- Details
- Category: วิเคราะห์-เศรษฐกิจ
- Published: Tuesday, 23 September 2014 21:57
- Hits: 3073
ศุภชัย ชี้ ศก.ไทยปีนี้หวังพึ่งการส่งออกได้ยาก พร้อมแนะเกษตรกรปลูกพืชชนิดอื่นแทนข้าวนาปรัง
นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ New Challenges for Thailand in the New Era of Global Trade and Investment เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะไม่สามารถเพิ่งพิงการส่งออกได้ และอัตราการขยายตัวของการส่งออกในระดับร้อยละ 15 อย่างหลายๆ ปีที่ผ่านมาคงเป็นไปไม่ได้อีก แต่อัตราการขยายตัวการส่งออกที่ระดับร้อยละ 5-10 เป็นอัตราการขยายตัวของการส่งออกที่น่าจะเป็นไปได้ การบริโภคจึงเป็นตัวช่วยเศรษฐกิจไทย แต่การใช้จ่ายประชาชนขยายตัวเล็กน้อย ไม่เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับร้อยละ 2 เป็นอัตราที่รับได้ ส่วนความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม การลงทุน จะเดินหน้าได้ นอกจากความสงบการเมืองแล้วจะขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลได้ดำเนินการตามนโยบายหรือไม่ ดังจะเห็นดัชนีภาคอุตสาหกรรมในปีที่ผ่านมาไม่เพิ่ม
ส่วนปีนี้ เชื่อว่าภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอัตราการเติบโตจะติดลบร้อยละ 20 และในอนาคตเชื่อว่า อินโดนีเซียจะเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์มากกว่าประเทศไทย เพราะมีประชากรมากกว่า ดังนั้นการลงทุนขยายเพิ่มในอตุสาหกรรมยานยนต์ไทยจึงไม่เห็นชัดเจน ส่วนอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าการลงทุนก็ไม่ขยายตัว และไม่แน่ใจว่ารูปแบบสินค้าที่ประเทศไทยผลิตเป็นไปตามแบบแผนของโลกหรือไม่ ขณะที่ประเทศเวียดนาม เกาหลีเข้าไปลงทุนภาคอุตสาหกรรมยุคใหม่แล้วนายศุภชัย ระบุว่า ประเทศไทยใช้น้ำมากโดยไม่มีต้นทุน ขณะที่ได้ข้าวคุณภาพต่ำ และมากกว่าปกติ ดังนั้นเห็นว่าถึงเวลาแล้วประเทศไทยควรจะลดการปลูกข้าวนาปรังลง และหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทนที่ราคาดีขึ้น และเห็นว่ามันสำปะหลังที่ใช้ผลิตเอทานอล ในอนาคตข้างหน้าจะต้องนำนโยบายด้านพลังงานมาพิจารณาเพิ่มด้วย เพราะขณะนี้โลกหันมาให้ความสำคัญลดภาวะโลกร้อน ด้วยนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวซึ่งเป็นนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืน เน้นประหยัดพลังงาน ซึ่งประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย
นายศุภชัย เชื่อว่าปีหน้าเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) และเออีซีผนวกเข้ากับอีก 6 ประเทศ จะทำให้มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่และเป็นตัวช่วยพยุงเศรษฐกิจโลก และก้าวไปสู่การเข้าไปควบคุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ ทั้งนี้ เอเชียควรตั้งกองทุนการเงินของตัวเอง (AMF) เพื่อดูแลและช่วยเหลือเศรษฐกิจประเทศในเอเชียด้วยกัน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย