- Details
- Category: บทความการเงิน
- Created: Tuesday, 27 August 2019 18:47
- Hits: 3166
เศรษฐกิจโลกผันผวนหนัก ฉวยจังหวะลงทุนนอก จับโอกาสหุ้นอเมริกาให้ผลตอบแทนดี
จับตาเศรษฐกิจโลกยังผันผวนต่อเนื่อง เป็นโอกาสเลือกลงทุนต่างประเทศ ตลาดหุ้นอเมริกาน่าสนใจ กูรูแนะนำเลือกลงทุนหุ้นรายตัว อาทิ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ธุรกิจยา ค้าปลีก แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ ด้าน จีเคเอฟเอ็กซ์ ไพร์ม นำเสนอสินค้าประเภท CDFs ซื้อขายแบบมีสภาพคล่องในหุ้นอเมริกา และอินเด็กซ์ ฟิวเจอร์ส ในตลาดหุ้นทั่วโลก
มร.ทู้งช์ อาคยู้ทช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีเค กรุ๊ป (GK Group) กลุ่มบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการเงิน การลงทุนและการธนาคาร โดยมีบริษัทในเครือหลากหลาย ดำเนินธุรกิจอยู่ทั่วโลก เปิดเผยในงานเปิดโลกการลงทุนในหุ้นอเมริกากับ GKFX Prime ว่า ประเด็นเศรษฐกิจโลกที่ยังคงต้องจับตามองในขณะนี้ มีหลากหลายสถานการณ์ อาทิ สงครามการค้าของ สหรัฐ จีน ความไม่แน่นอนในอังกฤษ กรณี Brexit ความตกต่ำในเศรษฐกิจยุโรป และสัญญาณเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงทั่วโลก เช่นเดียวกับเศรษฐกิจเอเชีย แม้หลายประเทศจะพยายามยืนหยัดอยู่ด้วยตัวเอง เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าและภาษีกำแพงภาษีที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง จีนในฐานะเครื่องจักรเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ก็กำลังเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัว เป็นที่น่าจับตาที่ค่าเงินหยวนปรับตัวต่ำลงมาที่ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ครั้งแรกในปีนี้ มองกลับมาที่เศรษฐกิจประเทศไทย แน่นอนว่าย่อมได้ปรับผลกระทบเช่นเดียวกัน และเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับรัฐบาลใหม่
“ปีนี้เรากำลังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวที่ลดลงทั่วโลกและพฤติกรรมของตลาดที่จะกลับมามีความรุนแรงมากขึ้น โดยมองไปที่สินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe Haven) อย่าง พันธบัตรตราสารหนี้ JPY และ US อายุระดับ 10 ปี และทองคำที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ในขณะเดียวกัน ผลตอบแทนสูงในตลาดประเทศเกิดใหม่ เช่น ตุรกี ก็ได้รับผลประโยชน์จากสภาวะแวดล้อมแบบนี้เช่นกัน แต่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ กลับพบว่าตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2016 อัตราการเติบโตของ GDP ที่เพิ่มขึ้น ตัวเลขจ้างงานที่ดีขึ้น ตลาดทุนและเงินดอลล่าร์ของสหรัฐที่แข็งค่าขึ้น เศรษฐกิจของอเมริกาจึงเป็นที่น่าจับตามอง ขอให้นักลงทุนยึดถือไว้ว่า Trends is your friend คือมองว่าแนวโน้มและความผันผวนเหล่านี้เป็นเป็นเสมือนเพื่อน ที่มอบโอกาสที่ดีในการลงทุน”
นายธำรงชัย เอกอมรวงศ์ นักลงทุนผู้มีประสบการณ์การลงทุนมายาวนานกว่า 10 ปี ทั้งในตลาดหุ้นไทยและตลาดโลกประเมินว่า “ตลาดโภคภัณฑ์จะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น จากการที่อัตราดอกเบี้ยต่ำลง และจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-จีน และ Brexit รวมถึงการแต่งตั้งประธาน ECB คนใหม่ จึงทำให้ตลาดโน้มเอียงไปทางสินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง ทองและเงิน”
