- Details
- Category: บริหาร-จัดการ
- Published: Wednesday, 16 September 2015 08:52
- Hits: 10397
ไทยออยล์ได้รับการประกาศเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices ประจำปี 2015 และเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานระดับโลก
ประกาศให้เป็นสมาชิกของ DJSI ติดต่อกันสามปีซ้อนได้รับการจัดอันดับเป็นผู้นำความยั่งยืนในระดับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานต่อเนื่องเป็นปีที่สอง และเป็นบริษัทจดทะเบียนไทยรายแรกและรายเดียวของประเทศที่ได้รับการประเมินสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในด้านดังกล่าว
ยึดหลักธรรมภิบาลในการบริหารจัดการครบทุกมิติ รวมถึงด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยปฎิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม
เมื่อเร็วๆ นี้ Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI ซึ่งเป็นดัชนีประเมินความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ได้ประกาศให้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นสมาชิกของ DJSI 2015 ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม และยังคงรักษาคะแนนประเมินสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Industry Group Leader) เป็นปีที่สองติดต่อกัน เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนของไทยออยล์ได้รับการยอมรับจากผู้ประเมิน ดังนี้
"ไทยออยล์มุ่งมั่นดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนปี 2557-2561 ซึ่งครอบคลุมหลายด้าน ดังเช่นแนวทางการปกป้องสิ่งแวดล้อม การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคม ซึ่งในปี 2557 ไทยออยล์ได้สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยการเพิ่มการผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล รวมทั้งโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตกว่า 20 โครงการ และการเปลี่ยนหัวเผาเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมเป็นชนิดที่ปล่อยก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจนในระดับต่ำมาก นอกจากนี้ ไทยออยล์ถือว่าพนักงานเป็นฟันเฟืองหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จจึงมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ความเป็นผู้นำ และการอบรมเป็นสำคัญ ทั้งยังมีการพัฒนากระบวนการผลิต คุณภาพผลิตภัณฑ์ และความปลอดภัยในการส่งมอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ไทยออยล์มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นในปี 2557"
นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า "บริษัทฯ กำหนดนโยบายและเป้าหมายการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกำหนดดัชนีชี้วัดที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นความสมดุลทั้ง 3 ด้านคือด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มด้วยความเป็นธรรมมาโดยตลอด ทำให้บริษัทฯได้รับการประเมินให้เป็นสมาชิกของ DJSI ในปี 2015 นี้ ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้รับคะแนนประเมินสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Industry Group Leader)ต่อเนื่องเป็นปีที่สองอีกด้วย โดยกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานดังกล่าวประกอบด้วย ผู้ผลิตถ่านหินและเชื้อเพลิงพลังงาน (Coal & Consumable Fuels) ผู้ผลิตอุปกรณ์และให้บริการสำรวจและผลิตพลังงาน (Energy Equipment & Services) ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas) และผู้ให้บริการคลังและขนส่งน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas Storage & Transportation) ทั้งนี้ผลการประเมินของ DJSI ในปีนี้ เป็นเสมือนรางวัลแห่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคน"
"ความสำเร็จด้านเศรษฐกิจของไทยออยล์ มาจากความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการการกำกับกิจการองค์กรอย่างเป็นธรรม มีระบบ โปร่งใส ชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งรวมถึงการประกาศใช้และเผยแพร่นโยบายต่อต้านคอร์รัปชั่น รวมทั้งมาตรการและแนวปฏิบัติผ่านคู่มือกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณธุรกิจ ฉบับล่าสุดตั้งแต่ปลายปี 2557 โดยรวมถึงการได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (Collective Action Coalition against Corruption) ในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 และไทยออยล์ได้ขยายการกำกับดูแลกิจการตลอดสายโซ่อุปทานโดยการประกาศใช้แนวทางการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) ทั้งนี้บริษัทฯ ยังได้นำการบริหารการจัดการความเสี่ยงมาใช้เพื่อให้สอดคล้องกับ
ทิศทางการเติบโตของธุรกิจและกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกครบทุกมุมมองในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับกิจการ หรือ ESG อีกด้วย" นายอธิคม กล่าวเสริม
