การส่งออกเคหะสิ่งทอของไทย ... แนวโน้มสดใสในอาเซียน
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Wednesday, 20 January 2016 11:31
- Hits: 1862
การส่งออกเคหะสิ่งทอของไทย ... แนวโน้มสดใสในอาเซียน
อาเซียน เริ่มมีบทบาทสำคัญในฐานะตลาดส่งออกเคหะสิ่งทอของไทย ปัจจุบันขยับขึ้นมาเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญอันดับ 2 ครองสัดส่วนถึงร้อยละ 15.4 ของการส่งออกเคหะสิ่งทอไทย และมีการขยายตัวสูงสุด
ในบรรดาตลาดส่งออกทั้งหมด โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 (ม.ค.-มิ.ย.) ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 44.4 (YOY) เมื่อเทียบกับตลาดส่งออกหลัก คือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่มีการขยายตัวเพียงร้อยละ 0.2, 12.0
และ 28.9 ตามลำดับ ทำให้คาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น อาจจะส่งผลต่อคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มเคหะสิ่งทอที่ปรับลดลง ส่งผลทำให้การส่งออกเคหะสิ่งทอ
ไปยังตลาดอาเซียน จะทวีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การเตรียมพร้อมรับมือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นที่ผู้ประกอบการและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ควรหันมาเร่งทำตลาดในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วงชิงโอกาสที่กำลัง
จะก้าวเข้ามาถึงในไม่ช้านี้
นอกจากนี้ พบว่า ตลาดที่มีแนวโน้มที่ค่อนข้างสดใสเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ คือ “ตลาดอาเซียน” กล่าวคือ การส่งออกเคหะสิ่งทอของไทยไปยังตลาดอาเซียน มีการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 44.4 (YOY) ซึ่งการค้าเคหะ
สิ่งทอในตลาดอาเซียนนั้น ไทยจัดได้ว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ โดยประเทศในอาเซียนที่ไทยส่งออกเคหะสิ่งทอมากที่สุด ได้แก่ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์มาเลเซีย ทั้งนี้
เมื่อพิจารณารายสินค้า พบว่า ประเภทของเคหะสิ่งทอที่มีการส่งออกไปในตลาดอาเซียน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มของพรมปูพื้น ผ้าที่ใช้กับเตียง โต๊ะอาหาร ห้องน้ำและห้องครัว รวมไปถึงเคหะสิ่งทออื่นๆ
(ผ้าคลุมเตียง ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์) เป็นต้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีความเห็นว่า ตลาดอาเซียน นับว่ามีอนาคตสดใสสำหรับการส่งออกเคหะสิ่งทอของไทย และเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยการส่งออกเคหะสิ่งทอของไทยไปอาเซียนในปี 2554 คาดว่า
น่าจะพุ่งไปอยู่ที่ระดับ 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 (YoY) อย่างไรก็ตาม การส่งออกเคหะสิ่งทอของไทยไปตลาดโลก คาดว่า จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 370 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 1.2 (YoY)
เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของตลาดส่งออกเคหะสิ่งทอหลักอย่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น และการแข่งขันในตลาดส่งออกที่ค่อนข้างรุนแรง อาจส่งผลต่อคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มเคหะสิ่งทอมีแนวโน้มปรับ
ลดลง ส่งผลทำให้การส่งออกเคหะสิ่งทอของไทยไปยังอาเซียนทวีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น