อุตสาหกรรมเหล็กไทยเตรียมพร้อมขยายตลาดอาเซียนและรับมือการเปิดเสรี AEC
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Sunday, 27 March 2016 07:54
- Hits: 1892
อุตสาหกรรมเหล็กไทยเตรียมพร้อมขยายตลาดอาเซียนและรับมือการเปิดเสรี AEC
ปัจจุบันอุตสาหกรรมเหล็ก กำลังเกิดสภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดเหล็กโลก สืบเนื่องมาจากประเทศผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ๆ ผลิตออกมามากเกินความต้องการ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจในหลายๆประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะการชะลอตัว จึงมีผลต่อการลงทุนทั้งโครงการก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่างๆ ให้มีความต้องการใช้เหล็กลดลง และส่งผลให้ผู้ผลิตเหล็กจำเป็นต้องหาตลาดใหม่ เพื่อระบายสินค้าของตนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย โดยนอกเหนือจากผลกระทบต่อตลาดเหล็กในประเทศที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากเหล็กนำเข้าที่มีราคาถูกแล้ว ในด้านของการส่งออกผู้ประกอบการไทยก็ต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะตลาดอาเซียน ซึ่งหลายๆประเทศในอาเซียนกำลังมีโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการขยายการลงทุนภายในประเทศ ทำให้มีความต้องการใช้เหล็กเป็นจำนวนมาก อาเซียนจึงเป็นตลาดที่สำคัญของผู้ผลิตเหล็กหลายๆ ราย ดังนั้น ในระยะสั้นนี้ผู้ผลิตเหล็กไทยคงจะต้องเร่งปรับศักยภาพของตนเอง ให้สามารถรองรับกับการแข่งขันที่รุนแรงได้
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตลาดส่งออกเหล็กของไทยเฉพาะตลาดอาเซียนนั้น พบว่า ไทยส่งออกเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กไปยังตลาดอาเซียนคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 50 ของการส่งออกเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ไทยก็มีข้อเสียเปรียบในเรื่องของการควบคุมต้นทุนการผลิต เนื่องจากประเทศไทยไม่มีอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ หรือโรงถลุงเหล็ก โดยประเทศไทยมีเพียงธุรกิจเหล็กขั้นกลางและขั้นปลายเท่านั้น ผู้ผลิตเหล็กไทยส่วนใหญ่ยังต้องนำเข้าเหล็กขั้นต้น แล้วนำมาหลอมให้เป็นเหล็กแท่งประเภทต่างๆ ได้แก่ เหล็กแท่งกลม (Billet) เหล็กแท่งแบน (Slap) และเหล็กแท่งใหญ่ (Bloom Beam) เพื่อใช้ในการผลิตเหล็กสำเร็จรูปขั้นปลายแต่ละประเภท อาทิ ท่อเหล็ก เหล็กชุบ และเหล็กแผ่นรีดร้อน เป็นต้น ขณะที่อินโดนีเซียและมาเลเซียมีโรงถลุงเหล็ก โดยมีกำลังการผลิตรวมกันเฉลี่ยเท่ากับ 5 ล้านตันต่อปี (วิธีหลอมแบบ Direct Reduced Iron: DRI) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8 ของกำลังผลิตเหล็กโลก ทั้งนี้ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2549-2553) กลุ่มอาเซียน มีปริมาณการผลิตเหล็กเฉลี่ย 25 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งไทยมียอดผลิตเหล็กกึ่งสำเร็จรูปมากที่สุดโดยเฉลี่ยร้อยละ 30 ของยอดผลิตทั้งหมดในอาเซียน หรือคิดเป็นประมาณ 7.5 ล้านตันต่อปี