- Details
- Category: วิเคราะห์-เศรษฐกิจ
- Published: Saturday, 12 March 2022 19:16
- Hits: 5380
YLG เผยทองพักตัวหลังพุ่งแรงเฉียด ATH ชี้เป็นโอกาสสะสมซื้อ
เหตุปีนี้ทองยังน่าสนใจเนื่องจากเงินเฟ้อสูง-ศก.โลกจ่อชะลอตัว
วายแอลจีชี้หลังราคาทองทำเทสใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2,070 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากความไม่สงบรัสเซีย-ยูเครน แต่ได้ปรับตัวลดลงหลังจากแรงขายทำกำไร ขณะที่ตลาดกลับมาโฟกัสการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด คาดเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อเดือนก.พ.พุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 40 ปีครั้งใหม่ แต่คาดราคาทองคำปีนี้ยังมีแนวโน้มสดใส เหตุสถานการณ์เงินเฟ้อยังรุนแรง หวั่นราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นฉุดเศรษฐกิจ แนะนำนักลงทุนใช้โอกาสที่ราคาปรับตัวลง กลับเข้าซื้ออีกครั้งหลังจากขายทำกำไรไปในช่วงก่อนหน้า มองแนวรับ 1,953-1,900 ด้านทองในประเทศมองจุดซื้อ 30,700-30,000 ล่าสุดวายแอลจีร่วมมือ CME Group ตลาดอนุพันธ์อันดับหนึ่งที่มีภาพคล่องสูงที่สุดในโลก เปิดให้บริการในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศที่เหตุเทรดได้ 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดไทย ทั้ง COMEX Gold, NYMEX Oil, S&P500, Dow Jones Nasdaq รวมไปถึง Crypto เพิ่มช่องทางนักลงทุนไทยมุ่งสู่ตลาดโลกโดยไม่ผ่านกองทุน บริหารจัดการพอร์ตด้วยตัวเอง
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (TFEX) เปิดเผยว่า ในปีนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนล่าสุด ทองโลกสามารถขึ้นไปใกล้กับสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2,070 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยขายออกที่ราคา 32,100 บาทต่อบาททองคำ และซื้อเข้าที่ราคา 32,000 บาทต่อบาททองคำ ก่อนที่จะย่อตัวลงมา แต่มองว่าปีนี้ราคาทองคำก็จะทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยปัจจัยสนันสนุนหลักๆ อาทิ สถานการณ์ในรัสเซียและยูเครน ที่สร้างความกังวลว่าจะยืดเยื้อและกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ที่จะกระทบราคาสินค้าประเภทอื่นๆ และส่งผลต่อเงินเฟ้อให้ปรับตัวขึ้นมากกว่าเดิม ดังนั้น แรงขายทำกำไรสลับออกมาจนราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลง มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่เทขายออกคำออกไปแล้วได้กลับเข้ามาสะสมซื้อทองคำอีกครั้ง
สำหรับคำแนะนำนักลงทุนในช่วงนี้ผู้ที่มีทองคำในพอร์ตเป็นจำนวนมากแนะนำให้แบ่งขายทำกำไรบางส่วนและถือต่อบางส่วน รวมถึงผู้ที่ลงทุนในตลาดล่วงหน้าหากถือสถานะเป็นจำนวนมาก แนะนำให้ลดสถานะการถือครองทองคำบางส่วน ด้วยการขายทำกำไรระยะสั้นเมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 2,020-2,050 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่หากผ่านแนวต้าน 2,050 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ แนะนำถือสถานะที่เหลือต่อเพื่อรอไปขายที่แนวต้านถัดไปโซน 2,070-2,075 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์แล้วรอการอ่อนตัวลงของราคาจึงกลับเข้าซื้อบริเวณแนวรับด้านล่าง
ส่วนผู้ที่ไม่มีทองคำอยู่ในพอร์ตนั้นแนะนำรอการอ่อนตัวลงเพื่อเป็นโอกาสทยอยซื้อ โดยต้องระมัดระวังการไล่ซื้อ ซึ่งประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำยังคงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเช่นเดิม แต่แนะนำให้แบ่งเงินลงทุนเข้าซื้อ โดยไม่เข้าซื้อที่แนวรับใดแนวรับหนึ่งเต็ม 100% ของพอร์ต แนะนำเข้าซื้อแนวรับแรก หากราคาทองคำหากสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,970-1,953 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ แต่หากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,953 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ควรชะลอการเข้าซื้อออกไปยังแนวรับถัดไปที่ 1,900-1,890 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่การหลุด 1,890 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จะทำให้ทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นเป็นลบมากยิ่งขึ้น จึงอาจชะลอการเข้าซื้ออกไปเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคาอีกครั้ง
อย่างไรก็ดีในช่วงนี้ไม่เพียงแต่ราคาทองคำเท่านั้นที่ปรับตัวขึ้นในระดับสูง แต่สินค้าโภคภัณฑ์อีกหลายชนิดก็ได้ปรับตัวขึ้นไปเช่นกัน การลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศจึงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยปัจจัยหนุนที่ส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนมองหาทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ นอกจากนี้การลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศยังเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่หลากหลายเพราะครอบคลุมทั้งการลงทุนใน ทองคำ น้ำมันดิบ สินค้าโภคภัณฑ์ชนิดต่างๆ ดัชนีหุ้นสหรัฐทั้ง S&P500, Dow Jones Nasdaq รวมถึง cryptocurrency สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้งสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดของประเทศไทย ทั้งนี้ YLG ได้ร่วมมือกับ CME Group เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่เทรดผ่าน YLG futures สามารถเข้าถึงทุกสินค้าของ CME Group ทุกบริการ เช่น Precious Metal futures, Oil futures, Cryptocurrency futures, Forex futures ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งกองทุนสถาบันในการเข้าไปซื้อขายสินค้า พร้อมเชื่อมต่อ Exchange ทั่วทั้งโลกไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ ทำให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรสามารถจัดการกับความเสี่ยงและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งพบว่านักลงทุนให้การตอบรับดีเกินคาด เพราะสามารถบริหารพอร์ตเองโดยไม่ต้องผ่านการบริหารของกองทุนรวม
A3449