แอ็คมี่-วรวัฒน์ นาคแนวดี มุ่งเป้าหมายทฤษฏี'ความสำเร็จ' ต้องทำซ้ำได้ ทุ่ม 150 ล้าน สร้างบิทแนนซ์ให้ความรู้ ปั้น'Traderist Academy'ฟรี

        ปัจจุบันโลกของเรา เวลาจะโอนเงินไปไหนมาไหน จะต้องผ่านตัวกลางคือ ธนาคาร เพราะธนาคารเป็นสิ่งเดียวที่จะรับรองกับเราได้ว่า มีการโอนจริง ฝากจริง ถอนจริง โดยธนาคารก็เก็บค่าบริการ จนกระทั่งในปี 2008 เกิดวิกฤตที่อเมริกา ค่าเงินดอลล่าร์ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ อเมริกาแก้ปัญหาด้วยการบอกว่าจะพิมพ์เงินเข้าระบบเพื่อทุกคนจะได้มีเงินไปใช้หนี้หรือจับจ่ายกันต่อไป โดยไม่ต้องมีทองมาคำมาค้ำประกัน ซึ่งส่งผลให้นักการเงินหลายคนวิตกว่า จะสามารถเชื่อถืออะไรกับระบบการเงินที่ควบคุมโดยรัฐบาลได้อีกถ้าแต่ละประเทศทำตาม

    จนกระทั่ง มีใครก็ไม่รู้ และไม่เคยมีใครเคยเห็นตัวจริงเขา หรืออาจจะเป็นกลุ่มคนก็ได้ใช้ชื่อว่า Satoshi Nakamoto กำหนดเงิน Bitcoin ขึ้นมาบนโลก Internet และไม่ใช้ธนาคารเป็นตัวกลางการโอนเงิน แต่ใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นระบบในการโอนเงินต่อกัน ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain นี้เปิดให้ทุกคนมีเอกสารข้อมูลบัญชีที่เราสามารถรู้และตรวจสอบได้หมดเลยว่าบัญชีไหน มีเงินเท่าไหร่ ใครโอนให้ใคร รับต่อกันยังไง

      โดย Bitcoin คือสกุลเงินในรูปแบบของดิจิทัล ถูกสร้างขึ้นมาด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ Bitcoin ไม่มีรูปร่างและไม่สามารถจับต้องได้เหมือนธนบัตรหรือเหรียญเงินบาท โดย ‘ซาโตชิ’ ได้เขียน Codeในการยืนยันธุรกรรมของ Bitcoin ขึ้นมาเป็น Algorithm ของคณิตศาสตร์ และแจกฟรีแก่ทุกคนทั่วโลกให้เอาไปใช้ แล้วก็ใช้ Blockchain ในการเป็นระบบการโอนเงินต่อกัน

      ปัจจุบันตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่าแต่ละวันอยู่ที่ 5 ล้านล้าน USD และตลาด Cryptocurrency ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเป็นตลาดใหม่ ยังมีวอลุ่มหรือขนาดตลาดต่อวันอยู่ที่ 5 หมื่นล้าน USD หากต้องการเทรดในตลาดสกุลเงินดิจิทัลสามารถเปิดบัญชีเทรด Forex ก็สามารถเทรดสกุลเงินดิจิทัลได้เช่นกัน

ลงทุนในตลาดโลกมากว่า 10 ปี

        สำหรับ การเทรดในตลาด Forex และตลาด Cryptocurrency สปอตไลต์การลงทุนทุกดวงส่องมาที่ 'แอ็คมี่-วรวัฒน์ นาคแนวดี'เขาเป็นนักล่าฝัน นัดขุด Bitcoin และ Crypto อื่นๆด้วยเครื่องขุดในยุคแรกๆของเมืองไทย มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี การเงิน และการลงทุนในตลาดโลกมากว่า 10 ปี และได้รับรางวัลระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น รางวัล ‘เทรดเดอร์สร้างแรงบันดาลใจยอดเยี่ยมประจำปี 2016 และ ปี 2017’ (Most Inspirational Trader 2016-2017) รางวัล ‘เทรดเดอร์ยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคอาเซียนประจำปี 2017’ (Best Asian Performance Trader 2017) บนเวทีระดับสากลจากประเทศจีน

