- Details
- Category: บทความทั่วไป
- Published: Monday, 13 June 2016 09:01
- Hits: 5524
จากร้านขายเมล็ดพันธุ์ผัก 'เจียไต๋จึง'ย่านวัดเกาะ ถนนทรงสวัสดิ์ (ทรงวาด) ของ นายเจี่ย เอ็กชอ ชาวจีนโพ้นทะเลจากตำบลฮั้วซัว อำเภอเฉิงห่าย มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นคว้าพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช ที่ได้เดินทางเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ. 2464 นับเนื่องจนถึงบัดนี้ 95 ปีแล้ว ใครจะเชื่อว่า “ห้างเจียไต๋” ที่ขายเพียงเมล็ดพันธุ์ผักภายใต้เครื่องหมายการค้า “เรือบิน” ได้พัฒนาและมากลายเป็น “เครือเจริญโภคภัณฑ์” ซึ่งทั้งผลิตและจำหน่ายสินค้า บริการ มีเครือข่ายสาขากระจายอยู่หลายแห่งทั่วโลก และถือได้ว่าเป็นบริษัทชั้นนำของคนไทยที่อยู่ในระดับแนวหน้าทัดเทียบบริษัทชื่อดังของโลก
เกือบ 1 ศตวรรษแห่งการโลดแล่นในธุรกิจการค้า ในวันนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้เติบโตอย่างยั่งยืนเป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลากหลาย (Conglomerate) และมีการลงทุนใน 18 ประเทศ และการค้ากับประเทศต่าง ๆ กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ประกาศศักดิ์ศรีความเป็นไทยอย่างเต็มภาคภูมิในทุกประเทศที่เข้าไปลงทุน ด้วยการปักธงไตรรงค์ของชาติไทยในทุก ๆ บริษัทภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ที่เข้าไปลงทุนในต่างประเทศ ธงชาติไทยจึงปลิวไสวโบกสะบัดอย่างสง่างามในนานาประเทศ
นอกจากนี้ ทุกบริษัทของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในต่างประเทศจะประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินินีนาถฯ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ รวมถึงการใช้ชื่อบริษัทเป็นภาษาไทย แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย
ปัจจุบันเครือเจริญโภคภัณฑ์จึงเป็นบริษัทไทยในระดับแถวหน้าที่มีศักยภาพในการแข่งขันกับบริษัทต่างชาติบนเวทีการระดับโลก ในส่วนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ก็มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่สามารถทำธุรกิจแข่งขันกับชาติอื่นอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งถือว่ามีส่วนทำให้ประเทศไทยได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นบนเวทีโลก
ค่านิยม 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ประสบความสำเร็จ และด้วยการยึดมั่นในค่านิยม 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนนี้เอง เป็นผลให้รัฐบาลในหลายประเทศเชื้อเชิญให้เครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าไปลงทุน โดยเฉพาะด้านการเกษตรร่วมกับรัฐบาลในประเทศนั้น ๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกร อาทิ เวียดนาม กัมพูชา พม่า เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นเมื่อครั้งยังเป็นร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ ย่านทรงวาด จวบจนเป็นองค์กรใหญ่ที่มีเครือข่ายการค้าทั้งในไทยและระดับโลก เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้คงไว้ซึ่งหลักการทำธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรสูงสุด แต่มีปรัชญาการทำงานที่มุ่งตอบแทนบุญคุณแผ่นดินดังจะเห็นได้ชัดเจนในค่านิยม 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน
ด้วยเหตุนี้ในระยะเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษ เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงไม่เพียงส่งมอบคุณค่าในผลิตภัณฑ์และบริการให้กับเกษตรกร และผู้บริโภค แต่ยังคืนคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งนับว่าเป็นเจ้าของทรัพยากรด้วยเช่นกัน ด้วยกิจกรรมมากมายหลากหลายในหลายด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม