- Details
- Category: บริหาร-จัดการ
- Published: Wednesday, 18 February 2015 18:29
- Hits: 3596
ซีอีโอ 77 ประเทศชี้ไทยน่าลงทุน ติดอันดับ 4 ของโลกที่ 2 อาเซียน จับตาเวียดนามมาแรงตีคู่ไทย
ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สเผยผลสำรวจซีอีโอทั่วโลก 77 ประเทศ ผู้นำธุรกิจอาเซียนเชื่อว่า เศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นในช่วง 12 เดือนหน้า มองไทยน่าลงทุนอันดับ 2 ของอาเซียน และอันดับ 4 จากทั่วโลก รองจากอินโดนีเซีย เม็กซิโก และโคลอมเบีย
นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหารและหุ้นส่วนบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการด้านการตรวจสอบบัญชี บริการให้คำปรึกษาด้านภาษี และบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ เปิดเผยว่า จากผลสำรวจ Global CEO Survey หรือความคิดเห็นของซีอีโอทั่วโลกใน 77 ประเทศ พบว่านอกจากประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนแล้ว ประเทศไทยถือเป็นที่ 2 ในอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย และอันดับ 4 ของโลก รองจากอินโดนีเซีย เม็กซิโก และโคลอมเบีย ที่นักธุรกิจชั้นนำของโลกระบุให้ความสนใจเข้าลงทุนในไทย ขณะที่นักธุรกิจบริหารชั้นนำของไทยกลับให้น้ำหนักอุปสรรคการลงทุนในไทย ด้านความไม่แน่นอนทางการเมืองและปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่มีปัจจัยหนุนในด้านเศรษฐกิจคือบวกจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปลายปี 2558 และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศเพื่อนบ้านเติบโตดี
"ปีนี้นอกเหนือจากกลุ่ม BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน) แล้วที่นักลงทุนระบุน่าลงทุนแล้ว ประเทศในอาเซียนที่ติดอันดับตลาดน่าลงทุนอีก 3 ประเทศคือ อินโดนีเซีย รองลงมาคือไทยและเวียดนาม ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาเวียดนามตามติดไทยมาโดยตลอด ตอนนี้ไม่อาจมองข้ามได้ หากไทยไม่เร่งปรับตัว ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงพัฒนาทักษะแรงงาน มีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจะไหลไปตลาดเพื่อนบ้านแทน" นายศิระกล่าว และว่า นักธุรกิจของโลกระบุอีกว่า ธุรกิจโลกและอาเซียนมองการควบรวมกิจการ ซื้อกิจการในประเทศ หาพันธมิตรเพื่อร่วมทุนหรือคู่ค้ารายใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเครือข่ายลดต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีแนวโน้มเพิ่มพนักงาน เพิ่มเทคโนโลยีในการทำงาน ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล
นายศิระกล่าวว่า ส่วนมุมมองด้านเศรษฐกิจโลก พบว่า นักธุรกิจของโลก 37% ของกลุ่มสำรวจ เห็นว่าเศรษฐกิจโลกปี 2558 จะดีขึ้นกว่าปี 2557 ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าการสำรวจครั้งก่อนที่นักธุรกิจโลก 45% มองว่าเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น โดยนักธุรกิจระบุเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นอีกใน 12 เดือนข้างหน้า และเห็นว่ารายได้บริษัทจะไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2557 ส่วนความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจ คือ กฎระเบียบที่เข้มงวดเกินไป โดยเฉพาะภาษีที่หลายประเทศเริ่มเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น แต่นักธุรกิจเอเชียเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกปี 2558 จะดีขึ้น เป็นทิศทางเดียวกับธุรกิจของบริษัท
นายศิระ กล่าวว่า แนวทางที่รัฐบาลพยายามผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคไทยที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีนัย ที่ช่วยให้เกิดความรวดเร็ว ประหยัดเวลาและงบประมาณ