การประชุม 19-20 มิ.ย. 2555 … คาดเฟดคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Tuesday, 09 February 2016 16:51
- Hits: 807
การประชุม 19-20 มิ.ย. 2555 … คาดเฟดคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
ในวันที่ 19-20 มิถุนายน 2555 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะมีการประชุมรอบที่สี่ของปี 2555 เพื่อตัดสินใจนโยบายการเงิน ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า เฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ไว้ที่ระดับต่ำอย่างต่อเนื่องจนถึงปลายปี 2557 เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม จากพัฒนาการทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีสัญญาณการอ่อนแรงของการฟื้นตัว ก็อาจมีโอกาสที่เฟดจะส่งสัญญาณถึงการทบทวนการใช้เครื่องมือทางการเงิน หรืออาจจะมีการดำเนินนโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติม หากความเสี่ยงที่จะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขาดความต่อเนื่องปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่ผลการเลือกตั้งกรีซล่าสุดดูเหมือนว่าอาจจะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลลงบางส่วนก็ตาม
เฟดคงรักษาจุดยืนนโยบายที่ผ่อนคลายต่อเนื่อง และอาจส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นถึงการใช้เครื่องมือทางการเงิน (Monetary Instruments) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ไว้ที่ 0-0.25% โดยมีโอกาสที่เฟดอาจระบุว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจจะยังคงเอื้อต่อการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำด้วยจังหวะเวลาที่ยาวนานขึ้นกว่าปลายปี 2557 ขณะเดียวกัน คาดว่าเฟดน่าจะยังคงขนาดงบดุลต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเฟดอาจพิจารณาต่ออายุโครงการซื้อตราสารเพื่อกดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (The Maturity Extension Program: MEP หรือ 'Operation Twist') ที่กำลังจะหมดอายุลงในเดือน มิ.ย. 2555 อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้เช่นกันที่เฟดอาจปรับเปลี่ยนการใช้เครื่องมือทางการเงินมาเป็นการเข้าดูแลให้อัตราดอกเบี้ยตลาดที่อยู่อาศัยไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ ในภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ มีระดับค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว และยังมีแนวโน้มที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไปจากความต้องการเลี่ยงความเสี่ยงท่ามกลางความวิตกต่อวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังไม่คลี่คลาย นอกจากนี้ เฟดยังอาจมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่าพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมหากเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เฟดติดตามดูแลไม่ได้ปรับตัวดีขึ้นตามที่คาดหวังไว้ รวมไปถึงในกรณีที่เกิดความปั่นป่วนในตลาดการเงินขึ้น เฟดก็คงไม่ลังเลที่จะดำเนินการ เพื่อเป็นหลักประกันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่บนเส้นทางของการขยายตัวดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