WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

แนะซื้อประกันเสี่ยงบาทอ่อน หั่นส่งออก'ติดลบ 0.25%'จี้รัฐใช้งบ-ฟื้นท่องเที่ยว

     ไทยโพสต์ * กสิกรไทยมองเงินบาทจ่อแข็งค่าระยะสั้น แต่ปลายปีอาจอ่อนแตะ 33 บาทต่อดอลลาร์ แนะผู้นำเข้า-ส่งออกซื้อประกันความเสี่ยง รับความผันผวน 8 เดือนต่างชาติขนเงินเข้าซื้อตราสารหนี้ 260,000 ล้านบาท เอกชนหั่นส่งออกติดลบ 0.25% หลังเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้น กระทุ้งรัฐเร่งเบิกจ่ายงบ กระตุ้นท่องเที่ยว-บริโภคในประเทศ

     นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนา คารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กสิกรไทยมองค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง โดยมีเป้าหมายสิ้นปีอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น คาดปีหน้าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้กระแสเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่และดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นค่าเงินบาทอาจมีความผันผวนปรับตัวแข็งค่าขึ้นได้บ้าง เนื่องจากยังมีเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้จากนักลงทุนต่างชาติ โดยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรของไทยกว่า 140,000 ล้านบาท นอกจากนี้คาดว่าอาจมีการออกมาตรการผ่อนคลายนโยบาย (คิวอี) รอบใหม่ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จากการประชุมวันที่ 2 ต.ค.นี้ หากมีการอัดฉีดสภาพคล่องใหม่จริงจะทำให้มีเงินไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ และอาจทำให้เงินบาทและสกุลเพื่อนบ้านแข็งค่าขึ้นได้ชั่วคราว

     "แนะนำผู้ประกอบการที่ เป็นผู้นำเข้า ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ให้เริ่มเข้าป้องกันความเสี่ยงด้วยธุรกรรม Forward หรือ ธุรกรรม Option โดยทยอยซื้อดอล ลาร์ และรอจังหวะซื้อดอลลาร์เพิ่มหากอีซีบีมีการเพิ่มมาตรการคิวอี ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ที่จะส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งเงินบาทแข็งค่าขึ้นชั่วคราว" นายธิติกล่าว

    ทั้งนี้ ค่าเงินบาทต้นปีอยู่ที่ 33.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุ บัน 32.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

    ด้านตลาดตราสารหนี้ของ ไทย นับจากต้นปีจนถึงปลายเดือน ส.ค. นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อตรา สารหนี้ไทยกว่า 260,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจังหวะที่อัตราดอก เบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ ภาคเอกชนออกหุ้นกู้แล้ว 420,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะมีไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท

     นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สภาผู้ส่งออกฯ ได้ปรับลดเป้าหมายการส่งออกของไทยปีนี้ลงจากเดิม 1.6% เป็นติดลบ 0.25% ถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวและยังมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดส่งออกหลักของไทย ติดลบหมดทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ อเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป จีนและอาเซียนเดิม รวมทั้งสินค้าส่งออกหลักของไทยลดลงทั้งยางพารา สิ่งทอ ยานยนต์และอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป เป็นต้น

     อย่างไรก็ตาม หากจะพยุงไม่ให้ยอดส่งออกติดลบมากไปกว่านี้ ภาครัฐจะต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณออกมาภายในเดือน ธ.ค.นี้ ตัวเลขการท่องเที่ยวจะกลับมาขยายตัวอีกหรือไม่ รวมทั้งการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งหากดันทั้ง 3 ตัวนี้ได้ก็จะพยุงให้จีดีพีปีนี้อยู่ที่ 1.5% โดยไตรมาส 4 ปีนี้ รัฐบาลจะต้องเร่งรัดใช้งบช่วง 3 เดือนแรกของปีหน้าให้ได้ 30% หรือ 750,000 ล้านบาท และกระตุ้นการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!