- Details
- Category: วิเคราะห์-เศรษฐกิจ
- Published: Saturday, 04 July 2015 23:19
- Hits: 4839
ณรงค์ชัย มอง ศก.ไทยโตต่ำต่อเนื่องปีนี้ไม่ถึง 4% รับผลกระทบมาตรฐานสากล
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน กล่าวบรรยายเรื่อง "Investment Strategy in the New Normal and New Common"ภายในงาน MFC Finance Forum ครั้งที่ 19 (2/2558) ว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเริ่มขยายตัวช้าลง เป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เห็นได้จากมีการปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของโลกอย่างต่อเนื่อง และการค้าโลกเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งน่าจะอยู่ในลักษณะนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง จึงส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ทำให้คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะเติบโตไม่ถึง 4%
นอกจากนั้น ปัจจัยที่เกี่ยวข้องและส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ คือ การกำหนดมาตรฐานสากล (New Common) ในรายงานประเมินการค้ามนุษย์ของสหรัฐ(Tip Report)โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ซึ่งประเทศไทยถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะถูกปรับลดอันดับในเรื่องดังกล่าวเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม เพราะประชาชนในประเทศเพื่อนบ้านต่างก็ต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น ขณะที่ไทยเองก็มีความต้องการแรงงานค่อนข้างมากเช่นกัน
รวมถึงประเด็นการขัดต่อกฎระเบียบว่าด้วยการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม(IUU)ของสหภาพยุโรป ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตลอดจนอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์(CITES) อีกทั้งปัญหามาตรฐานด้านการบินขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(iCAO)
"การกำหนดมาตรฐานสากลดังกล่าวส่งผลให้ภาคการส่งออกของไทยปรับตัวลดลง และเกิดการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ประกอบกับราคาสินค้าขั้นปฐมที่ต่ำลงไปด้วย ขณเดียวกันจากปัจจัยดังกล่าวก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนในด้านสมดุลทางพลังงาน ทั้งราคาพลังงานที่ปรับลดลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันปรับลดลง และส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ติดลบ"นายณรงค์ชัย กล่าว
นายณรงค์ชัย กล่าวอีกว่า ขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในหลายๆด้าน เพื่อให้สอดคล้องไปกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ก็เป็นระยะเวลาเดียวกันกับที่ประเทศไทยก็อยู่ระหว่างการปรับปรุง แก้ไขปัญหาภายในประเทศเอง โดยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่เร่งดำเนินการอยู่นั้น ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การปฎิรูปการศึกษา ปฎิรูปพลังงาน การจัดระบบที่ดิน การบริหารจัดการน้ำ การลงทุนด้านโลจิสติกส์ และดิจิตอลเทคโนโลยี จึงทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไม่น่าจะไปได้อย่างรวดเร็วอย่างที่คาดการณ์ไว้
"เศรษฐกิจไทยน่าจะอยู่ในภาวะ Slow Growth ต่อไปและมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยต่ำกว่า 4% จากผลกระทบของ New Common ที่จะทำให้เกิดการปฎิบัติอย่างสากล ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อการส่งออกที่ติดลบ ราคาสินค้าขั้นปฐมต่ำลง ขณะเดียวกันภายในประเทศเองก็อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลง ทำให้การขยายตัวไม่น่าจะเป็นไปอย่างรวดเร็วได้ ซึ่งน่าจะใช้เวลาในการจัดระเบียบพอสมควร"นายณรงค์ชัย กล่าว
นายณรงค์ชัย กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาสต็อกข้าวว่า ล่าสุดรัฐบาลได้ส่งมอบข้าวเกรด C จำนวนมากกว่า 5 ล้านตัน เพื่อให้กระทรวงพลังงานเร่งระบายสต็อก โดยปัจจุบันมีแนวทางจะนำข้าวดังกล่าวไปผลิตเอทานอลแทนมันสำปะหลัง ซึ่งจะสามารถรองรับปริมาณข้าวได้ 1-1.3 ล้านตัน ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างหาแนวทางอื่นเพิ่มเติม เบื้องต้นอาจจะนำไปผลิตพลังงานทดแทนประเภทอื่น เช่น ไบโอชาร์หรือถ่านชีวภาพ เป็นต้น
อินโฟเควสท์
รมว.พลังงาน มองศก.ไทยปีนี้ขยายตัวไม่ถึง 4% เหตุส่งออกชะลอตัว แถมได้รับผลกระทบจาก ICAO และปัญหาค้าแรงงานประมงผิดกฏหมาย
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงาน MFC Finance Forum ครั้งที่ 19 (2/2558) ในหัวข้อ "Investment Strategy in the New Normal and New Common มองว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเริ่มขยายตัวช้าลง โดยคาดว่าในปีนี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย(GDP) จะเติบโตไม่ถึง 4% โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีการเปลี่ยนไป จะเห็นได้จากการปรับลด GDP โลกอย่างต่อเนื่อง และอัตราการขยายตัวทางการค้าโลกที่เริ่มชะลอตัวลง ซึ่งน่าจะอยู่ในลักษณะนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง ส่งผลให้การส่งออกของไทยที่จะถูกกระทบไปด้วย จึงต้องหันมาพึ่งพิงการส่งออกในแถบประเทศเพื่อนบ้านแทน
นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการกำหนดมาตรฐานสากล (New Common) ทั้งในเรื่องของ TIP การค้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ซึ่งประเทศไทยถือว่ามีความเสี่ยงสูง เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม โดยประเทศดังกล่าวก็มีความประสงค์ที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น และไทยเองก็มีความต้องการในเรื่องของแรงงานเช่นกัน รวมถึง เรื่องมาตรการป้องกันและขจัดการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลก็อยู่ระหว่างการแก้ไข รวมถึง CITES อนุสัญญาว่าด้วยการค้าต่างประเทศ อีกทั้ง ICAO กฎและระเบียบการบินพลเรือน
การที่รัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน เพื่อให้สอดคล้องไปกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยได้อยู่ระหว่างการปรับปรุง ปฎิรูปและแก้ไขภายในประเทศ ซึ่งมีหลายอย่างที่เร่งดำเนินการอยู่นั้น ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การปฎิรูปการศึกษา ปฎิรูปพลังงาน การจัดระบบที่ดิน การบริหารจัดการน้ำ การลงทุนด้านโลจิสติกส์ และดิจิตอลเทคโนโลยี จึงทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไม่น่าจะไปได้อย่างรวดเร็วอย่างที่คาดการณ์ไว้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
เศรษฐกิจซบเซาดันยอดรูดบัตรพุ่ง! ชี้ ครู-ขรก.หนี้สูง เบนเข็มหา กลุ่มบริษัทชั้นนำ
มติชนออนไลน์ : วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 07:04:53 น.