       รวมถึง รางวัล ‘สุดยอดผู้บริหารหน้าใหม่ด้านการเทรดยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียประจำปี 2019’ (Best New Trading CEO Asia 2019) จากนิตยสาร Global Banking & Finance Review ซึ่งเป็นนิตยสารการเงินการธนาคารชั้นนำของประเทศอังกฤษ จึงทำให้เข้าใจความต้องการของผู้ใช้บริการ ซึ่งผมมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของบริษัทฯ จะตอบโจทย์ และสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างแน่นอน”แอ็คมี่-วรวัฒน์ กล่าว

       'แอ็คมี่-วรวัฒน์ นาคแนวดี' ได้ให้ความกระจ่างในกราฟเคลื่อนที่ด้วย  Player คือ 'ผู้เล่น' TimeFrame คือ 'ช่วงเวลา'  Volume คือ 'ปริมาณในการซื้อขาย' ตลาดเปิดให้ทำการซื้อขายทุกวัน 24 ช.ม. ยกเว้นวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดสำคัญตามวาระของแต่ละประเทศ ก็เพราะว่าใน 'ช่วงเวลา' แต่ละช่วงของวันจะมี 'ผู้เล่น' เข้ามาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ตามเวลาภูมิภาคของตน ซึ่งกลุ่ม 'ผู้เล่น' ใน 'ช่วงเวลา' ส่งผลต่อ'ปริมาณในการซื้อขาย' อย่างแน่นอนด้วยจำนวนประชากร อีกทั้ง ยังส่งผลไปยัง 'ความแข็งของค่าเงิน' และ 'ความอ่อนของค่าเงิน' ที่มี 'ผู้เล่น' ที่เป็นเจ้าของ 'ค่าเงิน' นั้นๆ ที่กำลังทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ต่างๆอยู่

       ในตลาด Forex ใหญ่ที่สุดในโลก(Foreign Exchange)มีคนนิยมเทรดมากที่สุด มีมูลค่าแต่ละวันอยู่ที่ 5 ล้านล้าน USD นักลงทุนหน้าใหม่ มักมีคำถามว่าเราเทรดค่าเงินหรือคู่เงิน ซึ่งจริงเราเทรด'คู่เงิน' นั่นหมายถึงมีการประกบคู่กันของ 'ค่าเงิน' หรือจะพูดได้ว่ามีการแข่งขันกันระหว่าง 'ค่าเงิน' ในระหว่างที่สภาวะตลาดปกติไม่มีข่าวแวดล้อมมาสนับสนุนให้เกิดอารมณ์ร่วมในการตัดสินใจซื้อหรือตัดสินใจขาย จึงเป็นความสำคัญมากที่จะดู 'ความแข็งค่า' และ 'ความอ่อนค่า' ระหว่างค่าเงินที่นำมาประกบกันจนเป็น 'คู่เงิน' เพื่อการคาดการณ์ทิศทางของราคา 'คู่เงิน' ที่เราต้องการทำการซื้อขายว่าอาจมีเกณฑ์ไปในทิศทางใด

4 กฎเหล็กห้ามทำเด็ดขาด

        'แอ็คมี่-วรวัฒน์ นาคแนวดี' ได้ค้นพบทฤษฏี 4 กฎเหล็กห้ามทำเด็ดขาดแล้วจะปลอดภัยขึ้น - ห้าม Buy ที่แนวต้าน - ห้าม Sell ที่แนวรับ - ห้าม Follow Buy - ห้าม Follow Sell            การสะสม Buy ทำได้ 2 วิธี คือ - สะสม Buy ที่แนวรับ  - สร้าง Price Action ให้คน Follow Buy การสะสม Sell ทำได้ 2 วิธี คือ - สะสม Sell ที่แนวต้าน - สร้าง Price Action ให้คน Follow Sell การล่อ Buy คือการสร้างแนวรับเพื่อให้คนเข้าจุด Buy ที่มีอยู่หรือสร้างขึ้น และการสร้าง Price Action ให้คน Follow Buy

