WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1iPrice

iPrice ชี้นักศึกษาไทยไม่สามารถนำเสนอศักยภาพผ่านเรซูเม่…ปัญหาหลักในการถูกปฏิเสธ

      หนึ่งปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขของประเทศไทยที่ดำเนินมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้นปัญหาการตกงาน ซึ่งอัตราคนตกงานในปีพ.. 2560 อยู่ที่1.2% ของประชากรไทยซึ่งถือว่ามีจำนวนผู้ตกงานมากกว่า8 แสนคนทั่วประเทศ

   บ่ายวันหนึ่งขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานที่บริษัท iPrice ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซียคุณปราวีณาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายบุคคลของบริษัทได้วิ่งเข้ามาถามผมด้วยคำถามที่ผมฟังแล้วก็รู้สึกงงงวยเขาถามว่าทำไมเรซูเม่ของนักศึกษาไทยมันง่ายจัง?’ผมยังไม่เข้าใจที่ฝ่ายบุคคลถามฝ่ายบุคคลจึงเปิดเรซูเม่ของนักศึกษาที่สมัครเข้ามาทำงานที่บริษัทiPrice ให้ผมดูพวกมันล้วนแล้วแต่เป็นเรซูเม่ที่ไม่มีเนื้อหาใด ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจรับเข้าทำงานได้เลยและที่น่าตกใจก็คือมีใบสมัครเพียง 1.5% ที่มีเนื้อหาครบถ้วนสำหรับการพิจารณาของฝ่ายบุคคลสิ่งที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นก็คือนักศึกษาที่ส่งใบสมัครเข้ามาส่วนหนึ่ง พวกเขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย

     คุณปราวีณากล่าวว่านักศึกษาไทยให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป เช่น ชื่อ,ที่อยู่,งานอดิเรกข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่ข้อมูลสำคัญที่จะถูกนำมาพิจารณาสิ่งที่บริษัทของเราให้ความสำคัญ คือ ทักษะ,ความสามารถ และความรู้ต่างหาก

        ข้อสังเกตหนึ่งที่น่าสนใจ คือ บริษัท Startup ต่างชาติอย่างบริษัท iPrice ซึ่งมีตำแหน่งว่างกว่า20 ตำแหน่งแต่ตำแหน่งเหล่านี้ไม่ได้รับการว่าจ้างถ้าหากคิดถึงบริษัทที่เป็นองค์กรใหญ่กว่านี้ ตำแหน่งที่รับเข้าทำงานคงมีจำนวนไม่น้อยเช่นกันหนึ่งเหตุผลที่สามารถอธิบายข้อสันนิษฐานได้เป็นอย่างดี คือ นักศึกษาจบใหม่ที่ส่งใบสมัครเข้าทำงานนั้นไม่สามารถนำเสนอตัวตนและศักยภาพของพวกเขาผ่านทางกระดาษหนึ่งแผ่นได้เลยหรือพวกเขาไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งนั้น ๆ

     “เรซูเม่ที่นักศึกษาไทยส่งมาเมื่อเทียบกับเรซูเม่ของนักศึกษาจากประเทศอื่น ๆ ในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นเรซูเม่ของนักศึกษาไทยถือเป็นเรซูเม่ที่ง่ายเกินไปกล่าวคือมีเพียงชื่อของกิจกรรมที่เคยทำเท่านั้นเมื่อเทียบกับนักศึกษาในประเทศอื่น ๆ ซึ่งพวกเขานำเสนอกิจกรรมที่พวกเขาเคยทำได้อย่างน่าสนใจมีรายละเอียดของกิจกรรมที่เคยทำครบถ้วนและมีการพูดถึงทักษะที่พวกเขาได้รับปราวีณากล่าว

    จากประสบการณ์การอ่านเรซูเม่ของผู้สมัครจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เราจึงขอแนะนำเคล็ดลับให้กับนักศึกษาไทยที่กำลังจะสมัครงานให้พัฒนาใบสมัครของพวกเขาและวิธีการสมัครดังต่อไปนี้  

 

เขียนเนื้อหาให้ครบถ้วน

     รูปแบบการเขียนเรซูเม่ของนักศึกษาไทยที่ไม่สามารถใช้ประกอบการตัดสินใจได้เลย นั่นคือการเขียนประวัติแบบคร่าว ๆ ซึ่งอาจจะเป็นแบบย่อเกินไปจนไม่สามารถที่จะใช้ข้อมูลในการตัดสินใจอะไรได้เลย

      ตัวอย่างเช่น ในการนำเสนอความสามารถและทักษะต่าง ๆ นั้นนักศึกษาไทยนิยมเขียนโปรแกรมที่นักศึกษาสามารถใช้ได้แต่บริษัทไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าโปรแกรมที่พวกเขาสามารถใช้ได้นั้นมีความละเอียดมากน้อยเพียงใดเช่น

ทักษะ: Excel, Word, Powerpoint

ภาษา: อังกฤษ, ไทย

จากข้อมูลข้างต้นทักษะประเภทExcel, Word และPowerpoint นั้นควรเป็นทักษะพื้นฐานที่ทุกคนต้องมีไม่จำเป็นต้องใส่ในเรซูเม่ก็ได้แต่ถ้าหากคุณมีทักษะขั้นสูงสำหรับ Excel นั่นคือสิ่งที่คุณควรจะใส่ลงไปหรือถ้าหากคุณเรียนรู้โปรแกรมเฉพาะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ เช่นGoogle Analytics สิ่งนี้จะช่วยให้เรซูเม่ของคุณโดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่น

นอกจากนี้ การเขียนกิจกรรมในมหาวิทยาลัยที่พวกเขาได้เข้าร่วมนั้นมีเพียงชื่อของกิจกรรมแต่ฝ่ายบุคคลไม่สามารถรู้ได้เลยว่ากิจกรรมเหล่านั้นพัฒนาศักยภาพของผู้สมัครไปในทิศทางใดถึงแม้จะมีกิจกรรมเจ๋ง ๆ มากมายบนใบสมัครของคุณแต่ถ้าหากมันไม่สามารถบอกถึงความสามารถที่คุณมีใบสมัครก็คงไม่ได้รับการพิจารณาอย่างแน่นอน

ทางบริษัทเข้าใจข้อจำกัดของนักศึกษาไทยคือภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาหลักในการสื่อสารสิ่งที่นักศึกษาจะต้องทำก็คือการเพิ่มข้อมูลประวัติและกิจกรรมของคุณให้ครบอย่าวิตกว่าจะใช้ภาษาอังกฤษถูกต้องหรือไม่อย่าใส่แต่หัวข้อเช่นถ้าหากคุณพูดถึงกิจกรรมที่คุณเคยทำในมหาวิทยาลัยคุณจะต้องบอกว่าสิ่งที่คุณทำนั้นพัฒนาทักษะใดของคุณเช่น

  • Gold Award Winner of Marketing Research Competition 2016
    • Created a marketing research proposal for X company to understand consumer behavior and trends.
    • Proposed strategies to improve consumer’s quality of life through a new mobile application channel: shopping-on-the-go.

จากตัวอย่างข้างต้นนี้บริษัทเห็นว่ากิจกรรมที่คุณทำนั้นทำให้คุณสามารถทำวิจัยการตลาดและเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่สำคัญคุณสามารถนำเสนอไอเดียและกลยุทธ์ใหม่ ๆ จากข้อมูลที่คุณวิเคราะห์ไปข้างต้นได้

นักศึกษาไทย7 คนจาก10 คนนิยมส่งเรซูเม่ที่แนบรูปภาพที่ไม่เป็นทางการอย่างเช่นรูปเซลฟี่หรือรูปขณะไปท่องเที่ยวซึ่งถ้าหากไม่มีรูปภาพที่เป็นทางการแล้วนักศึกษาก็ไม่ควรใส่รูปภาพเลยด้วยซ้ำนี่เป็นอีกหนึ่งข้อผิดพลาดที่นักศึกษาควรนำไปปรับปรุงเพื่อทำให้เนื้อหาของเรซูเม่ดีขึ้น

 

 

การส่งอีเมลที่เหมาะสม

การส่งใบสมัครผ่านทางอีเมลโดยตรงหรือผ่านทางเว็บไซต์สมัครงานจะต้องเขียนเกริ่นนำที่มีความเหมาะสมนักศึกษาไทยจำนวนมากเขียนอีเมลโดยเพียงบอกแต่ว่าสมัครงานค่ะฝากพิจารณาด้วยนะคะหรือผมสนใจในตำแหน่งการตลาดครับฝากพิจารณาใบสมัครด้วยนะครับ

การเริ่มต้นอีเมลในรูปแบบนี้คงไม่ดีนักสิ่งที่ทางบริษัทอยากจะแนะนำกับนักศึกษาคือต้องรู้จักการเขียนอีเมลที่เตะตากรรมการและเป็นมิตรต่อผู้อ่านอีเมลที่มีเนื้อหาที่เหมาะสมประกอบไปด้วยการบอกจุดประสงค์ของอีเมลและการแนะนำตัวเช่น

หัวข้ออีเมล: สมัครงานตำแหน่งการตลาดออนไลน์

สวัสดีครับ(ชื่อผู้รับสมัครหรือบริษัทที่เปิดรับสมัคร)

สวัสดีครับผมชื่อนาย. เรียนอยู่ที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ผมทราบว่าบริษัทของคุณได้เปิดรับสมัครตำแหน่งการตลาดออนไลน์จำนวนหนึ่งตำแหน่งเนื่องจากผมศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 เมเจอร์การตลาดผมจึงมีความสนใจอย่างมากที่จะเข้าร่วมทำงานและเป็นส่วนหนึ่งของทีมครับ (ในส่วนนี้ให้บ่งบอกถึงความสนใจในตัวงาน)

ผมแนบใบสมัคร,เรซูเม่ และCV ของผมมาพร้อมอีเมลฉบับนี้

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะได้รับการพิจารณาและได้รับโอกาสได้เข้าพูดคุยกับคุณในโอกาสต่อไป

ขอบพระคุณอย่างสูง

นาย.

เพียงการเขียนอีเมลแนะนำตัวเองง่าย ๆ เท่านี้ก็จะทำให้บริษัทเห็นว่าคุณสามารถแนะนำตัวเองให้บริษัทจดจำได้และที่สำคัญบริษัทก็พร้อมที่จะเปิดเรซูเม่ของคุณขึ้นมาพิจารณาอย่างแน่นอน

CV ต้องมีแต่อย่าหว่าน

CV คือหนึ่งสิ่งที่นักศึกษาไทยมักไม่ให้ความสนใจพวกเขามักคิดว่าเพียงเรซูเม่น่าจะพอสำหรับการใช้ตัดสินใจเราได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าเรซูเม่ที่นักศึกษาส่งเข้ามานั้นมีเพียงไม่ถึง2% ที่จะได้รับการพิจารณาเนื่องจากมีเนื้อหาที่ไม่เพียงพอดังนั้นCV จึงเข้ามามีบทบาทในการช่วยตัดสินใจได้มากขึ้น

จุดประสงค์หลักของCVคือการบอกเล่าเรื่องราวของผู้สมัครและจุดประสงค์ในการเข้าทำงานในตำแหน่งนั้น ๆซึ่งนักศึกษาต้องจำไว้เลยว่าCV ต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับตำแหน่งที่คุณสมัครข้อมูลที่สำคัญที่คุณควรจะใส่ในCV มีดังต่อไปนี้

ย่อหน้าแรกควรบอกเล่าถึงตัวของคุณ เช่น ชื่อ, สถานศึกษา, ตำแหน่งที่สนใจ

ย่อหน้าที่สองต้องเปลี่ยนเนื้อหาให้มีความเหมาะสมกับบริษัทหรือตำแหน่งที่สมัครถ้าหากคุณสมัครเข้ามาทำงานในตำแหน่งContent Marketing คุณจะต้องบอกเล่าประสบการณ์การทำงานในด้านการตลาดที่ผ่านมา และที่สำคัญคือประสบการณ์เหล่านั้นจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทที่คุณสมัครได้อย่างไร

ย่อหน้าสุดท้ายคือการขอบคุณสำหรับเวลาที่บริษัทได้พิจารณาประวัติของคุณ และคุณสามารถลงท้ายด้วยการขอให้พวกเขาพิจารณาอย่างเต็มที่

เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าหากนักศึกษาไทยสามารถปรับปรุงการเขียนเรซูเม่, CV และอีเมลให้มีเนื้อหาที่เหมาะสมแล้วนั้นโอกาสในการได้รับเข้าสัมภาษณ์งานย่อมเพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างแน่นอนเนื่องจากความสามารถและศักยภาพของนักศึกษาไทยนั้นไม่ด้อยไปกว่านักศึกษาในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลย

กันต์พจน์ สุริวงศ์ Senior Content Marketing Executive บริษัท iPrice

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!