- Details
- Category: สัมภาษณ์พิเศษ
- Published: Sunday, 07 December 2014 19:52
- Hits: 8805
อาทิตย์เอกเขนก : ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ เจเนอเรชั่น 2 บาร์บีคิวพลาซ่า
ไทยโพสต์ : ในยุคปัจจุบัน การรับประทานอาหารนอกบ้านนับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้สมาชิกของครอบครัวได้รวมตัวกัน และเชื่อได้เลยว่า ชื่อของ'บาร์บีคิวพลาซ่า'จะต้องเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่หลายคนต้องเลือกเข้าใช้บริการในวันสังสรรค์ของครอบครัว
'ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ'ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด หรือ'ป้อง'น้องเล็กแห่งครอบครัวบาร์บีกอนเพื่อนรัก หนึ่งในทายาทรุ่นที่ 2 ของบาร์บีคิวพลาซ่า ผู้ที่เติบโตมาพร้อมกับธุรกิจร้านอาหารของครอบครัว ด้วยเหตุความคุ้นเคยตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์ ทำให้หนุ่มวัย 29 ปีที่เพิ่งสละโสดไปไม่นาน จึงได้เลือกที่จะศึกษาเกี่ยวกับด้านอาหารอย่างจริงจัง
"ตอนแรกเลย ผมอยากเรียนต่อปริญญาตรีเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ไบโอ ชีววิทยา พวกนี้มากกว่า แต่พอมาลองนึกดูแล้ว อยากทำอะไรที่ใกล้ตัวมากกว่า ซึ่งส่วนตัวแล้ว ผมเองก็เป็นคนชอบทานอาหารอยู่แล้วด้วย แต่ถ้าหากจะเรียนทำอาหารมันก็จะดูแคบไป เลยเลือกที่จะเรียนฟู้ดไซน์ (Food Science) ดีกว่า ผมมองว่ามันหลากหลายมากกว่า
พอผมจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาแล้ว ก็ได้นำความรู้ที่ได้เข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัว ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังจะสร้างโรงงานใหม่แถวนวนคร ส่วนปริญญาโท ผมเลือกเรียนที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะเราจบมาจากเมืองนอกแล้ว อีกหน่อยการทำงานของเราต้องอยู่ที่เมืองไทย เลยเลือกที่จะเรียนเอ็มบีเอที่ประเทศไทยดีกว่า เพื่อที่จะรู้จักคนและทำธุรกิจแบบเมืองไทยได้"
ภายหลังจากที่จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจระดับปริญญาโทแล้ว ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงก็ได้เริ่มจัดสรรเวลาให้กับธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มที่
'ชนินทร์' เล่าต่อว่า ได้เข้ามาดูแลธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มที่เมื่อช่วง 2 ปีที่แล้ว ภายหลังจากที่เรียนจบที่จุฬาฯ ซึ่งพี่สาวให้เข้ามาดูแลในส่วนของ อาร์แอนด์ดีควบคู่ไปกับการควบคุมคุณภาพ และที่สำคัญคือการพัฒนาแบรนด์ใหม่ให้กับบาร์บีคิวพลาซ่า
"ตัวผมเองได้มีการหาแบรนด์ใหม่ทั้งด้วยการพัฒนาเอง รวมถึงไปดูที่ต่างประเทศ ส่วนตัวแล้วยังไม่เคยไปที่ไต้หวันมาก่อน แต่สมัยเด็กที่เรียน เห็นเพื่อนเคยซื้อไก่ของไต้หวันมารับประทาน มันอร่อยมาก ผมจึงเลือกเดินทางไปที่ไต้หวัน ก็พบว่าอาหารที่นั่นมีความหลากหลายและรสชาติอร่อยมาก มีความครีเอทีฟ ผมมองว่าวัฒนธรรมอาหารของเขาก็ค่อนข้างมีความคล้ายกับญี่ปุ่น ผมจึงเลือกไก่ทอดแบรนด์ฮ็อท สตาร์ เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย"
สำหรับ ไก่ทอดแบรนด์'ฮ็อท สตาร์'เป็นที่นิยมในไต้หวันเป็นอย่างมาก ผู้บริหารหนุ่มเล่าว่า ได้ไปสังเกตการณ์ที่ตลาดกลางคืนมาแล้ว พบว่ามีลูกค้าต่อคิวเข้าแถวยาวกันเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มั่นใจว่าการนำเข้าแบรนด์ฮ็อท สตาร์ เข้ามาจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
โดยที่ไต้หวัน ปัจจุบันมีการเปิดให้บริการอยู่ 40 สาขา โดยการขยายสาขาในประเทศไทยนั้น จะไม่ใช้คอนเซ็ปต์เหมือนแบบไต้หวัน แต่จะทำให้เป็นลักษณะคล้ายกับสแน็ก คาเฟ่ มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นวัยรุ่น เนื่องจากเห็นโอกาสจากพฤติกรรมคนไทยที่นิยมทานอาหารว่างตลอดเวลา ประกอบกับตลาดของอาหารว่างกลุ่มนี้ที่ยังไม่มีผู้ประกอบการเข้ามาทำตลาดอีกด้วย
