- Details
- Category: บทความทั่วไป
- Published: Tuesday, 11 July 2017 14:58
- Hits: 2605
ตลาดบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูในไทยมีศักยภาพสูง
จากการที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงวัย ทำให้มีการพัฒนาโครงการบ้านพักคนชราเพิ่มขึ้นทั้งโดยภาครัฐฯ และเอกชน ในขณะที่โครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพื่อรองรับผู้สูงวัยชาวไทย โครงการระดับหรูที่เอกชนพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับผู้สูงวัยชาวต่างชาติและผู้สูงวัยชาวไทยจากครอบครัวที่มีฐานะ มีจำนวนไม่มากและมีโอกาสขยายตัว ตามการรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล กล่าวว่า ตลาดบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูในประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่มีศักยภาพสูงที่จะเติบโตในอนาคต พร้อมอธิบายว่า การมีสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการอยู่อาศัย ค่าครองชีพที่ไม่สูง และบริการดูแลด้านการพยาบาลที่มีคุณภาพดีในราคาไม่แพง ทำให้ไทยเป็นสถานที่ชั้นดีที่ผู้สูงวัยจากประเทศพัฒนาแล้วต้องการเข้ามาใช้ชีวิตหลังเกษียณ รวมถึงผู้สูงวัยที่ครอบครัวต้องการส่งตัวมาด้วยความเชื่อมั่นว่าจะได้รับการดูแลที่ดีกว่า”
ที่ผ่านมา ตลาดบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูมีความต้องการจากชาวไทยค่อนข้างจำกัด เนื่องจากสังคมไทยโดยทั่วไปให้การดูแลที่ดีสำหรับสมาชิกผู้สูงอายุในครอบครัว นอกจากนี้ ชาวไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีฐานะดี รู้สึกเป็นเรื่องน่าอายที่จะส่งสมาชิกผู้สูงอายุในครอบครัวให้ไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักคนชรา
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
“หนึ่งในจุดขายที่สำคัญของบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรู คือการมีบริการดูแลด้านการพยาบาลคุณภาพสูงสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้น ครอบครัวไทยสมัยใหม่อาจสะดวกใจมากขึ้นที่จะส่งผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือมากเป็นพิเศษหรือไม่อยู่ในสภาพที่สามารถเหลือตนเองได้ ให้ไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักผู้สูงวัยที่มีความพร้อมด้านบุคคลากรและอุปกรณ์ในการดูแลด้านการพยาบาลที่ดีกว่า” นางสุพินท์อธิบาย
“นอกจากนี้ ในสังคมไทยสมัยใหม่ มีคนไทยจำนวนมากจากยุคเบบี้บูมเมอร์ที่กำลังมีอายุมากขึ้น และมีฐานะทางการเงินที่ดี ซึ่งคนไทยฐานะดีกลุ่มนี้ มีจำนวนมากที่กำลังวางแผนการใช้ชีวิตเมื่ออายุมากโดยไม่ต้องการเป็นภาระให้กับลูกหลาน จึงมีศักยภาพในการสร้างความต้องการสำหรับบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูในอนาคต”
มีโครงการบ้านและคอนโดหลายโครงการในประเทศไทย โดยเฉพาะตามเมืองตากอากาศ ที่ประกาศตัวว่าเป็นบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรู โดยเน้นจุดขายของการมีสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการอยู่อาศัยหลังเกษียณ อย่างไรก็ดี มีโครงการจำนวนไม่มากที่มีคุณสมบัติของการเป็นบ้านพักผู้สูงวัยอย่างแท้จริง
นายเด็กซ์เตอร์ นอร์วิลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล กล่าวว่า “นอกเหนือจากการจัดสรรที่พักอาศัย โครงการบ้านหรือคอนโดที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ ควรต้องมีการเสนอบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องร่วมด้วย ซึ่งสามารถจัดสรรให้ได้ตามความต้องการที่แตกต่างกันตามอายุและสุขภาวะของผู้สูงวัยแต่ละคน อาทิ บริการดูแลงานบ้าน การดูแลอาหารการกิน การบริหารจัดการเรื่องการแพทย์ การจัดกิจกรรมสันทนการ ตลอดจนถึงการดูแลพยาบาลสำหรับผู้สูงวัยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้”
“แม้จะมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทยหลายรายที่เล็งเห็นศักยภาพที่จะมีความต้องการบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งจากชาวต่างชาติและชาวไทยที่มีฐานะ แต่ความท้าทายสำคัญอยู่ที่การขาดองค์ความรู้ในการพัฒนาโครงการ การดำเนินการ การบริหารจัดการ และการตลาด ทั้งนี้ หนึ่งในกลยุทธ์ที่อาจช่วยให้ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยขยายเข้ามาในตลาดใหม่นี้ได้ง่ายขึ้นคือการร่วมลงทุนกับบริษัทต่างชาติที่มีความเชี่ยวชำนาญสูงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ ซึ่งมีองค์ความรู้ในการออกแบบ การดำเนินการ การบริหารจัดการ และการตลาด”นายเด็กซ์เตอร์กล่าว
เกี่ยวกับเจแอลแอล
เจแอลแอลเป็นบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก มีสำนักงานสาขา 300 แห่งทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย เจแอลแอลเริ่มดำเนินธุรกิจมานับตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันเป็นบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ด้วยพนักงานมากกว่า 1,600 คน และมีอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการคิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ เจแอลแอลยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์โดยภาพรวมอันดับหนึ่งของประเทศไทยติดต่อกันหกปีซ้อน ในการสำรวจความคิดเห็นของคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2559 โดยนิตยสารยูโรมันนี (Euromoney Real Estate Survey 2016)