WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1ทเอมเอ

ทีเอ็มเอ จับมือ สภาพัฒน์ จัดเวทีชี้ชัดความเชื่อมโยงรัฐ-เอกชน ประสานพลังเดินหน้ายกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

    กรุงเทพฯ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์ หรือ สศช.)ร่วมจัดสัมมนา'Executive Forum on Competitiveness'โดยมีผู้นำจากภาครัฐและเอกชนขึ้นให้ข้อมูล ความคืบหน้าการทำงาน และความเชื่อมโยงกลไกเพื่อขับเคลื่อนการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

     ภายในงานสัมมนา มีการให้ข้อมูลการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.)  คณะกรรมการประสานพลังประชารัฐ และ บทบาทของภาคเอกชนในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะที่ผ่านมา

     คุณเทวินทร์ วงศ์วานิช กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลจัดให้มีคณะทำงานเข้ามาดูแลการพัฒนาความสามารถทางการแข่งขันของประเทศอย่างจริงจัง ได้แก่ ขับเคลื่อนคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ (กพข.) ที่มีอยู่เดิม และเพิ่มกลุ่มนักธุรกิจอาสา ร่วมเป็นคณะทำงานประสานพลังประชารัฐ ฯลฯ เป็นต้น โดยเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทั้งนี้ การพัฒนา ขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศเป็นการวางแผนพัฒนาระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง กพข.จะเป็นคณะทำงานกำหนดยุทธศาสตร์ รวมถึงการจัดการข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลนั้นๆ เพื่อให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มีความเข้าใจที่ตรงกัน ในขณะเดียวกัน การประสานพลังประชารัฐจะนำแผนยุทธศาสตร์ไปวางแผนปฎิบัติเพื่อให้เกิดผลลัพท์ที่ดีอย่างรวดเร็ว

    คุณกานต์ ตระกูลฮุน ผู้มีบทบาทที่สำคัญในคณะกรรมการประสานพลังประชารัฐหลายๆ กลุ่ม ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันภาครัฐเปิดกว้างมากขึ้น ยอมที่จะให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ มุมมองของการพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรม มีการวางแผนเพื่อผลิตนักวิจัยและนักพัฒนานวัตกรรม โดยจะสร้างโอกาสทางอาชีพในตลาดมากขึ้น ให้มีความก้าวหน้าในสายงาน นอกจากนี้ยังมีการเว้นภาษีของ R&D 300% สร้างบัญชีนวัตกรรมจากทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) เพื่อให้เกิดการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายจริงในตลาด (Commercialize)  ในขณะนี้มีกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เข้ามาสนับสนุนและส่งเสริม ในส่วนนี้ นอกจากเรื่องการพัฒนาด้านนวัตกรรมแล้ว ยังมีเรื่องการปรับแก้กฎหมายและกลไกภาครัฐ ที่ให้ความสำคัญของการดำเนินงานเร่งด่วน (Quick Win) ได้แก่ การทบทวนปรับแก้กฎหมายอย่างจริงจัง  ปรับลดกฎหมายที่ไม่จำเป็น  เป็นต้น เมื่อมองภาพรวมในปัจจุบันแล้ว เห็นได้ว่าทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีความตั้งใจทำงานมาก  ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างแน่นอน

    ทั้งนี้ คุณธานินทร์ ผะเอม ได้เพิ่มเติมในมุมมองของการดำเนินงานภาครัฐ ว่า การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศมีความเกี่ยวเนื่องกับการปรับโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ชาติจะต้องเชื่อมโยงเข้ากับรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่  รวมถึงแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 12 จำเป็นต้องมีการปฎิรูปอย่างชัดเจนและมีความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งจะทำเกิดความมีส่วนร่วม(ของภาคเอกชนและประชาชน) ในการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 10-20 ปี 

    ทั้งนี้ มีการอนุมัติกรอบการทำงานที่กำหนดไว้  รวมถึงแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญมาเป็นผู้นำคณะการดำเนินการและต้องเตรียมพร้อมเรื่องกำลังคนเพื่อเข้ามารองรับการพัฒนายุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรม  เช่น  มีการเตรียมแผนการศึกษา ผลิตนักวิจัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม  ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์การยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ยกตัวอย่างเช่น โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ (Physical Infrastructure)มีการพัฒนากระจายไปในพื้นที่ต่างๆ  ผ่านการวางยุทธศาสตร์ที่ต่างกันไป และตอนนี้ในท้องถิ่นก็มีความตื่นตัว ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน  เช่น เรื่องการวางผังเมือง เรื่องการขนส่งที่มีการเชื่อมต่อกันให้เกิดความคล่องตัว  เป็นต้น เป้าหมายสูงสุดของการดำเนินงานคือ มุ่งไปสู่ปรัชญาทางเศรษฐกิจ นั่นคือ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

