- Details
- Category: สัมภาษณ์พิเศษ
- Published: Saturday, 05 September 2015 21:09
- Hits: 10472
'สมหมาย ภาษี'เปิดใจ หลังพ้น รมว.คลัง
วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558 มติชนออนไลน์ : สัมภาษณ์
เป็น 1 ใน 11 รัฐมนตรีต้องพ้นจาก ครม.บิ๊กตู่ สำหรับนายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง การเข้ารับตำแหน่งล่าสุดถือเป็นการรับตำแหน่งทางการเมืองครั้งที่ 2 และทั้ง 2 ครั้ง เป็นรัฐบาลมาจากการปฏิวัติทั้งสิ้น
ครั้งแรกเข้ามาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ครั้งล่าสุดภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายสมหมายเปิดใจถึงการเข้ามารับตำแหน่งครั้งล่าสุดกับ "มติชน" ว่า ทั้งๆ ที่รู้ว่าเหนื่อย แต่ก็ตัดสินใจเข้ามา
ผมไม่ได้มีความอยากเป็นรัฐมนตรีมาตั้งแต่ต้น แต่เพราะมีโอกาส หม่อมอุ๋ย (ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี) ตั้งใจจะเอามาร่วมงานด้วย ตอนแรกหม่อมอุ๋ยบอกว่าผมมีตำหนิ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่เอาแล้ว ผมก็บอกว่าดี จะได้ไม่ต้องเหนื่อย และไม่ต้องห่วงผม แต่เมื่อผ่านไป 3 วัน เย็นวันหนึ่งระหว่างเดินเล่นกับภรรยาที่บ้าน หม่อมอุ๋ยโทรมาบอกว่าตกลงเคลียร์แล้ว ไม่มีตำหนิอะไร
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจรับตำแหน่ง
ผมคิดว่าประเทศบอบช้ำมามาก และเท่าที่ได้เห็นนโยบายของ คสช. น่าทึ่งมาก จุดน่าทึ่งของผมที่ทำให้ตัดสินใจมี 2-3 เรื่อง ไม่ใช่เรื่องการปรองดอง เพราะปรองดองถือว่าพื้นๆ แต่เรื่องสำคัญคือ จุดที่บอกว่าจะปราบปรามคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากประเทศไทย ผมทึ่งมาก เพราะไม่เคยมีใครทำได้ ที่ผ่านมาพูดๆ กันแต่ปาก พอถึงเวลาของตัวเองก็เอาเอง แต่คราวนี้เมื่อพูดว่าจะทำแล้วดูเป็นจริงเป็นจัง และตรงนี้ถือเป็นจุดดึงดูดให้ผมยอมเหนื่อย
เรื่องที่สองคือ ทราบมาจากลูกน้องเก่า สศค. (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) ไปช่วย คสช.ทำงาน มีประเด็นในเรื่องการปฏิรูปภาษีมากมาย ผมเคยดูแลด้านคลังของประเทศมาก่อน ก็เห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะเข้ามาทำตรงนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ได้ประทับใจมากเท่า 2 เรื่องนี้ อย่างเรื่องหนี้ชาวนาตอนนั้นมีปัญหาก็ต้องแก้กันไป
งานที่ภูมิใจหรือประทับใจในตำแหน่งขุนคลัง
ผมอยู่ในตำแหน่งมา 11 เดือน ความภูมิใจคือ ผมมุ่งทำให้ 2 เรื่องดังกล่าวเป็นจุดดึงดูดผม คืบหน้าไปในระดับหนึ่ง โดยในส่วนเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชั่นนั้น ผมได้เผชิญกับเรื่องในกระทรวงการคลังที่มีปัญหาคอร์รัปชั่นรออยู่ เช่น กรณีโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) มูลค่ามโหฬาร เป็นเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนว่าข้าราชการในกระทรวงมาโกงกระทรวง ผมไล่ออกข้าราชการไปแล้ว 2-3 ราย แต่เป็นรายเล็ก ยังไม่หมดดี แต่พอใจว่าได้มาทำตรงนี้