"เป้าหมายของผมสำหรับแบรนด์น้องใหม่ในบาร์บีคิวพลาซ่าที่ผมดูแลอยู่คือ ผมคงอยากให้สาขาได้มีการกระจายตัวอย่างทั่วถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด ผมตั้งเป้าอยากจะขยายสาขาให้ได้ 35 สาขาภายใน 5 ปี ส่วนด้านยอดขายในปีแรกคงอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท และคงเปิดราว 5-10 สาขา ผมอยากให้แบรนด์ฮ็อท สตาร์ เป็นสิ่งที่ถูกแทรกซึมเข้าไปในไลฟ์สไตล์ของคนจริงๆ การทำตลาดของเราคือ จะต้องอยู่กับคนทุกกิจกรรมและทุกสื่อ"
ขณะที่กิจกรรมยามว่างที่ผู้บริหารหนุ่มคนนี้นิยมจะหาเวลาว่างทำปีละ 1 ครั้ง คงจะหนีไม่พ้นการดำน้ำ แต่ทั้งนี้ยังมีอีกหนึ่งบทบาทนอกเหนือจากการเป็นผู้บริหารธุรกิจให้กับครอบครัว "ชนินทร์" ยังเป็นอาจารย์สอนหนังสือให้กับเด็กอีกด้วย
"คือมันเป็นสิ่งที่ผมชอบทำมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว ผมชอบติวหนังสือให้เพื่อน พอเรียนปริญญาโท ผมก็ได้มีโอกาสสอนเด็กมัธยม ส่วนมากก็จะเป็นวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ไปสอนหนังสือเด็กๆ เพราะเวลาพวกเขามีปัญหาไม่เข้าใจสิ่งที่ครูสอนในห้องเรียน แล้วมาถามผม พอผมอธิบายแล้วเห็นตาเขาเป็นประกายในสิ่งที่ตัวเองสงสัย มันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ ตอนนี้เพื่อนสมัยเรียนที่คอร์แนลด้วยกัน ก็ชวนผมไปสอนเรื่องบาร์บีคิวในภาคปฏิบัติ รวมถึงการสอนฟู้ดเซฟตี้ด้วย" ผู้บริหารหนุ่มกล่าว
บ่อยครั้งที่ผู้บริหารหนุ่มคนนี้ได้มีโอกาสเดินทางไปยังต่างประเทศ และแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้เกิดความคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับอาหาร รวมไปถึงการเข้าสื่อออนไลน์และติดตามฟู้ดบล็อกเกอร์ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจการทำงานได้ และแม้ว่าจะได้ลิ้มลองอาหารมามากมายหลายชนชาติ แต่ก็มีอาหารที่ตัวเขาชื่นชอบด้วยเช่นกัน
ธุรกิจครอบครัวอาจเป็นสิ่งที่คนภายนอกมองว่า บุคคลใดก็ตามที่เข้ามาสานต่อคงเป็นเพราะหน้าที่ของลูกที่ต้องเข้ามาทำในส่วนนี้ แต่เขากลับมองว่าเป็นสิ่งที่รู้สึกประทับใจและเรื่องดีในชีวิต แม้หลายคนจะมองว่าเป็นเรื่องไม่สนุก แต่'ชนินทร์'เล่าว่า ครอบครัวค่อนข้างให้อิสระ และไม่ได้บังคับให้มาทำ แต่ตัวเขามีความยินดีที่จะมาช่วยธุรกิจครอบครัวตรงนี้เองมากกว่า
"ทำวันนี้ให้ดีที่สุด..เป็นคติประจำใจที่ผมยึดเป็นหลักอยู่เสมอ พยายามอยู่กับอะไรที่เป็นปัจจุบัน อยู่ให้นิ่งแล้วลงมือทำมันให้ดีที่สุด เราไม่อยากมานั่งคิดเสียดายทีหลังว่าอยากย้อนเวลากลับไป มานั่งเสียดายว่าเราไม่ได้ทำ การอยู่กับสติ ณ ปัจจุบัน พอทำอะไรแล้วมันจะดีเอง มันก็เหมือนกับการสัมผัสรสชาติของอาหารแหละครับ ต้องทานอาหารช้าๆ จึงจะสามารถรับรู้ถึงรสชาติของอาหารนั้นได้ ส่วนการบริหารงาน ด้วยความที่ผมทำงานกับคนที่ประสบการณ์สูงกว่า เราก็ต้องเคารพในประสบการณ์ของเขา ตัวเราก็มีหน้าที่ให้วิสัยทัศน์ ให้ความเชื่อมั่นกับลูกน้อง ต้องรับฟังทุกประสบการณ์ อย่าคิดว่าไอเดียของเราดีที่สุด ความคิดเราไม่ได้ถูกต้องที่สุดในการทำงานเป็นทีม ความคิดของทุกคนไม่มีอะไรถูกผิด ทุกคนมีการทำงานที่แตกต่างกัน ถ้าเหตุผลโอเคก็ยอมรับได้ แน่นอนว่าอยู่เมืองไทย การเชื่อว่าการอาบน้ำร้อนมาก่อน ประสบการณ์เขาต้องดีกว่าแน่นอน"
'บาร์บีคิวพลาซ่า'ธุรกิจปิ้งย่างที่เป็นยอดนิยมของคนไทยมากว่า 27 ปี สามารถทำให้ผู้บริโภคเข้าสู่การมีอิริยาบถ'ปิ้งสุกปั๊บ เราคีบให้ ไม่ว่าใครก็ต้องยิ้ม'เป็นเหมือนสถานที่สร้างความสุขให้แก่กันของลูกค้า ขณะนี้กำลังจะเติบโตไปอีกหนึ่งขั้นด้วยการขยายพอร์ตของธุรกิจไปสู่ไลฟ์สไตล์สแน็กภายใต้แบรนด์'ฮ็อท สตาร์'
และเชื่อว่าในอนาคตบาร์บีคิวพลาซ่าจะยังคงเดินหน้า "ทำมื้อนี้ของเราให้ดีที่สุด" ด้วยการคัดสรรสินค้าอาหารมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มรสอย่างต่อเนื่องแน่นอน