนวนคนที่ถูกต้องในภาพได้ดีกว่า AI พูดมากกว่ามนุษย์พูด ในขณะเดียวกัน ผลการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งพบว่าความไว้วางใจในเทคโนโลยีของบุคคลนั้นขึ้นอยู่กับการเปิดเผยของพวกเขาอย่างมาก ด้วยปริญญาด้านเทคโนโลยีหรือวิศวกรรม และความคุ้นเคยกับอัลกอริธึมออนไลน์ที่นำไปสู่ระดับความไว้วางใจใน AI ที่สูงขึ้น

ที่เกี่ยวข้อง: การนำเทคโนโลยี blockchain มาใช้เป็นจำนวนมากและการศึกษาเป็นกุญแจสำคัญ

ผลการศึกษาทั้งสองก็นำไปใช้กับโลกของสกุลเงินดิจิทัลได้เช่นกัน ความไว้วางใจที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีทำให้การยอมรับของ cryptocurrencies แพร่หลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าการยอมรับนี้เกิดขึ้นในอัตราที่แตกต่างกันไปตามกลุ่มประชากรต่างๆ ผู้ที่มีการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ มากที่สุด - วิศวกรและนักพัฒนา - เป็นกลุ่มแรกที่จะนำมาใช้ ผู้ที่ได้รับการเปิดเผยน้อยที่สุดและเข้าถึงทรัพยากรได้ล้าหลัง ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราที่หมกมุ่นอยู่กับ cryptosphere เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการสนับสนุนผู้ที่มีการเปิดเผยน้อย เราไม่ต้องการที่จะจบลงด้วย "เทคโนโลยี" ซึ่งผู้ที่มีความรู้ด้านเทคนิคมากกว่าจะมีสิทธิ์มากที่สุดและผู้ที่น้อยที่สุดจะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วม โทเปียสมมุติฐานนั้นจะตรงกันข้ามกับคำมั่นสัญญาดั้งเดิมของ Bitcoin

ความท้าทายในการใช้งานของ Crypto

เราต้องยอมรับว่าสกุลเงินดิจิทัลนำเสนอความท้าทายในการใช้งานที่ไม่เหมือนใคร แม้แต่ในหมู่คนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งปัจจุบันมีการวัดอยู่ที่ประมาณ 4.66 พันล้านครั้ง การใช้งานมักจะจำกัดเฉพาะโซเชียลมีเดีย การค้นหา และอีเมล ผู้ใช้เว็บเหล่านี้คุ้นเคยกับการเข้าสู่ระบบอีเมลและรหัสผ่าน การเพิ่มการจัดการคีย์ส่วนตัว-สตริงของตัวเลขและตัวอักษรที่สับสนซึ่งยากต่อสายตามนุษย์ในการตีความ-จำเป็นต้องเอาชนะการขาดความคุ้นเคยที่ผู้ใช้เว็บคุ้นเคย

ที่เกี่ยวข้อง: การกระจายอำนาจการเงินอาจเป็นอนาคต แต่การศึกษายังขาดอยู่

คุณค่าหลักของ 'กุญแจของคุณ เหรียญของคุณ' กำลังปฏิวัติระบบการเงินของเราโดยมอบอำนาจให้ผู้ใช้ควบคุมทรัพย์สินของตนแทนที่จะพึ่งพาธนาคารและผู้ให้บริการบุคคลที่สามแบบรวมศูนย์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม การเสริมอำนาจนี้ยังมาพร้อมกับภาระที่หลายคนยังใหม่ในพื้นที่อาจไม่พร้อมในทันที เราทุกคนเคยได้ยินเรื่องราวสยองขวัญของผู้ใช้ที่สูญเสียคีย์ส่วนตัวของพวกเขา และผลก็คือ การถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

ฉันคิดว่าเราไม่ควรยืนกรานที่จะโยนมือใหม่ลงไปในน่านน้ำ crypto และเรียกร้องให้พวกเขาว่ายน้ำ เมื่อผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับการจัดการกุญแจส่วนตัว วงล้อการฝึกก็จะหลุดออกมา และพวกเขาสามารถรับภาระ (และผลประโยชน์) ของ ‘กุญแจของคุณ เหรียญของคุณ’ ได้ด้วยตนเอง

ttps://cointelegraph.com/news/trust-is-still-a-must-in-the-trustless-world-of-cryptocurrency