นอกจากนั้น ยังพบว่า ข้าราชการส่วนใหญ่มีตำหนิกันมาก ไม่น่าเชื่อคนกระทรวงการคลังมีศักดิ์ศรีสูง แต่ในช่วงที่ผมห่างกระทรวงไป 8-9 ปี เกิดเรื่องไม่ค่อยดีมาก และยังได้เห็นว่าบรรดารัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐล้วนมีพฤติกรรมเกี่ยวโยงเรื่องฉ้อโกงคอร์รัปชั่นสูงมากเกือบทุกแห่ง ธนาคารออมสินก็มี ธนาคารอิสลาม (ไอแบงก์) นั้นชัดเจน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี) เคยมี รวมถึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารกรุงไทย ก็มีเรื่องที่น่าสนใจ แต่ที่ยังไม่มีเรื่องให้เห็นเป็นกิจลักษณะคือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อันนี้ไม่ได้ชม เพราะเคยเป็นประธาน แต่ยังไม่มีให้เห็นจริงๆ
คอร์รัปชั่นฝังรากลึกในสังคมไทย
ผมในฐานะอยู่กระทรวงการคลัง ได้ร่วมทำงานกับองค์กรป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นข้างนอก ทำอะไรหลายอย่าง เช่น เป็นประธานคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต ดูเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ รวมถึงนำโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) มาใช้
อย่างไรก็ตาม ผมยอมรับว่าการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นจนถึงขณะนี้ยังเห็นภาพไม่ชัด ขณะที่ยังไม่เห็นภาพชัด ประชาชนกลับเห็นภาพตรงกันข้าม มันเหนื่อย เราพยายามทำสีเทาให้เป็นขาว แต่ขณะที่ทำงานก็มีสีมาเปรอะ มีสีดำๆ ด่างๆ เข้ามาให้เห็น เพราะการทุจริตคอร์รัปชั่นในไทยหยั่งรากลึกมาก ผมอยากจะพูดว่าไม่มีมนุษย์คนไหนหรือรัฐมนตรีคนไทยจะแก้ไขได้ และในขณะที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ทำได้ในระดับหนึ่ง แต่การทำให้เรื่องนี้หมดไปต้องร่วมมือกันทำทุกกระทรวง คนไทยทุกต้องร่วมมือกัน
การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นต้องใช้เวลา ต้องจริงใจ จริงจัง แม้จะมีรัฐบาลเลือกตั้งที่มีความแน่วแน่มาแก้ปัญหา ก็ต้องใช้เวลา ถ้าใช้เวลา 4 ปีเต็ม คิดว่าทำได้อย่างดีก็แค่ครึ่งหนึ่งเพราะระบบมันฝังลึก ตอนนี้ประชาชนไม่มั่นใจองค์กรอิสระและมีการพูดถึงในทางลบด้วย
ที่ผ่านมารัฐบาลไม่พยายามแก้ไขคอร์รัปชั่นหรือ
คุณก็เห็นสีเปรอะๆ มาจากรัฐบาลทั้งนั้น ทางหนึ่งที่แก้ก็พูดกันไป แต่ของจริงผู้สื่อข่าวไม่รู้ เพราะรู้แต่โครงการลงทุนใหญ่ๆ อย่างซื้อเรือดำน้ำ เรือรบ อาวุธ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ที่ไม่เกี่ยวกับพวกนี้มีมาก คนก็พูดถึงกันทั่ว วงการน้ำมัน กระทรวงพลังงาน กรมทางหลวง ตรงนี้เป็นพื้นฐานของการคอร์รัปชั่นมีอยู่ทั่วไปหมด การแก้ปัญหาจะใช้เวลาอย่างเดียวไม่ได้ ถ้าไม่มีคนทำอย่างจริงจัง และต้องทำงานแบบเป็นทีมด้วย
เรื่องคอร์รัปชั่นถือเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลเคยประกาศออกมา แต่ตอนนี้การดำเนินการหย่อนไปมาก แทนที่จะทำให้เป็นสีขาว ก็มีมือคุ้ยสีดำให้เกิดการเปรอะเปื้อนออกมา
ผมตั้งความหวัง ครม.ชุดใหม่จะสานต่อเรื่องนี้ เพราะตรงนี้ถือเป็นความปรารถนาดีของผมที่รับปากเข้ามาทำงาน ก่อน
ผมออกจากตำแหน่ง ผมก็เซ็นเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับธนาคารรัฐเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการป้องกันของปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นเรื่องเกิดขึ้นเก่า 6-7 ปี สอบสวนมานานและพบ
ข้อเท็จจริง เป็นเรื่องเคยสอบแต่เงียบไป ผมสั่งให้สอบใหม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ขอไม่บอกว่าที่ไหน
ปฏิรูปภาษีสิ่งจูงใจเรื่องที่2?