      การล่อ sell คือการสร้างแนวต้านเพื่อให้คนเข้าจุด sell ที่มีอยู่หรือสร้างขึ้น และการสร้าง Price Action ให้คน Follow Sellการขู่ Buy คือการกดตัวลงอย่างหนักของราคาสินทรัพย์นั้นๆ เพื่อทำให้คนที่ถือ Position ฝั่ง Buy ไม่ว่าจะราคาที่ได้มาดีที่สุดแค่ไหนก็ตามทำการปิด Position หนี เพราะคิดว่า ราคาจะทำการทิ้งลงต่อได้อีก จุดสังเกตคือ 'เลยรับผ่านไส้ทำ low แต่ยังมาไม่ถึงอีกรับ ซึ่งจะต้องทำการเช็คมาก่อนว่า

       นี่คือการขู่ที่แท้จริงหรือไม่ สามารถดูได้จาก 'มีการสะสม volume ฝั่ง sell หนาแน่นแล้วหรือยัง และการสะสม volume ฝั่ง Sell นั้นมีจำนวนมากขนาดไหน เพียงพอกับที่ตลาดจะลากกลับไปเก็บหรือยัง โดยเราจะทำการตีเส้น Remind Line ไว้ช่วยจำใน zoning ราคานั้น เพราะเส้นเหล่านี้อาจกลายเป็นเส้นราคาดุลยภาพในอนาคตต่อไปได้ การกดดันด้วยพฤติกรรมตลาดแบบนี้นอกจากจะทำให้คนกลัวจนปิด Position หนีไปก่อนการกลับตัวแล้ว ยังทำให้ผู้เล่นไม่สามารถหาออเดอร์จากเส้นราคาที่ทำการตั้งรอซื้อไว้ได้อีกด้วย

       ขู่ Sell : คือการยกตัวขึ้นอย่างหนักของราคาสินทรัพย์นั้นๆ เพื่อทำให้คนที่ถือ Positionฝั่ง Sell ไม่ว่าจะราคาที่ได้มาดีที่สุดแค่ไหนก็ตามทำการปิด Position หนีเพราะคิดว่าราคาจะทำการยกตัวขึ้นต่อไปได้อีก จุดสังเกตคือ “เลยต้านผ่านไส้ทำ high แต่ยังไปไม่ถึงอีกต้าน ซึ่งจะต้องทำการเช็คมาก่อนว่านี่คือการขู่ที่แท้จริงหรือไม่ สามารถดูได้จาก “มีการสะสม volume ฝั่ง Buy หนาแน่นแล้วหรือยัง และการสะสม volume ฝั่ง Buy นั้นมีจำนวนมากขนาดไหนเพียงพอกับที่ตลาดจะทุบกลับไปเก็บหรือยัง โดยเราจะทำการตีเส้น Remind Line ไว้ช่วยจำใน zoning ราคานั้น เพราะเส้นเหล่านี้อาจกลายเป็นเส้นราคาดุลยภาพในอนาคตต่อไปได้ การกดดันด้วยพฤติกรรมตลาดแบบนี้นอกจากจะทำให้คนกลัวจนปิด Position หนีไปก่อนการกลับตัวแล้ว ยังทำให้ผู้เล่นไม่สามารถหาออเดอร์จากเส้นราคาที่ทำการตั้งรอขายไว้ได้อีกด้วย

ความเชื่อตลาดการเงินมี'จ้าว'

      'แอ็คมี่-วรวัฒน์ นาคแนวดี' ได้ค้นพบสัจธรรมของตลาดการเงินโลก สิ่งที่ต้องรู้ และเชื่อเกี่ยวกับตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศนี้และอีกหลายๆตลาดการลงทุนคือ 'ตลาดไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทุกคนชนะ ทุกคนต้องแพ้ในสักวันหนึ่ง'...

       จงคิดแทนประชากรในตลาดทั้ง 4 กลุ่มนี้ให้ได้ : - ประชากรในตลาดที่มีมากที่สุดคือ 'กลุ่มขาดทุน' - ประชากรในตลาดที่แทบจะหาไม่เจอคือ 'กลุ่มกำไร'- ประชากรที่หาได้เจอมากกว่า 'กลุ่มกำไร' หน่อย คือ 'กลุ่มเสมอตัว'- และคนที่ไม่เคยแพ้ หรืออย่างมากก็แค่แกล้งแพ้ คนผู้นั้น ก็คือ 'จ้าว' หรือ 'ผู้ที่มี Volume ในการซื้อขายจำนวนมาก การซื้อขายเกิดผลกับตลาดในวงกว้าง สามารถทำราคาให้เป็นไปตามความต้องการของตนเองได้ด้วยวิธีการต่างๆนาๆ เช่นวิธีการ 'Trade Balance' หรือการศึกษาเพื่อคาดการณ์ดู Order ทั้งตลาดเพื่อวางแผนเพียงแค่ 'ทำยังไงก็ได้ให้ไม่เสียดุลย์'

