WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SCB EIC : ธปท. คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.00% นโยบายการเงินมีแนวโน้มผ่อนคลายต่อไปอีกระยะ 


   ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกบทวิเคราะห์ เรื่อง ธปท. คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.00% นโยบายการเงินมีแนวโน้มผ่อนคลายต่อไปอีกระยะ โดยระบุว่า 

Event

 

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6:1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% ในการประชุมวันที่ 5 พฤศจิกายน 2014

Analysis

 

กนง. ประเมินว่านโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบันไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แม้ว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 อาจขยายตัวต่ำกว่าที่ กนง. ได้คาดไว้เดิม เนื่องจากการใช้จ่ายในประเทศรวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐต่ำกว่าที่คาดและการส่งออกที่อ่อนแอ แต่ กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปีหน้าจากการส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าปีนี้และการลงทุนภาครัฐที่จะช่วยสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ 2.00% ในปัจจุบันนี้ กนง. มองว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและยังสามารถรักษาเสถียรภาพทางการเงินได้อย่างเหมาะสม

   

เสถียรภาพทางการเงินของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทำให้นโยบายการเงินยังสามารถผ่อนคลายได้ต่อเนื่องอัตราเงินเฟ้อในเดือนตุลาคมลดลงมาอยู่ในระดับ 1.5% ต่ำสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดต่ำลง ในขณะเดียวกัน สถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้ายและอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันยังค่อนข้างมีเสถียรภาพถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินค่อนข้างมากทั้งในสหรัฐฯ ยูโรโซน และญี่ปุ่น ในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยจึงยังสามารถอยู่ในระดับปัจจุบันได้โดยไม่บั่นทอนเสถียรภาพทางการเงิน

   

ในมุมมองของกนง. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับบทบาทของนโยบายการคลัง กนง.ประเมินว่าปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อภาพการฟื้นตัวดังกล่าวคือ ความรวดเร็วของการดำเนินโครงการลงทุนภาครัฐ ซึ่งอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐในปีงบประมาณ 2557 อยู่ที่ 65.8% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 71.9% สะท้อนว่านโยบายการคลังยังไม่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเท่าที่ควร

Implication

 

อีไอซีประเมินว่านโยบายการเงินยังต้องผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการใช้จ่ายและการลงทุนภาคเอกชนที่ยังฟื้นตัวได้ช้า ขณะที่การส่งออกยังอ่อนแอ และการใช้จ่ายภาครัฐยังต่ำกว่าที่คาด โดยคาดว่า กนง. จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างน้อยจนถึงสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2015 เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างมีเสถียรภาพ

   

หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะต้องทยอยปรับเพิ่มขึ้นกลับสู่ภาวะปกติ เพื่อให้เหมาะสมต่อสภาพเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ใกล้เคียงกับศักยภาพในปีหน้า ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว รวมไปถึงความเสี่ยงด้านเงินทุนเคลื่อนย้ายและค่าเงินบาทจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า โดยอีไอซีคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะเริ่มปรับเพิ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2015

ตารางสรุปคำแถลงการณ์ของ ธปท.  เทียบกับการประชุมครั้งก่อน

หัวข้อ

การประชุมครั้งก่อน

(17 ก.ย. 2014)

การประชุมครั้งนี้

(5 พ.ย. 2014)

เศรษฐกิจโลก

ภาพรวม:    “ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดเล็กน้อย”

สหรัฐฯ:      “ฟื้นตัวได้ตามคาด”

ยูโรโซนและญี่ปุ่น:  “การฟื้นตัวยังอ่อนแอ แต่น่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง”

เอเชีย:  “ยังขยายตัวได้ใกล้เคียงเดิม”       

ภาพรวม: “ขยายตัวต่ำกว่าคาดเล็กน้อยและมีความแตกต่างระหว่างภูมิภาคมากขึ้น”

สหรัฐฯ: “ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง”

ยูโรโซนและญี่ปุ่น: “การฟื้นตัวยังคงอ่อนแอและมีความเสี่ยงที่อัตราการขยายตัวจะชะลอลงอีก”

จีนและเอเชีย: “มีแนวโน้มชะลอลงเล็กน้อย”

เศรษฐกิจไทย

ความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายในประเทศของครัวเรือน ธุรกิจ และภาครัฐ เริ่มฟื้นตัวและคาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไป แต่ข้อจำกัดด้านการผลิตและปัญหาราคาสินค้าเกษตรมีผลต่อการส่งออกสินค้า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ก่อนปรับเข้าสู่ภาวะปกติ

เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 มีแนวโน้มขยายตัวน้อยกว่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ดีคาดว่าการส่งออกจะกระเตื้องขึ้นในปีหน้าตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มสูงกว่าปีนี้ รวมทั้งเศรษฐกิจควรได้รับแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้การลงทุนภาคเอกชนทยอยตามมา

สถานการณ์เงินเฟ้อ

“อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ”

“อัตราเงินเฟ้อลดลงตามราคาพลังงานและราคาสินค้าเกษตร และแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่อยู่ในระดับต่ำ”

ความเสี่ยงที่ กนง. ติดตาม

-

สภาวะเศรษฐกิจโลก และความรวดเร็วของการดำเนินโครงการลงทุนภาครัฐ

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย

มติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.00%

(กรรมการ 2 ท่าน ลาประชุม)

มติ 6:1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.00%

(1 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%)

โดย :     ดร.อธิภัทร มุทิตาเจริญ ([email protected])
ธนกร ลิ้มวิทย์ธราดล ([email protected])
Economic Intelligence Center (EIC)
EIC Online: www.scbeic.com

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!