ชี้ธุรกิจใหญ่แห่เทกโอเวอร์ซีอีโออาเซียนมองศก.ดิ่งไทยร่วงประเทศน่าลงทุน

    ไทยโพสต์ : ราชประสงค์ *คาดนักธุรกิจไทยแห่ควบรวมและเข้าซื้อกิจการต่างแดนเพิ่ม 20% โดยเฉพาะเครือขนาดใหญ่ PwC เผยซีอีโออาเซียนเชื่อมั่นเศรษฐกิจต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ไทยอันดับร่วงประเทศน่าลงทุนมาอยู่ลำดับ 5

      นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ประเทศไทย (PwC) เปิดเผยว่า แนวโน้มผู้ประกอบการชาวไทยจะมีการเข้าซื้อและควบรวมกิจการในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะเครือขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงภายในประเทศไทย เพื่อทำให้ธุรกิจของตนเองขยายตัวได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม ส่วนใหญ่เลือกลงทุนเข้าซื้อและควบรวมกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับของเดิมที่มีอยู่ หรือในกลุ่มค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค คาดการณ์ว่าปีนี้อาจขยายตัวได้ถึง 20%

    สำหรับ ผลสำรวจโกโบล ซีอีโอ เซอร์เวย์ (Global CEO Survey) ครั้งที่ 19 จากความคิดเห็นซีอีโอทั่วโลก จำนวน 1,409 ราย ใน 83 ประเทศ โดยมาจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน จำ นวน 61 รายใน 7 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ พม่า เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย พบว่าความเชื่อมั่นของซีอีโอทางกลุ่มอาเซียนเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของรายได้บริษัทมีแนวโน้มลดลง โดยผู้นำธุรกิจอาเซียนเพียง 39% จะดีขึ้น ปรับตัวลดลง 10% จากปี 2558 อยู่ที่ 49% ถือว่าต่ำสุดในรอบ 3 ปี นับจากปี 2556 ขณะที่ซีอีโอโลกก็มีความเชื่อมั่นลดลงด้วยเช่นกัน ในปีนี้อยู่ที่ 27% จากปีก่อนอยู่ที่ 37%

     ปัจจัยหลักที่ซีอีโอของอาเซียนเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจและนโยบาย ได้แก่ ความผัวผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความไม่มั่นคงทางสังคม ความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียว กันกับซีอีโอโลก และความไม่มั่นคงทางสังคมเป็นอีกส่วนที่ซีอีโออาเซียนมีความกังวล ขณะที่ซีอีโอโลกมองถึงกฎระเบียบ ข้อบังคับที่มากเกินไปเป็นอุปสรรค

       ขณะเดียวกัน แม้ว่าภาพรวมความเชื่อมั่นของปี 2559 นี้จะไม่ค่อยดีนัก แต่ในแง่ของการลงทุนยังคงมีต่อเนื่องอยู่เช่นเดิม โดยยังพบว่าประเทศน่าลงทุน 5 อันดับ ได้แก่ 1.จีน 2.สหรัฐอเมริกา 3.อินโดนีเซีย และเวียดนาม 4.อินเดีย ส่วนในประเทศไทยในมุมมองของซีอีโออาเซียนน่าลงทุนเป็นอันดับ 5 ตกจากเมื่อปี 2558 ซึ่งเคยอยู่ลำดับ 4 มาก่อนหน้า

   ส่วนแนวโน้มการจ้างงานในซีอีโอโลกพบว่า มีเพียง 48% ที่ต้องการเพิ่มการจ้างแรงงานในปีนี้ ลดลงจากปีก่อนที่ 50% โดยมุมของผู้นำอาเซียนระบุว่า 59% จะจ้างแรงงานเพิ่มในปีนี้ ซึ่งลดลงจากปีก่อน ที่ 67% จากผลสำรวจยังชี้ให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นรายได้ของบริษัทในช่วง 12 เดือนของหน้า เนื่องจากกลุ่มซีอีโอโลกมีความเชื่อมั่นเพียง 35% จากปีก่อนที่ 39% ส่วนอาเซียน 38% จากปีก่อน 47% ซึ่งจะเห็นว่าทั้งระดับ โลกและอาเซียนต่างก็มั่นใจลดลง