     มากไปกว่านั้น ยังศึกษาพฤติกรรมการเข้าซื้อเข้าขายของเทรดเดอร์ส่วนมากไปอีกด้วย ว่าหากราคาเป็นแบบนี้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมตอบสนองต่อราคาอย่างไร ทำให้เรามักกลายเป็นเหยื่อที่อยู่ในตลาดการลงทุนนี้

               ต้องเตือนตนเองเสมอๆ How to Buy 'เลยรับผ่านไส้ทำ Low แต่ยังไม่ถึงอีกรับ ผ่านการสะสม Sell ขู่ Buy เราจึง Buy'

               ต้องเตือนตนเองเสมอๆ How to Sell 'เลยต้านผ่านไส้ทำ high แต่ยังไม่ถึงอีกต้าน ผ่านการสะสม Buy ขู่ Sell เราจึง Sell'

               นี่เป็นบทสรุปความรู้ส่วนหนึ่งของ 'แอ็คมี่-วรวัฒน์ นาคแนวดี' จากงานเสวนาหัวข้อ 'จิตวิทยาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น : ความสัมพันธ์ระหว่างแท่งเทียนกับวอลลุ่ม' ยังมีความรู้ที่เขาอยากมอบให้ทุกคนมากกว่านี้อีกมาก เพราะอีกหลายๆส่วนต้องทำการใช้จริง หรือทำการยกตัวอย่างในการใช้จริงเพื่อให้เกิดความเข้าใจแล้วนำไปใช้ต่อได้ อยากจะเจอเทรดเดอร์ไทยสักคนละ 30 ช.ม. จริงๆ ขอบคุณ...

‘เพื่อนรักนักเทรด’ DoubleDeep

ความฝันอันบรรเจิดของลูกผู้ชายสู้ชีวิต 'แอ็คมี่-วรวัฒน์ นาคแนวดี' ที่เขาชนะตลาดที่แสนโหดร้ายมาได้ ยังตกผลึกทางความคิดในการลงทุน ออกมาเป็นศิลปะในการถ่ายทอดเป็นบทเพลงปลุกใจ ให้กำลังใจฯลฯ....  

ทุกครั้งที่เราได้ยินเพลง Bitcoin (ฝันใหม่) นี้ ความท้อแท้ความเหนื่อยล้าความสิ้นหวัง เหมือนจะกลับมาอีกครั้งให้เดินก้าวต่อไป และด้วยความหมายที่กินใจ ทำให้หลายคนต้องสนใจที่มาของเพลงนี้ ซึ่งก็คือเพลง ซิงเกิ้ล ‘วงร็อคเพื่อนรักนักเทรด’ DoubleDeep โดยเนื้อเพลงได้ให้กำลังใจคนที่มีความฝัน และฝ่าฟันเพื่อที่จะทำมันให้สำเร็จจนเป็นวันที่คู่ควรจะจดจำ ที่จะสะท้อนความจริงของประโยคบอกเล่าระหว่างคำว่า ‘บอกแล้ว’ กับ ‘รู้งี้’ ได้อย่างทันสมัย และชัดเจน ผ่านการร้องอย่างตั้งใจเพื่อที่จะบอกเรื่องราวการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้ของ แอ็คมี่-วรวัฒน์ นาคแนวดี นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่หัวใจศิลปิน ในบทบาทนักร้องนำแห่งวงร็อค DoubleDeep

               แอ็คมี่-วรวัฒน์ เล่าว่า สาเหตุที่ทำเพลง Bitcoin เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องการสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง โดยเนื้อเพลง คือเด็กหนุ่มที่มีความฝันคนหนึ่งพยายามที่จะบอกทุกคนว่า Bitcoin นั้นมีคุณค่าแต่ในช่วงที่ Bitcoin เกิดขึ้นมาใหม่ๆนั้นไม่มีใครสนใจว่ามันจะสร้างมูลค่ามหาศาลได้ เพราะ Bitcoin มีต้นกำเนิดมานานมากแล้วตั้งแต่ประมาณปี 2009- 2021 ซึ่งมันต้องใช้เวลาถึง 12 ปีกว่าจะทำให้คนเชื่อ และหันมาเห็นคุณค่าที่แท้จริงของมัน

