มาเลเซียเป็นประเทศแรกๆ ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) เข้าไปบุกเบิกทำธุรกิจเมื่อ 42 ปีก่อน โดยดำเนินธุรกิจครบวงจรเหมือนกับประเทศไทย มีทั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และโรงงานแปรรูปอาหาร ซึ่งมาเลเซียมีศักยภาพในการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจสูง เพราะมีเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาเลเซียให้ความสำคัญกับการลงทุน หนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรม “อาหารฮาลาล” ทำให้เครือฯ มองเห็นโอกาส เพราะเรื่องเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ถือเป็นธุรกิจหลักของเครือฯ ที่มุ่งสู่การเป็น “ครัวของโลก” (Kitchen of the world) เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับพลเมืองโลก

       “อาหารฮาลาล” ถือเป็นตลาดที่น่าจับตามอง เพราะประชากรมุสลิมทั่วโลกมีมากถึง 2,200 ล้านคน คิดเป็น 23% ของประชากรโลก มี 20 ล้านคนอาศัยอยู่ในมาเลเซีย ที่ผ่านมาตลาด “อาหารฮาลาล” มีมูลค่าสูงถึง 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7.4%ต่อปี ส่วนประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออก “อาหารฮาลาล” ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เพียง 2,980 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

รัฐบาลมาเลเซียให้ความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรม “อาหารฮาลาล” มากเป็นพิเศษ เพราะต้องการเป็นศูนย์กลางฮาลาลของโลก (Global Halal Hub) โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานดำเนินการไว้อย่างเป็นระบบ เช่น คณะกรรมการอาหารอิสลามกลาง หน่วยงานพัฒนามาตรฐานสินค้าอิสลาม องค์การความร่วมมืออิสลาม และกรมส่งเสริมการส่งออกสินค้าฮาลาล พร้อมให้สิทธิไม่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่สำคัญมีขั้นตอนการตรวจสอบอย่างชัดเจน ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการผลิต อุปกรณ์ที่ใช้ พนักงาน การขนส่ง และชั้นวางสินค้า ทำให้“อาหารฮาลาล” ของมาเลเซียได้มาตรฐานระดับสากล จนผู้บริโภคชาวมุสลิมไว้วางใจและยอมรับ “อาหารฮาลาล” ที่ผลิตจากมาเลเซีย

       ธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารในมาเลเซียมีการแข่งขันกันสูง จึงต้องอาศัยประสบการณ์และใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วย เพื่อทำให้ต้นทุนต่ำแต่สินค้าต้องมีคุณภาพได้มาตรฐาน ที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ส่งพนักงานไปเรียนรู้เรื่องการผลิต “อาหารฮาลาล” กับมาเลเซียทุกขั้นตอน จนได้รับการรับรองจากรัฐบาลมาเลเซียให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ต้องยอมรับว่าธุรกิจ “อาหารฮาลาล” หากผลิตในประเทศไทยจะได้รับการยอมรับน้อยกว่ามาเลเซีย เพราะบางประเทศมองว่าไทยไม่ใช่ฮาลาล 100% จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าไปตั้งฐานการผลิตและกระจายสินค้า “อาหารฮาลาล” ที่มาเลเซีย เพื่อส่งออกไปขายในตลาดทั่วโลก

       เคล็ดลับความสำเร็จในการลงทุนที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญา “3 ประโยชน์” ที่คำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนที่เข้าไปลงทุนเป็นหลัก ส่วนเครือฯ จะได้ประโยชน์ตามมา ซึ่งการยึดมั่นแนวคิดนี้อย่างเคร่งครัด ทำให้มาเลเซียให้การยอมรับธุรกิจของเครือฯ มาจนถึงทุกวันนี้

โดย นายสมภพ มงคลพิทักษ์สุข รองประธานกรรมการ ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร(สัตว์บก) เขตประเทศมาเลเซีย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)