สิ่งจูงใจที่ทำให้ผมรับตำแหน่งนี้อีกเรื่องคือ การปฏิรูปภาษี ผมสนใจตั้งแต่เรียนปริญญาโทเมืองนอก ทำได้สำเร็จไปแล้วสำหรับเรื่องภาษีมรดก แต่ผมยังไม่ค่อยพอใจเพราะเป็นเรื่องสัญลักษณ์มากไปหน่อย แต่ถือ
เป็นภาษีสำคัญเริ่มมาตั้งแต่นโยบาย คสช. และมีภาษีอีกตัวทำไล่เลี่ยกันคือ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พอได้มาทำพบว่าเหลวแหลกมาก เพราะภาษีตัวนี้อยู่ภายใต้
การดูแลของกระทรวงมหาดไทย ท้องถิ่นมีอำนาจในการจัดเก็บ แต่พบว่ามีการต่อรองการเสียภาษีทั่วประเทศ มีใต้โต๊ะกันมาก ทำให้การจัดเก็บภาษีไม่มีประสิทธิภาพ แถมยังใช้ราคาที่ดินเฉลี่ยเมื่อปี 2521-2524 หรือกว่า 34 ปี มาเป็นฐานในการคิดภาษี เปรียบเทียบแล้วเงินนำไปซื้อฝรั่งดองยังแพงกว่าภาษีที่เสียกัน
ที่ผ่านมาภาษีตัวนี้เก็บได้ปีละ 2 หมื่นล้านบาท แม้จะมีความพยายามจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) นักวิชาการพยายามจะผลักดันกัน แต่ไม่สำเร็จ ถูกเก็บใส่ลิ้นชักมานานในช่วงรัฐบาลเลือกตั้ง ผมดีใจที่ได้รับนโยบายจาก คสช.ให้มาทำ และในช่วงแรกผมทำอย่างจริงจัง ตั้งความหวังไว้ว่าการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนล้านบาท มากกว่าของเดิม 10 เท่า หรืออาจมากกว่านั้น แต่ทำไปทำมาโดนต่อต้านมาก พอมีกระแสวิจารณ์มาก วันหนึ่งท่านนายกฯบอกให้หยุดพูด แต่โชคดีไม่ได้บอกให้เลิกทำ ถ้านายกฯบอกไม่เอาเรื่องนี้และให้หยุดทำ ผมก็จะลาออกตั้งแต่วันนั้น และผมเตรียมเขียนหนังสือลาออกไว้แล้ว
เท่าที่คุยกับหม่อมอุ๋ยเข้าประชุมเรื่องนี้ ท่านก็ยืนยันว่าหยุดไม่ได้ เพราะถ้าหยุดประเทศไทยจะยิ่งง่อยไปอีก ทุกวันนี้ภาษีมีสัดส่วน 18-19% ของจีดีพีเท่านั้น เทียบกับประเทศเจริญแล้วทั้งยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น มีสัดส่วนภาษี 30-50% ของจีดีพี แม้จะเก็บภาษีมาก แต่ประเทศเหล่านั้นก็ยังทำงบขาดดุล เพราะต้องนำเงินมาจ่ายให้ประชาชน อาทิ ประชานิยม
เมื่อรายได้รัฐเป็นก้อนใหญ่ของจีดีพี สามารถนำเงินตรงนี้มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดีกว่าการพึ่งพาการส่งออก และยิ่งการส่งออกของไทยกำลังตกในขณะนี้ มองไม่ออกจะผลักด้วยอะไร ผมว่าตั้งอีก 10 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ผลักไม่ได้
นอกจากภาษีมรดกและภาษีที่ดินแล้ว ที่ผ่านมาทำเรื่องปิดรอยรั่วในการจัดเก็บภาษี การแก้ปัญหาหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ได้ฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ช่วยผลักดันต่อแล้ว
อยากให้มองอนาคตของรัฐบาลชุดนี้ว่ายังไปไหวไหม
เขาเพิ่งออกจากห้องคลอด ยังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลย ให้คอมเมนต์อะไร แต่อำนาจแบบนี้รัฐบาลจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ แต่จะอยู่โดยประชาชนพอใจหรือไม่พอใจ ผมอยากจะบอกประชาชนที่ไม่พอใจผม ผมไม่ถือสา เพราะผมเข้าใจว่าเขาไม่เข้าใจ มีการต่อว่านายสมหมายว่ามีแต่เก็บภาษี ไม่ได้ทำอะไรเลย ผมว่าผมก็ทำมามาก ทั้งเรื่องแก้ปัญหาปัจจุบันและการวางรากฐานระยะยาว ส่วนเรื่องเก็บภาษี ผมไม่เคยขึ้นภาษีเลยแม้แต่ตัวเดียว มีแต่ลดกับลด
วางแผนชีวิตหลังจากพ้นเก้าอี้ไว้อย่างไร
ไม่ได้วางแผนอะไร ผมเป็นคนไม่ค่อยว่างอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำงานก็เล่นกอล์ฟมากขึ้น เที่ยวมากขึ้น นี่ก็ซื้อตั๋วพาภรรยาไปเที่ยวช่วงกลางเดือนกันยายน เป็นเวลา 12 วัน
ผมได้ตอบรับการเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว เพราะได้รับเชิญจากนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม. การเป็นที่ปรึกษาก็ไม่ได้ทำงานเต็มเวลา จะประชุมเป็นครั้งๆ ไป และยังก็ไม่ได้รับมอบหมายให้ดูด้านไหนเป็นพิเศษ
ถ้าอนาคตหากมีคนมาชวนให้เป็นรัฐมนตรีอีกจะตัดสินใจอย่างไร
อย่ามาพูดตอนนี้เลย ก็ต้องดูสังขารตัวเองด้วย ตอนนี้ก็อายุ 71 ปีแล้ว