“นี่คือครั้งแรกที่คิดว่า เราต้องการจะทำลายกำแพงระหว่างเรื่องของการลงทุน และศิลปะให้มารวมกัน เราเชื่อว่าการลงทุนหรือการเทรด คือศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นการที่สร้างเพลง Bitcoin และนำสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวกับการลงทุน เป็นสิ่งที่มีคนทั้งโลกตอนนี้ อยากได้แล้วก็เคยเป็นสิ่งที่คนทั้งโลกต่อต้าน เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเงินใหม่และการเงินเก่า แต่เราไม่ได้มองถึงเรื่องการเงินเลย มองถึงความเป็นอยู่ มองความพยายามของการทำลายกำแพงหัวใจคนทั้งโลกมาเป็นสกุลเงินใหม่ของโลก

เราอยากจะให้เพลง Bitcoin เป็นตัวกระตุ้นความฝันของทุกคน ที่มีความฝันในความสำเร็จ แล้วก็พยายามทำมันซ้ำๆ นึกถึงความฝันความท้อแท้ ตอนนั้น ผมอยู่ในสภาพที่ไม่มีใครให้กำลังใจผมได้ แล้วต้องการเพลงที่ให้กำลังใจตัวเองได้ และถ้ามันให้กำลังใจตัวเองได้เนี่ย เชื่อว่า มันต้องให้กำลังใจคนอีกหลายคนแน่นอน หลังจากนั้นแหละ พี่อู๋ทำทำนอง พี่กอล์ฟทำเนื้อร้องเสร็จ ผมเอามาร้อง สุดท้ายเพลงก็เข้าสู่กระบวนการการผลิต

เราช่วยกันจนมันกลายมาเป็นเพลง Bitcoin อย่างมิวสิควีดีโอเนี่ยจริงๆแล้ว Story คือมันมีเนื้อเรื่องบางส่วนจากชีวิตของผม เรื่องราวตั้งแต่เข้าสู่วงการครั้งแรกปี 2013 ผมต้องโดนอะไรมาบ้าง เราคุยกับพี่ยุ่น นะครับว่า เราต้องการให้พระเอก MV เนี่ยเป็นคนที่พยายามสื่อสารกับคนว่าซื้อ Bitcoin หรือรับซื้อ Bitcoin จากทุกคนนะ เขาพยายามจะยืนหยัดและมั่นในบิทคอย มาตั้งแต่ปี 2013 จนเขาได้รับผลลัพธ์ในปี 2021 ซึ่งเนื้อเรื่องมันก็จะมี เขาเป็นเด็กพาร์ทไทม์ ทำงานในร้านเหล้าแจกโบว์ชัวร์ใบปลิวที่ผมเคยทำมิวสิควีดีโอเนี่ย ผมก็เลยได้ช่วยในการเขียนบทของพระเอกมิวสิควีดีโอ

ความสำเร็จต้องทำซ้ำได้

‘แอ็คมี่-วรวัฒน์’เขากล่าวว่า เขาเป็นเทรดเดอร์ด้วยคนหนึ่ง เป็นนักลงทุนคนหนึ่ง และเป็นเด็กคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตด้านธุรกิจมันยากลำบากขนาดไหน ที่เขาชอบมากๆเลย คือมีคนมาคอมเม้นต์ว่า เขาบอกว่า เป็นเพลงที่สามารถอธิบายการลงทุนและศิลปะออกมาได้อย่างลงตัวที่สุด ชอบมากเพราะว่า มันตอบโจทย์ ว่าต้องการจะทำเพลงที่มันเข้าไปถึงจิตใจของคนที่เขามีความฝันความพยายาม ‘Bitcoin (ฝันใหม่)’

 กล่าวย้ำ ‘ความสำเร็จต้องทำซ้ำได้ จงเชื่อในการสร้างใหม่เสมอ ผมชนะแล้ว และผมก็จะชนะอีก ถ้าผมแพ้แล้ว ผมก็จะกลับมาชนะใหม่ คนไม่หยุดเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ เพราะผมคือ #AcmeTraderist’