“ลักษณะของตลาดหุ้นอเมริกาจะมีความผันผวนเฉพาะกลุ่ม หรือที่เรียกว่า Selective ต่างจากตลาดหุ้นไทยที่เขียวทั้งกระดานหรือแดงทั้งกระดาน เนื่องจากเป็นตลาดที่เล็กจึงมีความผันผวนสูง ในตลาดหุ้นสหรัฐเอง แม้ว่าจะมีความผันผวนของตลาดมาเป็นตัวแปรสำคัญ แต่หากพิจารณาผลประกอบการรายบริษัท พบว่าผลกำไรของบริษัทบางแห่งที่เติบโตได้ต่อเนื่อง หากราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากภาพรวมของตลาด จึงสามารถพิจารณาลงทุนได้ เช่น หุ้นค้าปลีก หุ้นเทคโนโลยี เป็นต้น โดยหุ้นอเมริกากลุ่มเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ไม่ได้มีเพียงแค่กลุ่ม FAANG (Facebook Apple Amazon Netflix Google) เท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มที่ผลิตแผงวงจร อาทิ Microsoft Intel NVDIA ASUSTEK อีกด้วย”
“ปัจจุบันในต่างประเทศมีการลงทุนในลักษณะ CFDs ที่อาศัยการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญาซื้อขาย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นหรือมีงบประมาณลงทุนไม่มากนัก ซึ่งทำให้เข้าถึงโอกาสการลงทุนได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะ CFDs หุ้น CFDs น้ำมัน CFDs ทองคำ แต่ที่เป็นดาวรุ่งที่สุด คือ CFDs ตลาดโภคภัณฑ์ หรือกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มธัญพืชที่มีการเติบโตสูงกว่ากลุ่มอื่น”
“การลงทุน CFDs หุ้นสหรัฐ เป็นการเปิดมิติใหม่ให้กับนักลงทุนชาวไทย เพราะหลายธุรกิจมีความโดดเด่นมาก ด้วยลักษณะตลาดที่มีขนาดใหญ่กว่าตลาดหุ้นไทย และมีความแตกต่างทางบริบทสังคมวัฒนธรรม เช่น ธุรกิจประกันที่มีขนาดใหญ่มาก เพราะมีเม็ดเงินจากกองทุนบำเหน็จบำนาญจำนวนมหาศาล ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพอซันนัลแคร์ ตลอดจนธุรกิจยาที่ได้รับการคุ้มครองด้วยกฎหมาย ธุรกิจผลิตอากาศยาน ยุทโธปกรณ์และดาวเทียม ธุรกิจเหล้าและบุหรี่ ธุรกิจเนื้อสัตว์เทียม อย่าง Impossible Burger และ Beyond Meat ธุรกิจคอนซูเมอร์โปรดักต์ เช่น Unilever Mars Danone CocaCola Nestle Peopsico Mondelez P&G Johnson&Johnson Kraft Kellogg’s ”
นางสาวอนามิกา สินธนนพคุณ ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาค จีเคเอฟเอ็กซ์ ไพร์ม (GKFX Prime) บริษัทผู้นำด้านการลงทุนระดับโลก ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี กล่าวว่า GKFX เสนอ CFDs หุ้นชั้นนำที่หลากหลายมากกว่า 200 ตัวจากตลาดแลกเปลี่ยนที่หลากหลาย เช่น NYSE, FTSE, NASDAX Index CFDs กว่า 15 ตัว รวมทั้งอินเด็กซ์ ฟิวเจอร์ส ตลาดหุ้นทั่วโลก ในดัชนีของ USและ EU และตลาดเอเชีย
การเทรด CFDs จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนไทย จีเคเอฟเอ็กซ์ ไพร์ม ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษา เป็นปัจจัยพื้นฐานจากการศึกษาตลาดพบว่านักลงทุนไทยที่ไม่กล้าเข้าไปซื้อขาย เนื่องจากติดอุปสรรคด้านภาษาหรือขาดความรู้ หรือ ความเข้าใจในการใช้เครื่องมือการซื้อขาย จีเคเอฟเอ็กซ์ ไพร์ม จึงเตรียมจัดสัมมนา การสอนผ่านออนไลน์ และเตรียมที่จะเปิดศูนย์การเรียนรู้เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจการซื้อขายสินค้าประเภท CFDs ให้กับนักลงทุน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ จีเคเอฟเอ็กซ์ ไพร์ม Your Global Trading Partner สามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวงานสัมมนาได้ที่ https://www.gkfxprime.com/th
AO08517
Click Donate Support Web