- Details
- Category: บทความการเงิน
- Created: Saturday, 15 April 2017 21:31
- Hits: 8582
มาแน่..สวัสดิการคนรายได้น้อยรถเมล์-รถไฟ-ค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า
ไทยโพสต์ : "...สวัสดิการที่รัฐบาลจะมอบหลังจากนี้ โดยกระทรวงการคลังได้ยืนยันมาแล้วว่ามีแน่ 'การบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า'ไม่เพียงเท่านี้ยังมี 'การบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านคมนาคม อาทิ รถเมล์ รถไฟฟรี'ที่แม้จะเป็นมาตรการที่ได้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน แต่การดำเนินการครั้งนี้จะทำแบบถูกฝาถูกตัวนั่นคือ ให้สิทธิ์เฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการเท่านั้น โดยจะเริ่มมอบสวัสดิการได้ตั้งแต่ มิ.ย.2560...'
ผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว สำหรับการเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนใน โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 ที่เริ่มเปิดให้มีการลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. - 15 พ.ค.นี้โดยการลงทะเบียนในครั้งนี้ ถือเป็นการดำเนินการครั้งที่ 2 จากในปี 2559 ได้มีการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนตามโครงการดังกล่าว และมียอดลงทะเบียนอยู่ที่ 8.3 ล้านราย โดยในส่วนนี้มีการตรวจสอบสิทธิ์ และพบว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์ราว 7 ล้านราย
สำหรับ เป้าหมายของรัฐบาลกับการเปิดให้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยในรอบนี้ ไม่น่าจะต่ำกว่า 14 ล้านราย ด้วยเพราะประเมินว่ารอบนี้ประชาชนจะมีความเชื่อมั่น และมั่นใจกับสวัสดิการที่รัฐบาลจะมอบให้ ว่า "ให้จริง" จากรอบก่อนหน้าที่ได้มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่กระเป๋าเงินผู้มีรายได้น้อย จำนวน 1.5-3 พันบาทต่อรายนั่นเอง
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง กล่าวว่า การดำเนินการของรัฐบาลในรอบนี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผู้ที่ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ จะได้รับ'บัตรสวัสดิการ'ซึ่งจะเป็นบัตรที่ใช้แสดงตัวตนเพื่อรับสวัสดิการต่างๆ ที่รัฐบาลจะจัดให้กับประชาชนที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด และในอนาคตยังตั้งเป้าหมายว่า บัตรดังกล่าวจะกลายเป็น 'กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์' ที่รองรับโครงการบิ๊ก โปรเจ็กต์ระดับชาติ อย่าง 'e-Payment'อีกด้วย
และประเด็นสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก นั่นคือ สวัสดิการที่รัฐบาลจะมอบหลังจากนี้ โดยกระทรวงการคลังได้ยืนยันมาแล้วว่า มีแน่ 'การบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า' ไม่เพียงเท่านี้ยังมี 'การบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านคมนาคม อาทิ รถเมล์ รถไฟฟรี'ที่แม้จะเป็นมาตรการที่ได้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน แต่การดำเนินการครั้งนี้จะทำแบบถูกฝาถูกตัว นั่นคือ ให้สิทธิ์เฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการเท่านั้น โดยจะเริ่มมอบสวัสดิการได้ตั้งแต่ มิ.ย.2560
รมว.การคลัง ยังได้มอบหมายให้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กลับไปพิจารณาสวัสดิการที่จะมอบให้หลังจากนี้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งมีชีวิตความเป็นอยู่แตกต่างไปจากในกรุงเทพมหานคร ดังนั้นสวัสดิการที่จะมอบให้ จึงอาจต้องอิงตามชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันด้วย
