การกู้เงินของรัฐที่ยังมีต่อเนื่อง จากแผนลงทุนระบบน้ำและโครงสร้างพื้นฐาน หนุนเศรษฐกิจปี’56 ส่วนผลต่อเสถียรภาพและสภาพคล่อง น่าจะบริหารจัดการได้
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Friday, 12 February 2016 14:13
- Hits: 1398
การกู้เงินของรัฐที่ยังมีต่อเนื่อง จากแผนลงทุนระบบน้ำและโครงสร้างพื้นฐาน หนุนเศรษฐกิจปี’56 ส่วนผลต่อเสถียรภาพและสภาพคล่อง น่าจะบริหารจัดการได้
ท่ามกลางความเปราะบางของเศรษฐกิจหลักในโลกที่ยังคงมีอยู่ในระดับสูง ทำให้การส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะที่เน้นเพื่อส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มตกอยู่ภายใต้แรงกดดันและอาจมีน้ำหนักที่ลดลงในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน การขยายตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศ อันประกอบด้วย การใช้จ่ายงบประมาณและการลงทุนในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล และการบริโภค-ลงทุนของภาคเอกชน ถูกฝากความหวังว่าจะมีบทบาทในการเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับการรักษาแรงส่งการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงปีข้างหน้า
หากตรวจสอบมาตรวัดทางการคลัง เพื่อพิจารณาถึงความเข้มแข็งของประเด็นด้านเสถียรภาพ อันจะมีส่วนสนับสนุนการใช้จ่ายของรัฐบาลในระยะถัดไปนั้น จากความคืบหน้าล่าสุด คงต้องยอมรับว่า สถานะทางการคลังของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพและไม่น่ากังวล ขณะที่ มองไปในระยะข้างหน้า การที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการเดินหน้าโครงการบริหารจัดการระบบน้ำอย่างยั่งยืน พร้อมกับมีแผนจะลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระยะยาวเพื่อสร้างอนาคตประเทศ อาจทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เงินอย่างต่อเนื่องและมีผลในการเพิ่มสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี
อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติ ยอดการกู้เงินของรัฐบาลและสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะขึ้นอยู่กับหลากหลายตัวแปรและยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม ขณะที่ หากการกู้เงินเพื่อใช้จ่าย-ลงทุนของรัฐบาลดังกล่าว เป็นไปด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และก่อให้เกิดประสิทธิผลอย่างเต็มที่ต่อทุกภาคส่วน รวมถึงมีแนวโน้มที่จะทยอยลดระดับลงตามที่มุ่งหวังไว้ในระยะต่อๆ ไปแล้ว ก็น่าที่จะสามารถบริหารจัดการได้โดยไม่สร้างความเสี่ยงด้านเสถียรภาพต่อเศรษฐกิจโดยรวม