- Details
- Category: วิเคราะห์-เศรษฐกิจ
- Published: Monday, 29 June 2020 16:10
- Hits: 5622
YLG เผยทองยังพุ่งแม้บาทแข็งกดราคาในประเทศบวกช้ากว่าตลาดโลก
ชี้ปัจจัยบวกยังแน่นมีลุ้นพุ่งแตะ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐ
แนะลงทุนซื้อผ่านโกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์สหนีความเสี่ยงค่าเงิน
วายแอลจี เผยสัญญาณทองคำยังบวก มีลุ้นแตะ 1,920 ดออลาร์ต่อออนซ์ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับฐานไม่หลุดแนวรับสำคัญ แต่ราคาในประเทศมีแนวโน้มปรับขึ้นช้ากว่าราคาตลาดโลก เหตุค่าเงินบาทมีสัญญาณแข็งค่าต่อเนื่อง แนะนักลงทุนหนีความเสี่ยงค่าเงินด้วยการลงทุนผ่าน TFEX โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส เทรดสัญญาล่วงหน้าด้วยดอลลาร์สหรัฐแบบเรียลไทม์ เป็นทางเลือกในการลงทุน พร้อมมองปัจจัยหนุนทองคำยังปีนี้ยังแน่นด้วย 5 ปัจจัย ทั้งความเสี่ยง COVID-19 ระบาดรอบ 2 - การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของเฟด - สงครามการค้าจีน สหรัฐ - ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์หลายประเทศ - กองทุนทองคำและธนาคารกลางต่างๆเข้าถือครองทองคำเพิ่ม
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า ในปีนี้ตลาดทองคำถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าระหว่างทางจะมีการแกว่งตัวจากการเทขายทำกำไร แต่ล่าสุดสัญญาณยังเป็นบวก โดยมองว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นราคาทองคำในตลาดโลกปรับขึ้นไปที่ระดับ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมในปี 2554 ส่วนระยะใกล้น่าจะขึ้นไปแตะ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปรับฐานแต่ปรับลดลงไปไม่มากซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำจะย่อลงไปไม่มาก มองแนวรับที่ 1,750-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ตามจากต้นปีที่ผ่านมาราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นไปแล้ว 16.65% ราคาในประเทศปรับขึ้นไป 19.17% (ข้อมูลวันที่ 27 มิ.ย.) สาเหตุที่ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นมากกว่าตลาดโลกเนื่องจากที่ผ่านมาได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตามล่าสุดค่าเงินบาทได้ปรับตัวแข็งค่า และยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้หลังจากนี้ราคาทองคำในประเทศจะปรับขึ้นน้อยกว่ารราคาทองคำในตลาดโลก
ดังนั้นนักลงทุนสามารถปิดความเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่จะส่งผลต่อเราคาทองคำในประเทศด้วยการลงทุนผ่าน TFEX โดยเฉพาะโกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส (Gold Online Futures) ที่เป็นการซื้อขายด้วยดอลลาร์สหรัฐแบบเรียลไทม์ทำให้นักลงทุนไม่ต้องมีความกังวลด้านความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงิน อีกทั้งการลงทุนผ่าน TFEX ยังใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการลงทุนในทองคำแท่ง อย่างไรก็ดีในส่วนของนักลงทุนที่มีความคุ้นเคยในการลงทุนในรูปของเงินบาทนั้นก็สามารถลงทุนผ่านโกลด์ฟิวเจอร์ส (Gold Futures) ได้เช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้แม้จะเป็นการซื้อขายด้วยเงินบาทแต่สามารถเป็นทางเลือกในการทำการป้องกันความเสี่ยงสำหรับการลงทุนในทองคำและกลุ่มร้านทอง
ส่วนปัจจัยบวกของทองคำในปีนี้นั้นยังถือว่ามีอยู่มาก โดยหลักๆ มาจาก 5 ปัจจัย ได้แก่ 1. ความเสี่ยงจากการระบาดรอบ 2 ของ COVID-19 ที่จะกดดันเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่อง 2. การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ(เฟด) ทั้งนโยบายการทำ QE แบบไม่จำกัดวงเงิน และการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายดอกเบี้ยระดับต่ำที่ 0-0.25% ไปจนถึงปี 2565 3. สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน 4. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งชายแดนจีน-อินเดีย สหรัฐ-อิหร่าน คาบสมุทรเกาหลี รวมถึงประเด็นการเลือกตั้งสหรัฐ และ 5. กองทุนทองคำขนาดใหญ่ SPDR - ธนาคารกลางต่างๆ ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น
สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Online Futures และ Gold Futures) เพื่อเป็นอีกทางเลือกการลงทุน สามารถดูรายละเอียดได้ทาง www.ylgfutures.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9999
AO6604
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web