- Details
- Category: บริหาร-จัดการ
- Published: Wednesday, 14 October 2015 22:16
- Hits: 3820
TMA ดึงผู้นำสมาชิกอาเซียนขึ้นเวทีใหญ่ ASEAN Business Forum 2015 ผนึกกำลังสร้างแวลูเชนเศรษฐกิจอาเซียน ยกระดับขีดควาสามารถในการแข่งขันของภูมิภาค
สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงานสัมมนา ASEAN Business Forum 2015 ดึงความร่วมมือระหว่างผู้นำองค์กรจากประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งภาครัฐและเอกชน ระดมสมองหาแนวทางเพิ่มห่วงโซ่มูลค่า (Value-Chain) เชื่อมโยงกลุ่มอุตสาหกรรมในอาเซียน เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของภูมิภาคอาเซียน บนเวทีเศรษฐกิจโลก
นายวิสิฐ ตันติสุนทร ประธาน สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) เปิดเผยในงานประชุมสัมมนานานาชาติ “ASEAN Business Forum 2015” ว่า การรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มตัวในปลายปี 2558 ที่จะถึงนี้ จะส่งผลให้เกิดความท้าทายและโอกาสทางเศรษฐกิจในหลากหลายด้าน ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนจำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อผลักดันให้อาเซียนมีการเติบโตและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้ การให้ความสำคัญในการสร้างห่วงโซ่มูลค่า (Value-Chain) ที่เชื่อมโยงแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมในอาเซียน อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพลังงาน และอื่นๆ นับว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญที่นำไปสู่การเจริญเติบโตของอาเซียนบนเวทีเศรษฐกิจโลกได้อย่างยั่งยืน
“ในการจัดประชุมนานาชาติ ASEAN Business Forum 2015 ได้เชิญผู้นำองค์กรชั้นนำระดับโลกในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมของประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมขึ้นเวที เพื่อต้องการให้เกิดความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ รวมถึงเกิดแนวทางความร่วมมือในการสร้างอาเซียนให้เป็นจุดศูนย์กลางการทำธุรกิจของนานาชาติ และมีความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจสามารถเพิ่มห่วงโซ่มูลค่า (Value-Chain) ของทุกกลุ่มอุตสาหกรรมเกิดเป็นรูปธรรมในเวลาอันรวดเร็วที่สุด นำโดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. นายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ – ตลาดในประเทศ กลุ่มธุรกิจเอสซีจี Mr.Yasushi Negishi, Country Director for Thailand, Asian Development Bank, Mr.Frank Krings, Chief Country Officer, Thailand, Deutsche Bank AG, Mr. Gary Grimmer CEO Gaining Edge ประเทศออสเตรเลีย ที่ปรึกษาขององค์กรสหประชาชาติ (UN) ด้านธุรกิจการประชุมและแสดงสินค้านิทรรศการนานาชาติ หรือไมซ์ (MICE) เป็นต้น”
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวในฐานะผู้ร่วมจัดงานและให้การสนับสนุนโครงการสัมมนา ASEAN Business Forum 2015 ว่า การสนับสนุนงานนี้ถือที่เป็นงานที่สอดคล้องกับพันธกิจหลักของทีเส็บในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศ (D-MICE) ที่ผลักดันและส่งเสริมให้บริษัทองค์กร รวมถึงสมาคมต่างๆ ภายในประเทศจัดการประชุมสัมมนา ตลอดจนการดึงงานประชุมสัมมนาต่างๆ เข้ามาจัดในประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น โดยผ่านการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ 'ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ' ซึ่งทีเส็บส่งเสริมให้มีการจัดงานในรูปแบบดังกล่าวใน 5 พื้นที่เมืองไมซ์ซิตี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งกรุงเทพมหานคร พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น
พร้อมทั้งขยายศักยภาพของเมืองไมซ์ทางเลือกอื่นๆ ที่สามารถรองรับการจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศได้ควบคู่กันไปด้วย อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจเพิ่มกิจกรรมการประชุมสัมมนา และการฝึกอบรมภายในประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
“นอกจากการสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจแล้ว สมาคมฯ มองถึงความพร้อมและการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยด้วย ซึ่งนับว่าประเทศไทยมีความพร้อมในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มอาหาร, กลุ่ม MICE เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องเร่งความเร็วในการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการจัดประชุมนานาชาติ ASEAN Business Forum 2015 ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของ TMA ที่จะช่วยผลักดันและส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคคลากร และผู้ประกอบการไทย (Entrepreneurship) กระตุ้นให้เกิดการเพิ่มทักษะด้านต่างๆ ที่จะร่วมกันยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้สามารถเดินเข้าสู่การแข่งขันระดับอาเซียนและบนเวทีเศรษฐกิจโลกได้อย่างแท้จริง”นางสาววรรณวีรา รัชฎาวงศ์ กรรมการบริหาร สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) กล่าวสรุปทิ้งท้าย
ทั้งนี้ งานสัมมนา ASEAN Business Forum 2015 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคม 2558 ณ ห้องแอทธินี คริสตัล ฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน กรุงเทพฯ โดยความร่วมมือระหว่างสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมีผู้นำองค์กรระดับโลกจากนานาประเทศเข้าร่วมงานครั้งนี้กว่า 500 คน