การเข้าสู่ช่วงลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก คาดว่าจะราบรื่น จากภูมิต้านทานต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Wednesday, 20 January 2016 09:37
- Hits: 1153
การเข้าสู่ช่วงลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก คาดว่าจะราบรื่น จากภูมิต้านทานต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น
เริ่มต้นแล้วกับ 11 สิงหาคม 2554 วันสำคัญวันหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์การเงินไทย ซึ่งการคุ้มครองเงินฝากแบบเต็มจำนวนจะสิ้นสุดลง และสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะเริ่มจำกัดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก
ภายใต้วงเงินสูงสุด ไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อรายผู้ฝากต่อสถาบันการเงิน ดังนั้น ด้วยโอกาสนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงทำการประเมินภาพรวมและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนผ่านการลดวงเงินคุ้มครองจากเต็ม
จำนวนเหลือ 50 ล้านบาท ต่อรายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน และมาที่ระดับ 1 ล้านบาท ต่อรายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ในวันที่ 11 สิงหาคม 2555 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การเปลี่ยนผ่านจากเต็มจำนวน สู่ 50 ล้านบาท: เป็นไปได้อย่างราบรื่น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สถานการณ์ต่างๆ ในปัจจุบัน เป็นไปในทิศทางที่เอื้ออำนวยต่อการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก ทั้งในด้านภาวะการณ์
ทางเศรษฐกิจ ความพร้อมของผู้ฝากเงินและสถาบันการเงินในปัจจุบัน ตลอดจนความพร้อมของหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ส่งผลให้การเปลี่ยนผ่านจากการคุ้มครองเต็มจำนวนไปสู่การคุ้มครองเงินฝากไม่เกิน
50 ล้านบาท เป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีภาวะเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในต่างประเทศ การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ต่อเนื่องไปถึงช่วงที่เหลือของ
ปี 2554 นี้ คาดว่ายังสามารถรักษาโมเมนตัมการขยายตัวได้อย่างค่อนข้างดี โดยได้รับแรงส่งจากภาคการส่งออกที่เติบโตดีเกินคาด และอุปสงค์ในประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ดี คงจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจไทยปี 2554 นี้
สามารถขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 3.5 – 4.5 (ค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ 4.0) แม้ว่าจะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ผู้ฝากเงินได้ทยอยจัดสรรและกระจายเงินออมบางส่วนไปสู่ช่องทางการลงทุนอื่นๆ แล้วในระดับหนี่ง ผู้ฝากเงิน โดยเฉพาะผู้ฝากที่มีวงเงินฝากสูงกว่า 50 ล้านบาท มีการกระจายเงินออมไปบ้างแล้วบางส่วน
เพื่อรองรับการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก