- Details
- Category: บทความทั่วไป
- Published: Wednesday, 21 December 2016 19:28
- Hits: 5005
จับกระแส 10 Trends มาแรงในปี 2560
โดย ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกในยุคปัจจุบันเป็นโลกที่หมุนเร็วกว่าในอดีตมาก บริบทในด้านต่างๆ ของโลกล้วนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การค้า รวมถึงภาคธุรกิจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วดังกล่าวเป็นทั้งโอกาสมหาศาลสำหรับผู้ที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงที แต่ในทางกลับกันก็ถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทัน และเพื่อเป็นของขวัญต้อนรับปี 2560 ที่กำลังจะมาถึง EXIM BANK ขอนำเสนอ Trends หรือกระแสใหม่ๆ ของโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือเห็นผลชัดเจนในปี 2560 ไล่ตั้งแต่บริบทระดับภาพรวม (Macro) ลงมาถึงระดับย่อย (Micro) ในด้านธุรกิจและภาคการผลิต เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
หากพูดถึงบริบทด้านการค้าโลก Trends ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2560 และเชื่อว่าเราคงจะได้ยินได้ฟังกันบ่อยขึ้นตามสื่อต่างๆ ได้แก่
• กระแส Protectionism หรือการปกป้องทางการค้าที่ประเทศต่างๆ จะนำมาใช้กันมากขึ้น ซึ่งปรากฏการณ์นี้เริ่มมีความชัดเจนหลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งนาย Donald Trump สามารถเอาชนะนาง Hillary Clinton ภายใต้นโยบายด้านเศรษฐกิจที่เรียกว่า Trumponomics ซึ่งค่อนข้างสุดโต่งภายใต้แนวคิด America First ที่เน้นปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เป็นสำคัญ รวมถึงกรณี Brexit ที่อาจเรียกว่าเป็น UK First ได้เช่นกัน ซึ่งกระแส Protectionism ดังกล่าวจะทำให้แนวโน้มการค้าระหว่างประเทศชะลอลง
• Investment-induced Trade หรือการใช้การลงทุนนำการค้า เพราะเมื่อการค้าโลกชะลอลงจากมาตรการปกป้องทางการค้าที่หลายประเทศนำมาใช้เพื่อปกป้องผู้ประกอบการในประเทศ ยุทธศาสตร์ด้านการค้าของประเทศต่างๆ รวมถึงไทยจึงต้องเปลี่ยนตาม โดย Investment-induced Trade จะเน้นขยายการลงทุนและสร้างฐานการผลิตในต่างประเทศเพื่อเจาะตลาดและสร้างช่องทางการค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น
สำหรับ บริบทด้านธุรกิจซึ่งเป็นระดับย่อยลงมา เราจะเห็นว่ารูปแบบการทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันมีปัจจัยเร้าสำคัญมาจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและกระแสดิจิทัลที่แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดย Trends ใหม่ๆ ทางด้านธุรกิจที่จะมาแรงในปี 2560 ได้แก่
• Online Marketplace หรือการค้ายุคใหม่ที่เน้นซื้อขายบนอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ซึ่งการค้าในรูปแบบดังกล่าวกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การซื้อขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตหรือที่เราเรียกกันว่า E-Commerce ของไทยในปี 2559 มีมูลค่าสูงถึง 40% ของมูลค่าซื้อขายสินค้าและบริการทั้งหมด และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเกิน 50% ในอีกไม่ช้า
• FinTech หรือเทคโนโลยีทางการเงิน อาทิ Mobile/Internet Banking จะเข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้นแทนการทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบเดิม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ลดต้นทุนการดำเนินงาน และเตรียมเข้าสู่ Cashless Society ดังเช่นประเทศพัฒนาแล้วอย่างสวีเดนที่การชำระเงินราว 80% ทำผ่าน e-payment นอกจากนี้ สถาบันการเงินเริ่มนำ Biometrics ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ลักษณะจำเพาะของแต่ละบุคคล อาทิ เสียง และลายนิ้วมือมาใช้มากขึ้นในระบบตรวจสอบความปลอดภัยในการซื้อขายสินค้าและทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบดิจิทัล
• Sharing Economy หรือการทำธุรกิจในรูปแบบของการแบ่งปันผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังมาแรงในขณะนี้ โดยผู้ที่มีทรัพยากรที่มากเกินจำเป็นหรือไม่ค่อยได้ใช้จะแบ่งปันให้กับผู้ที่ต้องการใช้ทรัพยากรดังกล่าวในช่วงเวลาหนึ่งผ่านระบบออนไลน์ อาทิ Uber (บริการรถ) Airbnb (ที่พัก) และ Kickstarter (ตัวกลางระดมทุน) ทั้งนี้ PwC บริษัทวิจัยชั้นนำคาดว่ามูลค่าธุรกิจ Sharing Economy ในปี 2568 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 200% เมื่อเทียบกับปี 2557
