- Details
- Category: งานวิจัยเศรษฐกิจ
- Published: Sunday, 03 January 2016 20:30
- Hits: 11072
10 ธุรกิจ 'เด่น-ดับ' ปีลิง
ไทยโพสต์ : ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทำการสำรวจ "10 ธุรกิจดาวเด่น-ดาวร่วง" ในปี 2559 โดยพิจารณาจากข้อมูลด้านการนำเข้าและส่งออก ข้อมูลสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ข้อมูลดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจของไทย และประเทศคู่ค้าที่สำคัญ รวมทั้งดัชนีตลาดหลักทรัพย์
สำหรับ ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2559 คาดว่าจะขยายตัว 4.0% การส่งออกขยายตัว 4.0% การบริโภคภายในประเทศขยายตัว 3.7% การลงทุนขยายตัว 6.2% อุตสาหกรรมขยายตัว 6.2% ภาคเกษตรขยายตัว 0.7% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1.4%
โดยธุรกิจ "ดาวเด่น" อันดับ 1 ยังคงเป็นธุรกิจทางการแพทย์และความงาม ซึ่งครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2554 เนื่องจากกระแสการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและการดูแลความงามมีมากขึ้น และการบริการทางการแพทย์และความงามของไทยได้รับการยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศในด้านคุณภาพและราคาไม่แพง ประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์และนวัตกรรมที่ทันสมัยมากขึ้น
อันดับ 2 ธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสารสนเทศและการสื่อสาร เนื่องจากการเข้าสู่ยุค Digital Economy และเทคโนโลยี 4G ทำให้มีการพัฒนาระบบสื่อสารที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ระบบสื่อสารมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ให้บริการยังมีไม่มาก
อันดับ 3 ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว เนื่องจากคนใส่ใจสุขภาพและความงาม ทำให้มีความต้องการใช้สูง จำนวนผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการดูแลตัวเอง วัตถุดิบของประเทศมีคุณภาพ และรัฐบาลให้การสนับสนุน และการรวมตัวกันของผู้ประกอบการเป็นคลัสเตอร์ ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจ
อันดับ 4 ธุรกิจการท่องเที่ยว มีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว ความคุ้มค่าในการท่องเที่ยว ความหลากหลายในสถานที่และวัฒนธรรมของไทย รวมถึงการได้รับการสนับสนุนด้านนโยบายจากภาครัฐ
อันดับ 5 ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต จากนโยบายการหักลดหย่อนภาษีที่มีต่อเนื่อง ประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับการออมเงินมากขึ้น รูปแบบของผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น
อันดับ 6 ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเพื่อสุขภาพ จากความต้องการสินค้าของผู้บริโภคในประเทศและอาเซียน การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มมีมากขึ้น และรูปแบบการบริการที่สะดวกรวดเร็ด เช่น สั่งผ่านทางอินเทอร์เน็ต
อันดับ 7 ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ จากการเข้าสู่ประชาชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี การพัฒนาเมืองและการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ และราคาน้ำมันที่ปรับลดลง
อันดับ 8 มี 2 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจจัดการตลาด เช่น ตลาดนัดและตลาดสด ตลาดนัดกลางคืน พฤติกรรมของประชาชนยังคงนิยมซื้อสินค้าและอาหารที่ตลาด อีกทั้งมีความต้องการหารายได้เสริม และธุรกิจขายวัสดุก่อสร้างและธุรกิจก่อสร้าง ที่ได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังทรงตัวในระดับต่ำ
อันดับ 9 มี 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจจำหน่ายและผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ ธุรกิจยา เวชภัณฑ์ และสมุนไพรธรรมชาติ จากการที่ผลิตภัณฑ์ทางด้านผู้สูงอายุมีมากขึ้น และระดับราคาเหมาะสม รวมทั้งสังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว และธุรกิจการศึกษา (สถาบันภาษา โรงเรียนติว สถาบันทางด้าน IT) จากกระแสความต้องการเรียนรู้มากขึ้นในยุค IT การเข้าสู่เออีซี และการแข่งขันทางด้านการศึกษาหรือการสอบระดับต่างๆ ยังมีต่อเนื่อง
อับดับที่ 10 ธุรกิจพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียน จากการที่แนวโน้มการหาพลังงานทดแทนมากขึ้น โดยเฉพาะพลังงานสะอาด นโยบายการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนของรัฐบาล และความต้องการใช้พลังงานยังมีต่อเนื่อง
สำหรับ 10 อันดับธุรกิจ "ดาวร่วง" ปี 2559 ประกอบด้วย 1.ธุรกิจหัตถกรรม 2.ธุรกิจฟอกย้อม 3.สิ่งทอผ้าผืน 4.ธุรกิจจำหน่าย ผักและผลไม้อบแห้ง และธุรกิจร้านค้าดั้งเดิมที่ไม่ปรับตัว 5.ธุรกิจรับซื้อยาง 6.โรงสีขนาดเล็ก 7.ธุรกิจสิ่งพิมพ์ หนังสือ 8.ธุรกิจรับซื้อคอมพิวเตอร์มือสองและร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือ สอง 9.ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร และ 10.ธุรกิจพ่อค้าคนกลางให้ผลทางการเกษตร.