     คุณอารีย์พันธ์ เจริญสุข เสริมข้อมูลว่า ก.พ.ร. (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ) ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการหาแนวทางพัฒนาให้การทำงานของภาครัฐรวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งต้องปรับตัวตามเกณฑ์ชี้วัดของ การจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) โดยธนาคารโลก (World Bank) ได้แก่ ง่ายขึ้น เร็วขึ้น(ราคา)ถูกลง (กฎที่ใช้)ไม่ซับซ้อน และมีคุณภาพ ทั้งนี้ ก.พ.ร. ได้วางแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว โดยมีผังขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ Doing Business ที่จะเชื่อมโยงการติดต่อและการทำงานของธุรกิจที่ต้องติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐทั้งระบบ นอกจากนี้ ยังมีการทบทวนกฎหมายอย่างจริงจัง ในเรื่องต่างๆ เช่น อ.ย.  ศุลกากร  ผังเมืองหรือที่ดิน  การตรวจคนเข้าเมือง โดยมีระยะเวลาเป้าหมายให้เสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน เป็นต้น ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการให้ข้อมูลและการนำเสนอประเด็นที่ให้ภาครัฐเข้ามาพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

       นอกจากนี้ คุณธีรนันท์ ศรีหงส์ กล่าวถึงมุมมองภาพรวมว่า การร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จำเป็นต้องจัดการข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว และประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมีความเข้าใจเนื้อหาที่ง่ายและชัดเจนด้านการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศ ซึ่งทำให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านแนวคิดพื้นฐาน จาก พื้นฐานความคิดเห็นส่วนตัว (Opinion Based) เป็น พื้นฐานข้อเท็จจริง  (Fact Based) นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนผ่านรูปแบบการดำเนินงานจาก รูปแบบการทำงานแบบวางแผน (Planning) เป็น รูปแบบการทำงานเชิงปฎิบัติการ (Execution) มากขึ้นด้วย

    เชื่อว่า ข้อมูลที่ได้รับฟังในงานสัมมนาครั้งนี้ จะสามารถบอกถึงการดำเนินงานและความคืบหน้าในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน ได้ทำร่วมกัน และจะเพิ่มความเชื่อมั่นในศักยภาพความร่วมมือของคณะกรรมการทุกกลุ่ม อาทิ กพข. และคณะกรรมการประสานพลังประชารัฐ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมของประเทศอย่างยั่งยืนคุณวิสิฐ ตันติสุนทร กล่าวสรุปทิ้งท้าย

รายนามและตำแหน่งของผู้ร่วมอภิปรายและให้ข้อมูล (เรียงตามชื่อตัวอักษร)

1.      คุณกานต์ ตระกูลฮุน

·       ประธานคณะกรรมการภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

o   กลุ่มการยกระดับนวัตกรรมและผลิตภาพ

o   กลุ่มการปรับแก้กฎหมายและกลไกภาครัฐ

·       คณะกรรมการการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ

·       ประธานที่ปรึกษาฝ่ายจัดการ เอสซีจี

·       กรรมการ Board of Trustees สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย

2.      คุณเทวินทร์ วงศ์วานิช

·       ประธาน ศูนย์เพื่อการพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย(TMA Center for Competitiveness)

·       ประธานคณะอนุกรรมการด้านการจัดการข้อมูลและสื่อสารประชาสัมพันธ์ กพข.

·       คณะกรรมการภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มการปรับแก้กฎหมายและกลไกภาครัฐ

·       ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จากัด(มหาชน)

3.      คุณธีรนันท์ ศรีหงส์

·       รองประธาน สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย

·       รองประธาน ศูนย์เพื่อการพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย(TMA Center for Competitiveness)

·       คณะกรรมการภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มการยกระดับคุณภาพวิชาชีพ

·       กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

4.      คุณธานินทร์ ผะเอม

รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

5.      คุณอารีย์พันธ์ เจริญสุข

ผู้อำนวยการ กองบริหารการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

6.      คุณวิสิฐ ตันติสุนทร

·       ประธาน สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย

·       คณะกรรมการการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ

 สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ FB Fan page : https://www.facebook.com/th.competitiveness

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!