ส่งออกไทยไปจีนเดือน ก.ค. ยังเติบโตได้...ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวลง
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Wednesday, 20 January 2016 11:47
- Hits: 1359
ส่งออกไทยไปจีนเดือน ก.ค. ยังเติบโตได้...ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวลง
ทิศทางการค้าระหว่างไทยและจีนในเดือนกรกฎาคม 2554 สอดคล้องกับตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจจีนในภาคการบริโภคที่ยังคงบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนไม่ได้ชะลอตัวรุนแรงอย่างที่หวั่นเกรงกัน โดยการส่งออกของไทยไปจีน
สามารถทำลายสถิติมูลค่ารายเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกแล้วด้วยมูลค่า 3,109 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยอัตราการเติบโตร้อยละ 83.8 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 25.6 ในเดือนก่อนหน้า
ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการที่แหล่งผลิตกระดาษของจีนในหลายมณฑล เช่นกวางตุ้ง เจ้อเจียง เจียงซู และเสฉวน ล้วนได้รับความเสียหายจากอุทกภัยอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่หากไม่รวมการส่งออกกระดาษและ
ผลิตภัณฑ์กระดาษที่มีการเติบโตก้าวกระโดดค่อนข้างมากในเดือนนี้ ก็จะพบว่าการส่งออกของไทยไปจีนในเดือนกรกฎาคมขยายตัวประมาณร้อยละ 43.6 (YoY) ทั้งนี้ ด้วยความต้องการนำเข้าจากจีนมักมีความผันผวน
ค่อนข้างมาก และมักขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาการสะสมสต็อกสินค้าของธุรกิจในจีน ตัวเลขในเดือนนี้จึงอาจไม่ใช่สัญญาณที่ยืนยันถึงความต้องการที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ท่ามกลางแนวโน้มที่เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวลง
ภาคอุตสาหกรรมจีนส่งสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีเศรษฐกิจล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2554 ของจีนได้สะท้อนสัญญาณการชะลอตัวที่ชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต(PMI)
ของจีนในเดือน ก.ค. 2554 ที่จัดทำโดยสหพันธ์โลจิสติกส์ที่ได้ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 50.7 จุด ต่ำสุดในรอบ 29 เดือน หรือการลงทุนสินทรัพย์ถาวรใน 7 เดือนแรกปี 2554 ที่ขยายตัวร้อยละ 25.4 แตะ 15.24 ล้านล้านหยวน
ก็ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากระดับการเติบโตร้อยละ 25.6 ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ เช่นเดียวกับผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนในเดือนกรกฎาคม 2554 ซึ่งขยายตัวชะลอตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ 14 (YoY) จากระดับร้อยละ
15.1 (YoY) ในเดือนก่อนหน้า รวมไปถึงยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของจีนที่ร่วงลงมาอยู่ระดับ 493 พันล้านหยวน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดของปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ความพยายามของจีนที่จะดูดซับสภาพคล่องออกจาก
ระบบนั้นกำลังใช้ได้ผล ขณะที่ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ (M2)เมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคมก็เติบโตชะลอตัวลงจากระดับร้อยละ 15.9(YoY)ในเดือนก่อนหน้า มาขยายตัวที่ร้อยละ 14.7 (YoY) แตะ 77.29 ล้านล้านหยวน
และต่ำกว่าอัตราการเติบโตของเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้วซึ่งเติบโตร้อยละ 17.6 (YoY) จึงน่าจะเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกำลังชะลอตัวลง ท่ามกลางเศรษฐกิจโลก
ที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า