ตลาดรถยนต์ในประเทศ ปี 57 หดตัวแรง... ส่งผลให้การผลิตอาจลดเหลือ 2.2-2.3 ล้านคัน
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Saturday, 21 May 2016 13:08
- Hits: 954
ตลาดรถยนต์ในประเทศ ปี 57 หดตัวแรง... ส่งผลให้การผลิตอาจลดเหลือ 2.2-2.3 ล้านคัน
จากตัวเลขการรายงานยอดขายรถยนต์ในประเทศในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2557 ของสถาบันยานยนต์ ชี้ให้เห็นถึงยอดขายรวมที่เหลือเพียง 140,228 คัน ลดลงอย่างมากถึงกว่าร้อยละ 45.2 จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มีจำนวน 255,727 คัน ส่งผลให้เห็นถึงทิศทางการหดตัวของตลาดรถยนต์ปีนี้ได้อย่างชัดเจน หลังผลจากโครงการรถยนต์คันแรกได้หมดลง โดยค่ายรถยนต์ต่างส่งมอบรถยนต์ที่ค้างส่งเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งทิศทางยอดขายรถยนต์หดตัวเช่นนี้ คาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องไปเกือบตลอดทั้งปี จากปัจจัยลบรอบด้าน ได้แก่ ความต้องการซื้อรถยนต์ที่หดตัวอยู่แล้วจากการที่โครงการรถยนต์คันแรกได้ดึงความต้องการซื้อล่วงหน้าในอนาคตไปใช้ และฐานที่สูงมากจนถึงช่วงประมาณกลางปี รวมถึงกำลังซื้อที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัวอยู่จากปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในตลาดภูมิภาคต่างจังหวัด นอกจากนี้ปัจจัยลบอีกประการสำคัญที่เข้ามากระทบตลาดปีนี้ คือ ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่อาจจะยืดเยื้อ ซึ่งนอกจากจะทำให้บรรยากาศในการซื้อรถยนต์ลดลงแล้ว การดำเนินนโยบายของรัฐบาลในบางด้านที่ล่าช้าออกไป ก็อาจมีผลต่อความต้องการซื้อรถยนต์ของผู้ซื้อบางกลุ่ม เช่น เกษตรกร ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นต้น
สำหรับยอดขายรถยนต์ที่หดตัวลงนั้น แม้ว่าจะหดตัวลงทั้งหมดทุกประเภทรถยนต์ แต่หากพิจารณาแยกย่อยลงไป ความรุนแรงของการหดตัวนั้นจะต่างกันอยู่บ้าง และผลจากปัจจัยลบต่างๆที่เข้ามากระทบกับรถยนต์ประเภทต่างๆในปี 2557 นี้ก็จะต่างกันไป ดังนี้
ตลาดรถยนต์นั่ง ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ถึงเกือบร้อยละ 50 ของตลาดรวมในประเทศในปี 2556 นั้น จากสถิติของสถาบันยานยนต์พบว่า ในกลุ่มรถยนต์นั่งด้วยกันเอง แม้ว่าโดยรวมแล้ว ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2557 จะหดตัวลงร้อยละ 52 แต่พบว่าเกิดจากการหดตัวลงของรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับเครื่องยนต์ 650-1,500 ซีซี เป็นหลัก ถึงร้อยละ 58.6 ขณะที่รถยนต์ขนาดใหญ่รุ่นตั้งแต่ 1,800 ซีซี ขึ้นไปหดตัวมากรองลงมาที่ร้อยละ 46.9 และรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่น 1,501-1,800 ซีซี หดตัวน้อยที่สุดที่ร้อยละ 32.7 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่าในปีนี้รถยนต์นั่งขนาดเล็กน่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ขณะที่รถยนต์นั่งขนาดกลางได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะช่วงกว่า 2 ปี ที่ผ่านมา รถยนต์นั่งขนาดเล็กถูกกระตุ้นกำลังซื้อที่เกินกว่าความต้องการซื้อจริงในตลาดไปมากจากโครงการรถยนต์คันแรกของภาครัฐ ทำให้ความต้องการซื้อปัจจุบันมีทิศทางที่ชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางไม่ได้ประโยชน์จากโครงการ ทำให้ตลาดไม่ถูกบิดเบือนไปมาก การหดตัวที่น้อยกว่าของรถยนต์นั่งขนาดกลาง จึงมาจากประเด็นเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองที่อาจยืดเยื้อเป็นหลัก ทำให้ในปี 2557 นี้ รถยนต์นั่งขนาดกลางน่าจะเป็นกลุ่มที่หดตัวลงน้อยที่สุด ขณะที่รถยนต์นั่งขนาดเล็กจะหดตัวลงมากที่สุด