จะเพิ่มการช่วยเหลือคนในต่างจังหวัดอย่างไรให้เหมาะสม ได้ให้ สศค.กลับไปพิจารณาในเรื่องนี้ เช่น อาจลดค่าตั๋วรถ บขส. หรือรถไฟ ในการเดินทางเข้ามาในเมือง เพราะคนในเมืองได้รับการช่วยเหลือด้านการเดินทาง ผ่านรถเมล์ รถไฟฟรีไปแล้ว แต่คนต่างจังหวัดไม่ได้ใช้บริการสิ่งเหล่านี้มากนัก จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปเร่งศึกษาเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างสวัสดิการที่จะมอบให้กับผู้มีรายได้น้อยในเมืองและในต่างจังหวัด
อย่างไรก็ดี แนวคิดเกี่ยวกับสวัสดิการที่จะมอบให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ยังได้มีการศึกษาไว้อีกหลายแนวทาง อาทิ การทำประกันอุบัติเหตุ 99 บาท ให้กับผู้ลงทะเบียนรายได้น้อย เพื่อจะได้มีเงินชดเชยกรณีประสบอุบัติเหตุและทำงานไม่ได้ในช่วงพักฟื้น
นอกจากนี้ สวัสดิการเรื่อง 'รถไฟฟ้าฟรี' ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ปลัดกระทรวงการคลัง 'สมชัย สัจจพงษ์" เคยระบุไว้ว่า เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่จะมีการพิจารณาในอนาคต เพราะผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในเมือง ยังมีความจำเป็นต้องใช้บริการรถไฟฟ้าสำหรับการเดินทางไปประกอบอาชีพ สวัสดิการเรื่องการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน ก็เคยเป็นอีกหนึ่งแนวคิด แต่ในส่วนนี้คงต้องพิจารณากันอย่างรอบคอบ
นั่นเพราะประชาชนผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่เช่าที่พักอาศัยอยู่กับเอกชน ไม่ได้เช่ากับหน่วยงานภาครัฐ ดังนั้นการบรรเทาภาระในส่วนนี้อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด หรือพูดง่ายๆ ว่า 'ไม่เหมาะที่จะเอางบประมาณจำนวนมหาศาลไปอุดหนุนในเรื่องนี้'ทั้งหมดนี้เป็นสวัสดิการที่ภาครัฐได้พิจารณาเตรียมเอาไว้ เพื่อทยอยมอบให้ผู้มีรายได้น้อยในช่วงแรก โดยทั้งหมดดำเนินการอยู่บนหลักการที่ว่า 'ต้องการบรรเทาภาระรายจ่ายของประชาชน'หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยเริ่มมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
ดังนั้น สวัสดิการที่จะมอบให้ในรอบนี้จึงมีความแตกต่างจากผู้ลงทะเบียนในรอบแรก ที่เน้น'การเสริมรายได้'จึงเกิดเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินครัวเรือนละ 1.5-3 พันบาท โดยสวัสดิการที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้ เป็นการพิจารณาตามภาวะเศรษฐกิจ ความเหมาะสม และความสมดุล
สำหรับ เป้าหมายของโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ 20 กว่าล้านราย อีกกลไกของโครงการดังกล่าว นั่นคือ รัฐบาลจะมีข้อมูลผู้มีรายได้น้อยในประเทศทั้งหมด จากที่ไม่เคยมีอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะนำไปสู่มาตรการในการให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมต่อไป ไม่เพียงแต่ประชาชนจะได้รับความช่วยเหลือ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ในมุมของรัฐบาล การให้ความช่วยเหลืออย่างถูกกลุ่มเป้าหมายนี้เอง จะทำให้รัฐประหยัดงบประมาณที่เคยใช้เหมือน 'ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ'มาในช่วงก่อนหน้า ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ผู้ที่จะมาลงทะเบียน สามารถขอรับแบบฟอร์มลงทะเบียนได้ที่หน่วยลงทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์ ของกระทรวงการคลัง www.mof.go.th, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง www.fpo.go.th, อีเปย์เมนต์ www.epayment.go.th และเว็บไซต์ของหน่วยรับลงทะเบียน เพื่อเตรียมกรอกข้อมูลที่ใช้ในการลงทะเบียนโดยข้อมูลที่ต้องใช้ในการกรอกข้อมูล เช่น บัตรประจำตัวประชาชนของตนเอง เลขบัตรประจำตัวประชาชนของบิดา มารดา และบุตร สมุดทะเบียนบ้าน ทะเบียนผู้พิการทะเบียนเกษตรกรเลขที่บัญชีเงินฝาก เป็นต้น และต้องสำรวจว่าตนเองมีรายได้ เงินฝาก และหนี้สินเท่าใด
หลังจากกรอกแบบฟอร์มครบถ้วน ชัดเจน และถูกต้องตามความเป็นจริงแล้ว ต้องลงนามรับรองความถูกต้อง และลงนามยินยอมให้เปิดเผยและตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนได้.