WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ท่าทีเฟด เงินหยวน และปัจจัยเฉพาะของไทย อาจมีผลต่อทิศทางเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี

9749 KR Thai Baht

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ท่าทีเฟด เงินหยวน และปัจจัยเฉพาะของไทย อาจมีผลต่อทิศทางเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี

          หากเทียบเฉพาะในเดือนก.ย. 2566 เงินบาทอ่อนค่าเร็วกว่าสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย โดยนอกจากผลของเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นจากเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ แล้ว เงินบาทยังอ่อนค่าตามเงินหยวน ซึ่งมีความสัมพันธ์กันถึงกว่า 80% เมื่อมองไปในช่วงที่เหลือของปี 2566 ตลาดรอจับตาท่าทีเฟด เงินหยวน และปัจจัยเฉพาะของไทย ซึ่งอาจยังคงกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงในระยะสั้น

          แม้ภาพรวมการเคลื่อนไหวของเงินบาทนับตั้งแต่ต้นปี 2566 จะอ่อนค่าในลักษณะเกาะกลุ่มอยู่กลางตารางเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค แต่หากเทียบเฉพาะการเคลื่อนไหวในเดือนก.ย. 2566 คงต้องยอมรับว่า อัตราการอ่อนค่าของเงินบาทค่อนข้างเร็วและมากกว่าค่าเงินหยวนและสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลงท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ภายหลังจากตัวเลขจีดีพีของไทยในไตรมาส 2/2566 ขยายตัวน้อยกว่าที่คาด ประกอบกับมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากทิศทางเงินหยวนซึ่งมีปัจจัยลบจากสัญญาณความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่า วัฎจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังคงไม่สิ้นสุดลง เพราะอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายของเฟด

          ต่อภาพออกไปในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า คงต้องจับตา 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ท่าทีเฟดและเงินดอลลาร์ฯ ค่าเงินหยวนและเศรษฐกิจจีน และปัจจัยเฉพาะของไทย ที่อาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี 2566 สำหรับปัจจัยแรก คาดว่า เฟดยังน่าจะส่งสัญญาณในเชิงคุมเข้ม ซึ่งอาจหนุนค่าเงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ ให้ปรับสูงขึ้น ส่วนปัจจัยที่สอง ประเมินว่า เงินหยวนของจีนยังอาจเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่า เนื่องจากแนวโน้มที่เปราะบางของเศรษฐกิจจีน ตลอดจนปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์อาจไม่สามารถแก้ไขให้คลี่คลายลงได้ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์หรือ Correlation ระหว่างเงินบาทกับเงินหยวนอยู่ที่ 0.81 ดังนั้น การอ่อนค่าของเงินหยวนที่อาจเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า ก็อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงตามในบางจังหวะด้วยเช่นกัน และปัจจัยสุดท้าย เป็นปัจจัยเฉพาะของไทย ซึ่งก็คือสถานะดุลบัญชีเดินสะพัดและฐานะการคลัง ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยที่ตลาดรอติดตามอย่างใกล้ชิด โดยแนวโน้มการชะลอตัวของประเทศคู่ค้าและสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นอาจกดดันให้ฐานะดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยอ่อนแอลง ขณะที่มาตรการภาครัฐที่เตรียมจะดำเนินการในระยะข้างหน้า ก็เป็นอีกปัจจัยที่ตลาดรอความชัดเจน เพราะจะมีผลต่อการประเมินสถานะทางการคลัง แนวทางและขนาดการก่อหนี้ รวมไปถึงภาระทางการคลังทั้งในและนอกงบประมาณที่อาจเกิดขึ้นในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า

 

อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ที่ : https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/Baht-EBR4017-FB-20-09-2023.aspx

 

 

A9749

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

iconmotor

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!