        ประการสำคัญการมี'ชีวิตติดเทรด' ผมพยายามถามตัวเองอย่างสม่ำเสมอ...เพราะด้วยการตั้งคำถามต่อตัวเองเสมอๆ นั้นจะช่วยฝึกฝนให้เราเรียนรู้ชีวิตได้เป็นอย่างดีครับ และผมก็มักจะตั้งคำถามตัวเองด้วยคำถามที่ว่า ...’ระยะนี้ความคิดของเราเป็นยังไง?’ เสมอๆ

        โดยเฉพาะในช่วงเวลา ที่‘แอ็คมี่-วรวัฒน์’ เขามักมีคำเชิญชวนที่น่ารัก จากการเห็นสัญญานการซื้อขายในตลาด Forex คู่ทอง XAU-USD มีการเคลื่อนไหวขึ้น-ลงรุนแรง เขาได้ส่งคำเชิญชวนนักลงทุนคู่ทอง Live Now !!! Live Now !!! ‘ชีวิตติดเทรดห้ามพลาด’ มามันส์ไปด้วยกันตามการวิ่งอันสุดเหวี่ยงของกราฟแท่งเทียน วิเคราะห์กันแบบแท่งต่อแท่ง วิต่อวิ และฝึกแนวคิดจิตวิทยาการเทรดไปพร้อมๆ กัน

      ...ช่วงหลายวันนี้ มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมากมาย ผมจึงอยากชวน Trader และแฟนเทรดทุกคนมาทำสิ่งดีร่วมกัน นอกเหนือจากเรื่องการมาร่วมกันแบ่งปันความรู้ต่างๆ ทั้งเรื่องกราฟ เรื่องเหรียญ ไปจนถึงการเทรดเพื่อทำกำไรจากตลาดโลก บอกได้เลยครับว่า ไลฟ์ครั้งนี้ มีทั้งความมันส์ และสาระแน่นอน รู้แล้วอย่างนี้ ก็อย่าพลาดให้ต้องบ่นว่า'รู้งี้' ครับ… 

ทุ่ม 150 ล้านบาท เปิดตัวบิทแนนซ์

       ระยะเวลา 8 ปี แห่งการเรียนรู้ ลองผิด ลองถูก ในตลาดการเงินโลก จนค้นพบทฤษฏีการเข้าจุดซื้อ-ขาย ซึ่งหนึ่งในคำถามที่เขาเชื่อว่า ทุกคนที่ต้องการพัฒนาตัวเอง อยากเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น หรือต้องการทำอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างท้าทายในชีวิต จะต้องเคยมีคำถามนี้ในหัวใจ นั่นคือ'ทำไมสิ่งที่เราตั้งใจ มุ่งหวัง ลงมือทำ ถึงยังไม่ค่อยสำเร็จ หรือเป็นไปตามที่คิด???' ...

      ถ้าผ่านสองอย่างนี้ไปได้...จุดที่เราอยู่จะกลายเป็นอดีต มีคำคมดีๆ มากมายที่เราต่างเคยได้ยินได้ฟังกันมา และก็รู้ว่ามันถูกต้อง 'ระยะทางหมื่นลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก' หรือ 'กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว' สุดท้ายแล้วการเทรดในตลาด Forex และตลาด Cryptocurrency ต้องมีการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ 'เราทำมันจริงๆ และ ทำได้จริงๆ'

      นับเป็นแบบอย่างในวิธีคิด การจัดการที่เป็นระบบ นอกจากนี้ แล้ว 'แอ็คมี่-วรวัฒน์' ยังสานฝันต่อด้วยการทุ่มเงิน 150 ล้านบาท เปิดตัวบริษัท Fintech 'บิทแนนซ์' พร้อมปั้น 'Traderist Academy' ศูนย์พัฒนาศักยภาพนักลงทุนยุคใหม่ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์ทางด้านฟินเทค ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนระดับโลกของคนไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการให้ความรู้

       “เขาได้ก่อตั้ง บริษัท บิทแนนซ์ จำกัด ขึ้น เพื่อพัฒนาและให้บริการซอฟท์แวร์ทางด้านฟินเทค (Fintech : Financial Technology)และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการเงินด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ระดับโลก สอดคล้องกับกระแสความนิยมในสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ที่กำลังเปลี่ยนโลกการเงินสู่ระบบเปิดแบบไร้ศูนย์กลาง (Decentralized)

      โดยจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 ด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท (ชำระเต็มจำนวน) ซึ่งงบลงทุนทั้งหมดได้มาจากกำไรในการลงทุนเทรดในตลาดโลก 100% โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายในการสร้างประสบการณ์การลงทุนเหนือระดับให้กับผู้ใช้บริการ ‘ผลิตภัณฑ์ของบริษัท’ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวดเร็ว ใช้งานง่าย และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด ซึ่งยึดเป็นหลักสำคัญในการบริหารจัดการ

ให้ความรู้ไม่มีค่าใช้จ่าย

       ถามถึงสถานที่ตั้งของบริษัท และค่าใช้จ่าย นักร้องนำ DoubleDeep เจ้าของเพลง ‘Bitcoin (ฝันใหม่)’ บอกว่า บริษัท บิทแนนซ์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ ถนนนาคนิวาสซอย 16 เขตลาดพร้าว เป็นอาคาร 3 ชั้น 2 อาคาร มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 5,500 ตารางเมตร สามารถรองรับพนักงานได้มากถึง 500 คน ภายในมีการออกแบบเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ควบคู่ไปกับการทำงาน และมีการใช้เทคโนโลยีทางด้านไอทีที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจทางด้านฟินเทค และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ

       อีกทั้ง บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการสรรหาบุคลากรที่มีทักษะ ความสามารถที่ฉายแววโดดเด่นเป็น Rising Star ทางด้านฟินเทค โดยได้เปิดรับสมัครผู้มีศักยภาพมาร่วมงานกว่าหลายร้อยตำแหน่ง เพื่อมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของ Bitnance ที่กำลังจะสร้างขึ้นให้แข่งขันในระดับโลกได้

       “บริษัทได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาศักยภาพนักลงทุนยุคใหม่ ภายใต้ชื่อ 'Traderist Academy'โดยได้สร้างฮอลล์ขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มากถึงครั้งละ 1,000 คน พร้อมเปิดกว้างให้กับนักลงทุน และผู้ที่สนใจได้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะด้านการลงทุน ผ่านเทคโนโลยีด้านการเงินที่ทันสมัย ซึ่งมีหลักสูตรการเรียนการสอนตั้งแต่พื้นฐาน ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านฟินเทคระดับแถวหน้าของเมืองไทยที่จะมาส่งต่อความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกลงทุนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

       ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแต่ละครั้ง จะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการให้ความรู้และทางบริษัทฯ ไม่มีนโยบายรับฝากการลงทุนทุกประเภท ตามอุดมการณ์ของผู้ก่อตั้ง ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ให้มีความรู้ความสามารถด้านการลงทุนและใช้ชีวิต เรียนรู้ที่จะประสบความสำเร็จและช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการให้ความรู้แต่อย่างใด

     เทรดเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก มีคนบอกรัก ก็เทรดต่อ…เขามีความฝันให้ไกลไปให้ถึงอันยิ่งใหญ่ น่าจะเป็นบทพิสูจน์ของเขา’ แอ็คมี่-วรวัฒน์ นาคแนวดี’  ชายหนุ่มที่เป็นทั้งศิลปิน เทรดเดอร์ นักลงทุน และยังเป็นโค้ช ผู้ที่สอนการลงทุนอีกด้วย วันนี้ เขาได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาแล้ว แต่สำหรับคนหนุ่มไฟแรง เขายังคงมีอะไรให้ก้าวเดินต่ออีกมากมาย และที่นี่แหละครับ ที่เราจะมาสร้างความสำเร็จไปด้วยกัน.. !ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไป

      ภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สงบลง ท่านนักลงทุน ผู้ใช้เงินทำงานจะได้พบกับ 'บิทแนนซ์'(Bitnance) บริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์ทางด้านฟินเทค ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนระดับโลกของคนไทย พร้อม Traderist Academy ศูนย์พัฒนาศักยภาพนักลงทุนยุคใหม่ เพื่อให้ความรู้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เร็วๆ นี้…

      อย่าพลาดโอกาสทองการเรียนรู้ในตลาดการเงินโลก Crypto-Forex เชียวครับ ท่านผู้ชม....