- Details
- Category: บทความการเงิน
- Created: Friday, 30 December 2016 14:06
- Hits: 3147
Experis (เอ็กซ์พีรีส) เผยผลสำรวจอัตราการปรับเงินและโบนัสรับปี 60
ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีแบบนี้ หลายบริษัทหลายองค์กรและรวมทั้งพนักงาน ต่างก็กำลังดำเนินการเรื่องของการตั้งเป้าหมายปีหน้า โดยเฉพาะโบนัสที่หลายคนตั้งตารอและเรื่องของการกำหนดงบประมาณประจำปีไว้ โดยเฉพาะฝ่ายทรัพยากรบุคคล ก็คงจะต้องมีการประมาณการและกำหนดงบประมาณการขึ้นเงินเดือนไว้ จากผลสำรวจล่าสุดจาก Experis (เอ็กซ์พีรีส) บริษัทในเครือแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งได้ดำเนินการเก็บข้อมูลในช่วงเดือนตุลาคม 2559 จากบริษัทกว่า 1,000 บริษัท โดยมีแนวโน้มการปรับขึ้นเงินเดือนและโบนัสจะยังเป็นปกติ
มร.ไซมอน แมททิวส์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย, แถบตะวันออกกลางและเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ระบุว่าจากผลสำรวจบริษัทคู่ค้าในหลากหลายธุรกิจในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มธุรกิจบริการ (Services Business)จำนวน 42% กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต (Industrial Group) จำนวน 32% และกลุ่มธุรกิจซื้อมาขายไป(Trading Company) จำนวน 26%เพื่อเป็นการสำรวจอย่างทั่วถึงจึงได้มีการกำหนดขนาดขององค์กรจากจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมสำรวจทั้งหมด 1,000 บริษัท ออกเป็นองค์กรขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และกลุ่มธุรกิจ
พบว่า บริษัทคาดการณ์แนวโน้มการปรับอัตราเงินเดือนของพนักงานส่วนใหญ่อยู่ที่ 3-7% โดยมีอัตราการปรับเงินเดือน 3-5% จากฐานเงินเดือนที่บริษัทจะปรับให้พนักงานมาเป็นอันดับหนึ่งในสัดส่วน 42% ตามมาด้วยอัตราการปรับเงินเดือนที่ 6-7% ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน คือ 41% ในขณะเดียวกันจากการสำรวจได้ค้นพบว่ายังมีบริษัทในจำนวน 7% คาดการณ์ว่าจะปรับอัตราเงินเดือนอยู่ที่ 8-9% และมีบริษัท
เพียง 1% เท่านั้นที่คาดการณ์ว่าจะปรับเงินเดือนให้พนักงานมากกว่า 10% สำหรับบริษัทที่มีแนวโน้มการปรับเงินเดือนให้พนักงานน้อยกว่า3% จากการสำรวจมีเพียง 8% เท่านั้นอันเนื่องมาจากภาวะซบเซาของตลาดและผลประกอบการที่ลดลง
ในส่วนการจ่ายโบนัสประจำปี โดยมีบริษัทถึง 93% ยืนยันว่าจะมีการจ่ายโบนัสให้กับพนักงานแน่นอน โดยมีเพียง 7% ที่จะไม่มีการจ่ายโบนัสเนื่องจากผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเรียงลำดับการจ่ายโบนัสดังนี้ บริษัทจำนวน 42% จะจ่ายโบนัสให้พนักงาน 1 เดือน และจำนวน 40% จะจ่ายประมาณ 2-3 เดือน และจำนวน 11% จะจ่าย 4-5 เดือน สุดท้ายนี้ในส่วนของบริษัทที่จะจ่ายโบนัสประจำปี มากกว่า 5 เดือนเป็นต้นไปมีเพียง 1% เท่านั้น
ดังนั้น ไม่ใช่แค่เงินเดือนที่เป็นแรงจูงใจในการทำงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การได้รับสวัสดิการที่ดี ทำให้พนักงานมีความสุขและมีความผูกพันธ์กับองค์กรก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น แม้ว่าบริษัทขึ้นเงินเดือนหรือโบนัสไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ต้องพิจารณาเรื่องสวัสดิการควบคู่ไปด้วย เพื่อรักษาพนักงานที่มีความสามารถให้อยู่กับองค์กร เพราะองค์กรจำเป็นต้องรักษาคน และดึงดูดคนในเวลาเดียวกัน หากทุกฝ่ายปรับตัวจะสามารถตั้งรับกับสถานการณ์และเดินหน้าไปสู่เป้าหมายขององค์กรในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิผลของตลาดแรงงานโดยรวมอย่างแท้จริง มร.ไซมอน กล่าวสรุป