WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บัณฑิต มอง GDP ไทยปี 58 โตได้ 4% ลุ้นราคาน้ำมันในปท.ลงอีกหนุนอำนาจซื้อ

         นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ในฐานะอดีตรองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดว่า แนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้น่าจะเติบโตได้ 4% เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่หน่วยงานภาครัฐประมาณการ ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้มาจากการลงทุนของภาครัฐ ในเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลดลงที่จะช่วยเพิ่มอำนาจซื้อของประชาชนในประเทศให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในประเทศน่าจะปรับลดลงอีกเพื่อให้ใกล้เคียงกับต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยในเรื่องอำนาจซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้น

       ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองในปีนี้ คือ ปัจจัยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวได้ไม่มากนัก ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ขึ้นกับประเทศไทยจะสามารถหาประโยชน์จากปัจจัยบวกดังกล่าวได้หรือไม่ รวมถึงการลงทุนภาครัฐที่จะเดินหน้าในระยะต่อไปที่จะเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

      สำหรับ การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ม.ค.58 จะมีส่วนสำคัญที่ตลาดจะต้องจับตามอง เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบผ่านมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มไม่ขยายตัวและอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย รวมถึงมีความเสี่ยงเผชิญกับภาวะเงินฝืดด้วย

     ทั้งนี้ การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบนั้นจะส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดการเงินมีมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เงินทุนไหลเข้ามายังภูมิภาคเอเชียที่ยังให้ผลตอบแทนดี ขณะเดียวกันจะต้องติดตามการไหลออกของเงินทุนกลับไปยังสหรัฐด้วย เนื่องจากสหรัฐมีแนวโน้มที่จะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

      "การประชุม ECB น่าจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ว่ายุโรปน่าจะดำเนินมาตรการ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัว ซึ่งเศรษฐกิจยุโรปมีประเด็นความเสี่ยงอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน คือ เศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ไม่ขยายตัว และความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเงินฝืด อย่างไรก็ตามการอัดฉีดสภาพคร่องจะเป็นมาตรการชั่วคราวหรือนโยบายต่อเนื่องต้องติดตามดูอีกที"นายบัณฑิต กล่าว

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!