- Details
- Category: วิเคราะห์-เศรษฐกิจ
- Published: Friday, 26 September 2014 23:03
- Hits: 3214
นักวิชาการแนะรัฐ-เอกชนลงทุนเตรียมความพร้อมพัฒนาด้านท่องเที่ยวสร้างมูลค่าเพิ่มหนุนศก.ไทย
นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ปตท. (PTT) แนะภาครัฐและเอกชนควรร่วมมือกันเตรียมความพร้อมในการลงทุนเพื่อรองรับการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวระลอกใหม่ โดยเฉพาะการพัฒนาเส้นทางคมนาคม และสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมทั้งเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคการท่องเที่ยวอีกด้วย เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือการจัดประชุมสัมนาที่มีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูง เพื่อผลักดันให้ภาคการท่องเที่ยวสามารถช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะยาวได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องยนต์สำรองที่ช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทยให้ก้าวข้ามผ่านมรสุมได้ เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวไทยได้เติบโตเป็นอย่างมาก จากเดิมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยเดือนละไม่ถึง 1 ล้านคน เป็นเดือนละกว่า 2 ล้านคนในปัจจุบัน แม้แต่ในปัจจุบันที่เศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน จนทำให้การส่งออกสินค้าไทยหดตัวร้อยละ -1.4 ต่อปีในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2557 แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนเมื่อปีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 26.5 ล้านคนในปี 2556 สร้างรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านล้านบาท
แต่สถานการณ์การท่องเที่ยวไทยพลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือนับตั้งแต่ต้นปี 2557 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับหดตัวอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ลากยาวมาตั้งแต่ปลายปี 2556 โดยมีการชะลอตัวลงต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ และการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน
แม้สถานการณ์จะดีขึ้นภายหลังการยกเลิก พ.ร.ก. ทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาใกล้เคียงปกติ แต่เป็นเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะกลับไปหดตัวอีกครั้งหลังเทศกาลสงกรานต์ จนกระทั่งการประกาศกฏอัยการศึกและการรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม แม้การทำรัฐประหารจะทาให้สถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนขึ้นและส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะความชัดเจนภาครัฐที่สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคและนักลงทุน แต่ต้องยอมรับว่าภาคการท่องเที่ยวกลับเป็นภาคเดียวที่ได้รับผลกระทบทางลบและรุนแรงกว่าใคร เนื่องจากต่างชาติไม่เข้าใจและไม่เชื่อมั่นในสถานการณ์ทางการเมืองไทย นับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ภาคการท่องเที่ยวของไทยต้องมาสะดุดในช่วงที่แนวโน้มการท่องเที่ยวของโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ขยายตัวสูงในประเทศอื่นๆ แต่กลับหดตัวในประเทศไทย เปรียบเสมือนมีโอกาสผ่านมาแต่ไทยไม่สามารถคว้าไว้ได้ ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2557 อยู่ 15.7 ล้านคน หดตัวร้อยละ -10.7 ต่อปี
แต่ในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเอเชียแม้จะอ่อนไหวสูงแต่ก็เป็นกลุ่มที่สามารถกลับมาพลิกฟื้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน กล่าวได้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีศักยภาพอย่างสาคัญในการช่วยดึงให้ภาคการท่องเที่ยวไทยที่ล้มลงกลับมาลุกได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งภาคการท่องเที่ยวไทยจะลุกได้ไวแค่ไหนนั้นคงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนในการเร่งสร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งเร่งฟื้นฟูบรรยากาศภาคท่องเที่ยวโดยเฉพาะด้านความปลอดภัย ซึ่งหลายฝ่ายคงจะต้องกำลังเร่งดำเนินการกันอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ดี ควรใช้วิกฤตครั้งนี้ให้เป็นโอกาสโดยทุกฝ่ายควรตระหนักถึงการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวในระยะยาวด้วย โดยภาคการท่องเที่ยวไทยนั้นมีจุดแข็งรอบด้านอยู่แล้ว โดยรายงานสำรวจภาคท่องเที่ยวของ World Economic Forum ปีล่าสุดเปิดเผยว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังมีจุดเด่นในด้านการคมนาคมทางอากาศ โรงแรมและที่พัก ราคาคุ้มค่า และความมีอัธยาศัยดี ปัจจัยการเมืองนั้นหากเปรียบเทียบก็เป็นเสมือนมรสุมระยะสั้นๆ ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจังและหากสถานการณ์ทางการเมืองของไทยคลี่คลาย ก็ยังมีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลกลับเข้ามาเยือนไทยอีกครั้งด้วยศักยภาพแข็งแกร่งของตนเองที่มีอยู่
อินโฟเควสท์