นายอธิคม กล่าวเพิ่มเติม "นอกจากนี้ ไทยออยล์ยังประสบความสำเร็จในการประเมินในมิติของสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย โดยสามารถบริหารจัดการไม่ให้มีการหกรั่วไหลของน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญได้หลายปีติดต่อกัน สามารถบริหารจัดการด้านการควบคุมคุณภาพอากาศเละน้ำที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม ได้ดีกว่ามาตรฐานที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดไว้ ทั้งนี้ยังรวมถึงการลงทุนในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตในปี 2557 โดยสามารถลดการใช้พลังงานกว่า 50 เมกะวัตต์ต่อปี คิดเป็นมูลค่าการประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 600 ล้านบาทต่อปี และเป็นผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 88,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ทั้งนี้ไทยออยล์ยังใส่ใจในการพัฒนาการดำเนินงานด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปลูกฝังแนวคิดความปลอดภัยในการทำงานที่ปลอดยาเสพติด และคำนึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมร่วมกับพนักงานและผู้รับเหมา"
"ไทยออยล์ยังบริหารจัดการเชิงลึกในมิติสังคม โดยจัดทำแผนการพัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้การสืบทอดตำแหน่งจากการสรรหาภายในเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้เพื่อให้บุคลากรมองเห็นความก้าวหน้าในสายอาชีพไปพร้อมๆ กับการเติบโตของธุรกิจ ในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรในระดับสูงอีกด้วย นอกจากนี้ ไทยออยล์ยังประสบความสำเร็จในการสร้างความพึงพอใจของชุมชนรอบโรงกลั่นในระดับสูงด้วยการให้ผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ มีส่วนร่วมในการบริหารงานผ่านกลยุทธ์ 3 ประสาน ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ไทยออยล์ ชุมชนและหน่วยงานภาครัฐ โดยผ่านกระบวนการ 5 ร่วมคือร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไข ร่วมเรียนรู้ และร่วมพัฒนา ด้วยการให้ทุกภาคส่วนสามารถดำเนินการตามเป้าหมายเดียวกัน เพื่อสาธารณประโยชน์ร่วมกัน" นายอธิคม กล่าว
"จากการได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานต่อเนื่องเป็นปีที่สองนั้น สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มของไทยออยล์ต่อประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยมุ่งสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มผ่านกรอบธรรมาภิบาลและการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนที่ได้กล่าวมาทั้งหมด" นายอธิคม กล่าวปิดท้าย
Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI เป็นดัชนีจัดอันดับผลการปฏิบัติงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก โดยมี RobecoSAM Corporate Sustainability Assessment ผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เป็นผู้ประเมินจัดอันดับ โดยมีเกณฑ์กำหนดว่า บริษัทที่จะเข้ารับการประเมินได้จะต้องเป็นบริษัทจดทะเบียน และมี Free Float Market Capitalization ใน Dow Jones Total Stock Market Index สูงสุด 2500 บริษัทแรก และกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มEmerging Markets สูงสุด 800 บริษัทแรก ตลอดจนกลุ่มอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 3,395 บริษัททั่วโลก ทั้งนี้ RobecoSAM จะส่งแบบสอบถามตามประเภทอุตสาหกรรมมาให้บริษัทที่ได้รับเชิญ เพื่อตอบคำถามเชิงลึก พร้อมจัดส่งหลักฐานอ้างอิงและช่องทางการเปิดเผยสู่สาธารณะ เกี่ยวกับแผนงานและกลยุทธ์ วิธีการบริหารจัดการ เป้าหมาย ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตลอดจนผลการปฏิบัติงาน ที่ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยไทยออยล์ได้รับเชิญเป็น 1 ใน 800 บริษัทในกลุ่ม Emerging Markets เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2558 และได้ตอบแบบสอบถามไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2558 โดยในปีเดียวกันนี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับคะแนนประเมินสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Industry Group Leader) ประกอบด้วย ผู้ผลิตถ่านหินและเชื้อเพลิงพลังงาน (Coal & Consumable Fuels) ผู้ผลิตอุปกรณ์และให้บริการสำรวจและผลิตพลังงาน (Energy Equipment & Services) ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas) และผู้ให้บริการคลังและขนส่งน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas Storage & Transportation) โดยเมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนทั้งสามมิติตั้งแต่ปี 2011 ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม พบว่าคะแนนในแต่ละด้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง