- Details
- Category: POLL
- Published: Friday, 26 May 2017 10:18
- Hits: 5275
นิด้าโพล สำรวจพบว่าประชาชนส่วนใหญ่จะมีความสุขมากสุดหากบ้านเมืองสงบเรียบร้อย
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชาน เรื่อง “3 ปี คสช. กับการคืนความสุขให้คนในชาติ’ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-12 พฤษภาคม 2560 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ทั่วประเทศ กระจาย ทั่วทุกภูมิภาคและระดับการศึกษา รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน และความสุขของคนในชาติ หลังจากครบรอบ 3 ปี ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างด้วยความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ ‘นิด้าโพล’ ด้วยวิธีแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) โดยแบ่งชั้นภูมิตามภูมิภาค จากนั้นในแต่ละภูมิภาคสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกิน 1.4
จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงระดับความสุขของประชาชนในโอกาสครบรอบ 3 ปี ของ คสช. ในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อคืนความสุขให้คนในชาติ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.00 ระบุว่า มีความสุขเท่าเดิมเพราะ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ชีวิตความเป็นอยู่ยังคงเหมือนเดิม การบริหารงานไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม เศรษฐกิจและค่าครองชีพยังสูงเช่นเดิม รองลงมา ร้อยละ 32.64 ระบุว่า มีความสุขเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีการชุมนุมและความวุ่นวายทางการเมือง บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยมากขึ้น คณะทำงาน คสช. มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการทำงาน เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เห็นผลชัดเจนเป็นรูปธรรม เช่น ปัญหายาเสพติด การก่ออาชญากรรม การทุจริตคอร์รัปชัน ลดลง เป็นต้น ขณะที่ ร้อยละ 21.76 ระบุว่า มีความสุขลดลง เพราะ เศรษฐกิจปากท้องของประชาชนแย่ลง ค่าครองชีพสูง ราคาพืชผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ การบังคับใช้กฎหมายหรือแก้ไขกฎหมายไม่ตรงจุด มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพมากเกินไป นโยบายบางอย่างยังไม่ชัดเจน แต่ปัญหาต่างๆ กลับมีเพิ่มมากขึ้น และขาดความมั่นคงทางประชาธิปไตย ร้อยละ 2.24 ระบุอื่นๆได้แก่ บางอย่างมีความสุขเพิ่มขึ้น บางอย่างมีความสุขลดลง และร้อยละ 1.36 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ 2 ปี คสช. กับการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่ทำการสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 พบว่า สัดส่วนของผู้ที่มีความสุขเพิ่มขึ้น มีสัดส่วนลดลง(จากเดิม ร้อยละ 37.68 เป็นร้อยละ 32.64) เช่นเดียวกับสัดส่วนของผู้ที่มีความสุขเท่าเดิมมีสัดส่วนลดลง(จากเดิม ร้อยละ 43.28 เป็นร้อยละ 42.00) ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่มีความสุขลดลง กลับมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น (จากเดิม ร้อยละ 18.24 เป็น 21.76)
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานราชการแผ่นดินครบรอบ 3 ปี ของ คสช. ในประเด็นต่าง ๆ ที่ทำให้มีความสุขมากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 47.20 ระบุว่า เป็นเรื่องของบ้านเมืองสงบเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวายทางการเมือง รองลงมา ร้อยละ 15.28 ระบุว่า ไม่มีประเด็นใดที่ทำให้มีความสุข ร้อยละ 10.72 ระบุว่า เป็นการมุ่งแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน ร้อยละ 8.32 ระบุว่า เป็นการจัดระเบียบสังคม เช่น การจัดระเบียบทางเท้า การจัดระเบียบชายหาด ร้อยละ 3.68 ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาปากท้องเกษตรกร ร้อยละ 3.44 ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวม ร้อยละ 3.12 ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพประชาชน ร้อยละ 2.88 ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ร้อยละ 1.04 ระบุว่า เป็นการมีเสรีภาพมากขึ้น ร้อยละ 1.44 ระบุอื่นๆ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การบุกรุกพื้นที่ป่า ปัญหายาเสพติด ความเหลื่อมล้ำในสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการใช้กฎหมายที่เด็ดขาด และร้อยละ 2.88 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ท้ายสุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานราชการแผ่นดินครบรอบ 3 ปี ของ คสช. ในประเด็นต่าง ๆ ที่ยังไม่สามารถทำให้มีความสุข พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 24.80 ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวม รองลงมา ร้อยละ 14.16 ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาปากท้องเกษตรกร ร้อยละ 13.92 ระบุว่า ไม่มีประเด็นใดที่ไม่มีความสุข ร้อยละ 13.28 ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพประชาชน ร้อยละ 8.40 ระบุว่า เป็นการที่ยังไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ร้อยละ 6.40 ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน ร้อยละ 6.00 ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ร้อยละ 2.32 ระบุว่า เป็นการจัดระเบียบสังคม เช่น การจัดระเบียบทางเท้า การจัดระเบียบชายหาด ร้อยละ 2.16 ระบุว่า เป็นการมีเสรีภาพที่ยังไม่เต็มที่ของสื่อมวลชน ร้อยละ 4.96 ระบุอื่นๆ ได้แก่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาอาชญากรรม สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันในสังคม การบังคับใช้กฎหมายในบางเรื่องที่เข้มงวดมากเกินไป และการแก้ไขปัญหาของประเทศในบางเรื่องที่ยังไม่เป็นรูปธรรม และร้อยละ 3.60 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
อินโฟเควสท์