รัฐบาลจีนเร่งเครื่องกระตุ้นภาคชนบทโดยใช้ภาคการเกษตรเป็นพลังขับเคลื่อน จับมือเครือเจริญโภคภัณฑ์ ชูโมเดล '3 ประโยชน์ – 4 ประสาน' เป็นยุทธศาสตร์พัฒนาโครงการเกษตรกรรมทันสมัย เพื่อยกระดับรายได้และพลิกชีวิตความเป็นอยู่เกษตรกรจีน 700-800 คนสร้างความแข็งแกร่งแก่เศรษฐกิจจีน สร้างความมั่นคงทางอาหาร และความปลอดภัยในอาหาร
ดร.สารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า 30 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่จีนเปิดและปฏิรูปประเทศ ปรากฏชัดเจนว่าภาคเมืองได้รับประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเต็มที่ ในขณะที่ภาคชนบทไม่ได้รับการพัฒนา ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจีนจึงได้ประกาศปฏิรูปภาคชนบทโดยใช้ภาคการเกษตรเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนการทำเกษตรแบบดั้งเดิมเป็นเกษตรกรรมทันสมัย ซึ่งจะทำให้เกิดการยกระดับรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรทั้งหมดในจีนที่มีอยู่จำนวน 700-800 ล้านคนให้ดีขึ้น สร้างความปลอดภัยในอาหารซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของจีน และนอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่ประเทศจีนซึ่งมีประชากรมากที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นการวางรากฐานให้จีนกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารของโลก และในการเดินหน้าตามนโยบายนี้รัฐบาลจีนได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาโครงการเกษตรกรรมทันสมัยในจีน โดยใช้เทคโนโลยีและการจัดการสมัยใหม่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรของจีนให้ทันสมัยและเป็นระดับโลก
ในการนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติแห่งแรกในจีน ดำเนินธุรกิจในจีนมายาวนานถึง 35 ปีและมีความรู้ ความชำนาญ รวมถึงประสบการณ์ในการพัฒนาด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลจีนให้ทำการพัฒนาโครงการเกษตรกรรมทันสมัยในจีนหลายโครงการ โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบาย'3ประโยชน์' คือ ประโยชน์แก่ประเทศชาติ ประชาชน และบริษัทได้สร้างสรรค์นวัตกรรมทางธุรกิจที่เรียกว่า '4 ประสาน'หรือ 'Four in One' ซึ่งเป็นรูปแบบความร่วมมือ 4 ฝ่าย ได้แก่ รัฐบาล บริษัทเอกชน สถาบันการเงิน และเกษตรกร ขึ้นมาเพื่อรองรับการพัฒนาเกษตรกรรมทันสมัยในจีน ซึ่งถือได้ว่า '3 ประโยชน์ – 4 ประสาน' เป็นยุทธศาสตร์ความร่วมมือสำคัญที่สร้างประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายและที่สำคัญที่สุดคือก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคเกษตรกรรมของจีน ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลจีนให้ดำเนินโครงการเกษตรกรรมทันสมัยประเดิมเป็นโครงการแรกที่เขตผิงกู่ ในนครปักกิ่ง เมื่อปี พ.ศ.2555 ได้ริเริ่มโครงการไก่ไข่ครบวงจรที่ทันสมัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ภายใต้ชื่อ'โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์' กล่าวได้ว่าเป็นโครงการมีขนาดการเลี้ยงใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเอเชียและเป็นอันดับสองของโลก สามารถเลี้ยงไก่ไข่ได้ถึง 3 ล้านตัว มีกำลังการผลิตไข่ไก่มากถึง 54,000 ตันต่อปี ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่าการลงทุนรวม 720 ล้านหยวนหรือประมาณ 3,600 ล้านบาท และมีเกษตรกรจีนได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการนี้ถึง 1,608 ครอบครัว หรือประมาณ 5,000 คน
ปัจจุบันเครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินโครงการเกษตรกรรทันสมัยอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการเกษตรกรรมทันสมัยฉือซีพัฒนาพื้นที่ 8,000 ไร่ซึ่งเป็นที่ดินถมทะเลในเมืองฉือซี (CIXI) มณฑลเจ้อเจียง ให้เป็นเกษตรผสมผสานแบบทันสมัยครบวงจรที่อยู่ใกล้เมือง โดยให้ทุกอย่างอยู่ในจุดเดียวกันครบทั้งด้านพืชผักและปศุสัตว์ ซึ่งวางแผนที่ให้โครงการนี้เป็นแหล่งผลิตอาหารป้อน 100 ล้านคนรอบนครเซี่ยงไฮ้ (เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ) ในเบื้องต้นมีมูลค่าโครงการประมาณ 4,000 – 5,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 20,000 – 25,000 ล้านบาท