• Business Ecosystem หรือกลยุทธ์ในการผลิตสินค้าและบริการที่หลากหลาย และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสินค้าและบริการต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างครบวงจร ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีบริษัท Apple ที่ผลิตสินค้าและบริการหลายประเภท และสามารถเชื่อมโยงสินค้าแต่ละชนิดเข้าด้วยกัน ทั้งในแง่ของระบบปฏิบัติการและลักษณะการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ จนลูกค้าส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกใช้สินค้าของ Apple หลายชนิดร่วมกัน ทั้ง iPod, iPhone, iPad และ MacBook เช่นเดียวกับในภาคการผลิต เราจะเห็นกระแสการนำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในระบบอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น ทั้งนี้ Trends สำคัญที่จะก้าวขึ้นมามีบทบาทในภาคการผลิตสำหรับปี 2560 ได้แก่
• Robots, Drones and Automation จะถูกนำมาใช้มากขึ้นในกระบวนการผลิต เพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการผลิต อาทิ หุ่นยนต์ผลิตสินค้าของ Nike โดรนที่ใช้สำรวจคลังสินค้า รวมทั้งระบบวิเคราะห์และผลิตสินค้าอัตโนมัติที่ใช้ในโรงงาน โดยล่าสุด Foxconn (ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก) ประกาศนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในโรงงานและปรับลดแรงงานลง 50% ทั้งนี้ แนวโน้มการนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้ในการผลิตรวมถึงใช้ในชีวิตประจำวันจะสูงมากขึ้นจากนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าอยู่ในขณะนี้
• Innovating to Zero หรือแนวคิดในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตให้เป็นศูนย์ (Zero Waste) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและสอดคล้องไปกับกระแสความห่วงใยในสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากแอพพลิเคชั่น 123Recycle ของสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อผู้ใช้สินค้านำบาร์โค้ดบนหีบห่อสินค้ามาสแกน แอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะแสดงข้อมูลว่าชิ้นส่วนใดบ้างของสินค้าที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้
นอกจากนี้ หากมองในระดับผู้บริโภค เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเช่นเดียวกับวิถีชีวิตและลักษณะของประชากรที่เปลี่ยนไป โดย Trends ของผู้บริโภคที่จะมาแรงในปี 2560 ได้แก่
• Smart Lifestyle เมื่อยุคแห่งสังคมเมือง (Urbanization) กำลังเติบโตขึ้น ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันต้องเร่งรีบมากขึ้น การนำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในด้านต่างๆ จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งการสั่งอาหารผ่านระบบออนไลน์ การอ่านนิตยสารหรือหนังสือในรูปแบบ E-Book การเรียกรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่น หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนบ้านธรรมดาๆ ให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะที่เราสามารถควบคุมอุปกรณ์ทุกอย่างในบ้านผ่าน Smartphone และ Tablet ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตัวอย่างเช่น เราสามารถสั่งเปิดปิดและควบคุมเครื่องปรับอากาศ หลอดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ รวมทั้งกล้องวงจรปิดผ่านแอพพลิเคชั่นได้แม้เราไม่อยู่บ้าน
• Elderly Care Products สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งไทย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติที่จะส่องสว่างโดยทันทีเมื่อผู้สูงอายุลุกขึ้นจากเตียง ทำให้ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวร่างกายได้ลำบากไม่จำเป็นต้องเอื้อมมือไปยังสวิตช์ไฟอีกต่อไป
จะเห็นได้ว่า Trends มาแรงสำหรับปี 2560 นี้ บางเรื่องอาจอยู่ใกล้ตัวมากกว่าเราที่คิด และ Trends เหล่านี้อาจเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงสำหรับเราในเวลาเดียวกัน เราจึงควรเตรียมพร้อมรับมือกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะยิ่งเราก้าวทันกระแสการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นเท่าไร เราก็จะสามารถคว้าโอกาสได้ก่อนใครมากขึ้นเท่านั้น
Top 10 Global Trends to Watch in 2017
By Business Research Department, Export-Import Bank of Thailand (EXIM Thailand)
We are undeniably living in a wthan in the past. It is a different world whether in the economic, trade or business context. The emerging trends can be opportunities for people and corporations who quickly and timely adapt to them and can also be threats to others who fail to do so. As a 2017 New Year gift, EXIM Thailand would like to update Thai entrepreneurs on 10 major trends of 2017 from the macro level to the micro level covering business and manufacturing sectors so that Thai entrepreneurs would get prepared for the upcoming challenges.
Viewing global trade, the evident global trends that have been in the public interest include:
• Protectionism or trade protectionism has increasingly been adopted by several economies. This trend has strengthened following the result of the US presidential election in November with Donald Trump’s victory over Hillary Clinton. Trump’s economic policy platform of “Trumponomics” based on “America First” focuses mainly on maximum protection of the US’s interests. It is in a similar way as the “Brexit,” or in other words, the “UK First.” This protectionist stance would probably dampen international trade to slow down.
• Investment-induced Trade is the concept of trade that is led or stimulated by investment. With the slowing global trade trend amidst the rising protectionism as countries strive to protect local entrepreneurs, trade strategies of several countries including Thailand have to shift more to investment-induced trade aiming to expand investments and product bases overseas to reach out to a larger market with more diversified trade channels.
Looking into the business sector, business models have rapidly changed over the past years. The major catalyst is the dynamic technological development with the increasingly pervasive digital influence in everyday life activities. Some of the hottest trends in 2017 are:
• Online Marketplace is an increasingly popular modern trade form of today, buying and selling goods/services on internet, called e-commerce, the value of which has accounted for 40% of Thailand’s total trade value in 2016 and is likely to reach 50% soon.
• FinTech or financial technology such as mobile/internet banking has played a significant role in today’s banking industry transactions in place of those in the traditional platform aiming to offer optimum convenience to customers in parallel with lowering operating cost. This is a trend moving toward Thailand’s cashless society just like that of developed countries, Sweden for example, where 80% of payments are e-payments.Furthermore, some financial institutions have started applying biometrics authentication, identifying individuals through their respective human characteristics, i.e. voice and fingerprint, in security system for digital financial transactions and buying and selling of goods/services.
• Sharing Economy is an emerging business sector with business executed through digital matching and sharing, i.e. those who possess excessive but rarely used resources will share them with those who have demand for such resources on web-based platforms. Some of these technology-driven businesses include Uber (taxi service), Airbnb (accommodation) and Kickstarter (funding intermediary). According to a PwC research, sharing economy business value is anticipated to surge 200% in 2025 compared with that in 2014.
• Business Ecosystem is a business strategy thereby diverse goods and services are produced and delivered in a way that is aligned with one another to comprehensively meet consumer needs. One apparent example is the case of Apple Corp. whose products and services are in vast variety but they are all in perfect alignment in terms of operating system and applications, hence entrusted by customers who buy and use the various Apple products, i.e. iPod, iPhone, iPad and MacBook, in combination.
Likewise, in the manufacturing sector, series of new technologies and digital applications are seen in manufacturing in order to achieve higher efficiency. The breakthrough trends moving into 2017 are:
• Robots, Drones and Automation will be intensively devised in manufacturing process to tackle labor shortage issue and to level up production precision and efficiency. Some examples are Nike robot workforce, drones used to scan inventories in warehouses, and automated product analysis and production. Recently, Foxconn (world leading manufacturer of electronics parts) has replaced 50% of its labor force with robots. In Thailand, with the government’s accelerated implementation of Thailand 4.0 policy, robots and automation are expected to be increasingly used not only in manufacturing sector but also in daily way of living.
• Innovating to Zero is a concept of applying new technologies to reduce waste in manufacturing process to zero waste. This innovation would help lower production cost and also cope with the widespread environmental concerns at present. For example, Singapore’s 123Recycle is an application that will show which part of a product can be recycled with the consumer only scanning the barcode appearing on the product packaging.
Moreover, at the consumer level, new trends have emerged in line with consumers’ lifestyle and demographic changes, comprising:
• Smart Lifestyle Given the urbanization process, urban people are forced to be rushed in their everyday life activities. This has prompted growing popularity of using new technologies and digital applications for more convenience and time-saving. Consumers order meals online, read e-books or e-magazines, book a taxi through applications. They can even transform their normal home to a smart home with automated control of home appliances using only smartphones and tablets, anytime and anywhere. For example, homeowners can turn on and off their air-conditioners, electric lamps, electrical appliances, automatic animal feeders, and CCTV, through applications when they are away from home.
• Elderly Care Products The increasing proportion of ageing society in several countries worldwide including Thailand has significantly encouraged entrepreneurs to design products that can well respond to the needs of the elderly. One of these innovative products is automatic light bulb which will be on as soon as the elderly get up from bed, so they need not reach out to the switch to turn the light on.
Some of the above trends may concern us more than expected. They can be both opportunities and risks at the same time. Therefore, we should always keep abreast of the developments of these trends so that, once we are well-prepared, we would be able to move ahead of others to grasp the opportunities available there.