เคทีซี′ปรับแผนเบนเข็มจับกลุ่มมนุษย์เงินเดือนลดความเสี่ยงจากหนี้ครัวเรือนพุ่งส่งผลกลุ่มข้าราชการกลุ่มครูออกบัตรเครดิตยากขึ้นเน้นลูกค้ารายได้ปานกลางถึงระดับสูงลูกค้ารายได้น้อยพักไว้ก่อนเผยยอดรูดบัตรพุ่งผลจากเศรษฐกิจซบมั่นใจจัดการดีเอ็นพีแอลไม่พุ่ง ลุ้นครึ่งปีหลังเศรษฐกิจกระเตื้องช่วยกระตุ้น จับจ่ายคล่อง
นางณัฐชนัญ เก่งลือชา รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร-ช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี กล่าว ว่า บริษัทตั้งเป้าขยายฐานสมาชิกบัตรเครดิตปีนี้ที่ 4 แสนราย และสินเชื่อบุคคล 1.5 แสนราย ขณะที่ยอดการขยายฐานสมาชิกใหม่ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตสูงขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากยอดอนุมัติสมาชิกรายใหม่ในทุกผลิตภัณฑ์จำนวน 1.7 แสนราย แบ่งเป็นบัตรเครดิต 1.2 แสนราย และสินเชื่อบุคคลอีก 5 หมื่นราย ทำให้ช่วงครึ่งปีหลังนี้เคทีซี เตรียมขยายฐานสมาชิกเพิ่มเติมอีกประมาณ 3.8 แสนราย แบ่งเป็นบัตรเดรดิต 2.8 แสนราย และสินเชื่อบุคคล 1 แสนราย ผ่านการขยายฐาน แบบกรุ๊ปเซลล์ในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ทำงานอยู่ในบริษัทชั้นนำของแต่ละธุรกิจ รวมถึงสรรหาพันธมิตรธุรกิจใหม่ๆ เพื่อร่วมมือขยายธุรกิจและฐานสมาชิกใหม่ของกันและกัน
จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น11%สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลของบริษัทขณะนี้อยู่ที่ 2.4% แบ่งเป็นบัตรเครดิต 1.6% สินเชื่อบุคคล 1.1% ซึ่งต่ำกว่าทั้งระบบ ส่วนยอดการใช้บัตรเครดิตเฉลี่ยอยู่ที่ 8,200 บาทต่อคนต่อเดือน ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีปีนี้เติบโต 15% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าถึงแม้หนี้ภาคครัว เรือนยังอยู่ในระดับที่สูง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบ ต่อบริษัทมากนัก เพราะบริษัทปรับ "กลุ่มเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อหันมาเน้นกลุ่ม ผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงระดับสูงมากกว่าผู้ที่มี รายได้น้อย และเชื่อว่าการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากโครงการลงทุนภาครัฐที่จะเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงครึ่งปีหลังนี้"นางณัฐชนัญกล่าว
นางณัฐชนัญกล่าวยอมรับว่าการขยายฐานสมาชิกใหม่ในขณะนี้มีความท้าทายสูงจากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น ต่อเนื่อง ทำให้ภาระหนี้บางรายของลูกค้าสูงขึ้นจนไม่สามารถอนุมัติได้ เช่น กลุ่มข้าราชการ ครู ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ เน้นลูกค้าที่ทำงานในบริษัทชั้นนำแทน เช่น กลุ่มสื่อสาร การเงิน ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ปรับหลักเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น แต่จะพิจารณาจากหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก อย่างไรก็ตามกลยุทธ์เคทีซีจะขยายผู้แนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพิ่มเป็น 6 พันคน โดยจะเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ โดยจัดสรรงบประมาณในการจัดอบรมสัมมนา เสริมทักษะและความรู้ต่างๆ รวมถึงเทคนิคการแนะนำกลุ่มเป้าหมายหลักเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน
รมว.พลังงาน ระบุราคาขายปลีกแอลพีจีเดือน ก.ค.ลงตามตลาดโลกหรือไม่ต้องรอมติ กบง.
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ราคาแอลพีจีขายปลีกเดือนกรกฎาคม จะลดลงจากราคาปัจจุบัน 24.16บาท/กก. หรือไม่ หลังราคาตลาดโลกลดลงเล็กน้อยหรือไม่นั้น คงจะต้องรอมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 6กรกฎาคมนี้ ซึ่งนอกจากจะดูเรื่องราคาตลาดโลกแล้วต้องดูอัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทอ่อนค่าลงด้วย ทำให้ ราคาเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ขณะที่การประกาศโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากราชการและสหกรณ์จะมีการประกาศหลักเกณฑ์เร็ว ๆ นี้ มุ่งหวังกระจายกำลังผลิตให้มากที่สุด โดยต้องมีสายส่งรับไฟฟ้าอยู่แล้ว และข้อกำหนดหลัก คือ มีกำลังผลิตต่อรายไม่เกิน 5เมกะวัตต์