โครงการเกษตรกรรมทันสมัยเครือเจริญโภคภัณฑ์ตงอิ๋ง กำลังถูกพัฒนาขึ้นบนที่ดินขนาดใหญ่ 33,916 ไร่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำฮวงโห ซึ่งเป็นที่ดินงอกตามธรรมชาติ โดยรัฐบาลได้ลงทุนจำนวน 1,000 ล้านหยวนหรือประมาณ 5,200 ล้านบาทพัฒนาสาธารณูปโภค ได้แก่ ถนน และระบบชลประทาน (คูคลองส่งน้ำ) ส่วนเครือเจริญโภคภัณฑ์จะเข้ามาพัฒนาด้านการเกษตรโดยใช้การบริหารจัดการและเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดของโลกในการสร้างสรรค์ที่ดินแปลงนี้ให้เป็นศูนย์กลางการเกษตรทันสมัยให้ได้ภายในระยะเวลา 5 ปีเพื่อเป็นต้นแบบการเรียนรู้และยกระดับเกษตรจีนสู่ความทันสมัยระดับโลก โดยโครงการนี้ประกอบไปด้วย 1.ศูนย์การเพาะปลูกข้าวทันสมัย (12,500ไร่) 2.ศูนย์กลางการผลิตและแปรรูปปศุสัตว์ทันสมัย (เลี้ยงสุกร 1,000,000ตัว) 3.ศูนย์การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงด้านการเกษตร 4.ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงเกษตร 5.ศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์และต้นกล้า ทั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของตงอิ๋งที่มีการปลูกข้าว
โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมใหม่ที่มณฑลจี๋หลิน โครงการนี้ตั้งอยู่ทางตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน เป็นมณฑลเกษตรกรรมขนาดใหญ่ที่มีพืชพันธ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ โดยมีสินค้าเกษตรและเนื้อสัตว์มากเป็นอันดับ 1 ของจีน ทั้งนี้โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมใหม่แห่งนี้มีมูลค่าการลงทุน 7,900 ล้านหยวน หรือ 39,500 ล้านบาท โดยเป็นการเลี้ยงไก่ไข่ 3 ล้านตัว/ปี สุกร 1 ล้านตัว/ปี และไก่เนื้อ 100 ล้านตัว/ปี และได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างมณฑลจี๋หลินและเครือเจริญโภคภัณฑ์ในจีนไปเมื่อปีเดือนกันยายนพ.ศ.2553 เป็นโครงการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ในจีนดำเนินการร่วมกับภาครัฐของจีน ภาคเกษตรกร และธนาคาร โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจะรับผิดชอบในด้านการส่งเสริมเกษตรกรพร้อมรับประกันรายได้ให้กับเกษตรกรส่วนธนาคารที่ร่วมโครงการรับผิดชอบด้านการสนับสนุนเงินทุน
โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมใหม่ ที่เมืองจั้นเจียง มณฑลกวางตุ้ง เครือเจริญโภคภัณฑ์ลงนามข้อตกลงร่วมกันกับเมืองจั้นเจียงไปเมื่อประมาณปีพ.ศ.2553เพื่อดำเนินการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่เลี้ยงสุกร 1 ล้านตัว เลี้ยงไก่ 100 ล้านตัว รวมถึงธุรกิจสัตว์น้ำ เมืองจั้นเจียงว่าเป็นเมืองสีเขียวที่มีความพร้อมในการพัฒนาด้านเกษตรอุตสาหกรรม อีกทั้งรัฐบาลจั้นเจียงก็มีนโยบายสนับสนุนภาคธุรกิจอย่างเต็มที่ คาดว่าใช้เงินลงทุนประมาณ 8,000 ล้านหยวนหรือ 40,000 ล้านบาท
โครงการซินเกียง เป็นโครงการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ร่วมกับหน่วยงานทหาร ในมณฑลซินเกียง พัฒนาโครงการเลี้ยงไก่ และหมู โดยทหารเป็นผู้ลงทุน เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นผู้บริหารในรูปแบบ Green Project วางแผนเลี้ยงไก่เนื้อ 15 ล้านตัวต่อปี ไก่ไข่ 1.5 ล้านตัวต่อปี เลี้ยงหมู 50,000 ตัวต่อปี ในฟาร์มปิดโดยใช้เทคโนโลยีมาตรฐานสากล เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำมูลสัตว์มาผลิตก๊าซมีเทนเพื่อปั่นไฟ ส่วนมูลที่เป็นก๊ากนำไปทำปุ๋ย
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลงทุนอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ โครงการอาหารสำเร็จรูป เขตชิงหวงต่าว ซึ่งรัฐบาลได้ให้เครือเจริญโภคภัณฑ์เช่าที่ดินเพื่อสร้างโรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปทันสมัยที่สุดในจีน มีมูลค่าการลงทุน 1,800 ล้านหยวนหรือ 9,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมซานไห่กวาน ห่างจากเทียนสิน และปักกิ่ง ประมาณ 300 กิโลเมตร ใกล้ท่าเรือ และสถานีรถไฟ โดยภายในโรงงานมี 3 สายการผลิต ใช้เทคโนโลยีทันสมัยระดับโลก โดยเครื่องจักรและอุปกรณ์กว่า 90%นำเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ผลิตสินค้าอาหารสำเร็จรูปที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับโลกภายใต้แบรนด์ CP โดยจะผลิตอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง (Frozen Food) ได้แก่ ซาลาเปา เกี๊ยวซ่า ขนมจีบ ประมาณ 300 รายการ ในส่วนของซาลาเปาจะสามารถผลิตได้ 440,000 ลูก/วันเพื่อส่งออกไปญี่ปุ่นและจำหน่ายในประเทศผ่านร้านสะดวกซื้อ (7-11และร้านค้าปลีกอื่นๆ) รวมถึงซุปเปอร์เซ็นเตอร์ นอกจากนี้ในอนาคตจะผลิตอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน(Retorted Food)อีกด้วย
|