ศึกเลือกตั้ง’54: ธุรกิจสิ่งพิมพ์คึกคัก….คาดเงินสะพัดประมาณ 1,060 ล้านบาท
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Wednesday, 13 January 2016 15:32
- Hits: 1661
ศึกเลือกตั้ง’54: ธุรกิจสิ่งพิมพ์คึกคัก….คาดเงินสะพัดประมาณ 1,060 ล้านบาท
ธุรกิจสิ่งพิมพ์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 โดยคำสั่งซื้อสิ่งพิมพ์เฉพาะเพื่อการหาเสียง อาทิเช่น แผ่นป้ายโฆษณา โปสเตอร์
แผ่นพับ เป็นต้น เริ่มทยอยเข้าสู่โรงพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง และวันประกาศรับสมัครส.ส.อย่างชัดเจน โดยสื่อสิ่งพิมพ์ยังได้รับความนิยมใน
การโฆษณาหาเสียงจากผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองต่างๆ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การเลือกตั้งส.ส.ในปี 2554 จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ธุรกิจสิ่งพิมพ์ประมาณ 1,060 ล้านบาท
การเลีอกตั้งส.ส.ปี 2554: สื่อสิ่งพิมพ์…..ช่องทางสำคัญในการโฆษณาหาเสียงการเลือกตั้งส.ส. จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจสิ่งพิมพ์ในประเทศคึกคักเป็นอย่างมาก โดยสิ่งพิมพ์ที่ใช้เป็นเครื่องมือใน
การหาเสียงมีหลายประเภท แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการสื่อสารไปถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อาทิเช่น แผ่นป้ายและโปสเตอร์ ซึ่งแสดงรูปภาพ หมายเลขผู้สมัคร ชื่อพรรค และสโลแกนของพรรค เพื่อดึงจุดสนใจของ
ประชาชน สำหรับสิ่งพิมพ์ประเภทแผ่นพับ และใบปลิว ซึ่งอธิบายคุณสมบัติของผู้สมัคร และรายละเอียดนโยบายของพรรค เพื่อสร้างความคุ้นเคยในตัวผู้สมัคร ความเข้าใจในวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินงาน
ของพรรค
สำหรับการเลือกตั้งในปี 2554 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า สื่อสิ่งพิมพ์ยังเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยเม็ดเงินในธุรกิจสิ่งพิมพ์ช่วงเลือกตั้ง มีมูลค่าประมาณ 1,060
ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2550 โดยมีปัจจัยหนุนที่สำคัญ 2 ประการ ดังนี้ แนวโน้มการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของพรรคการเมือง โดยเฉพาะในส่วนของการช่วงชิงที่นั่งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่เพิ่มขึ้น จากเดิมจำนวน 80 คน เพิ่มเป็น 125 คนในปี 2554 ซึ่งจูงใจให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวนมากถึง 40 พรรค
(เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่มีผู้สมัครจำนวน 31 พรรค) นอกจากนี้ การเปลี่ยนวิธีการคำนวณจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยทุกคะแนนเสียงที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่พรรค จะถูกนำมาคำนวณเป็นจำนวนที่นั่งในสภา
หมายความว่า ทุกคะแนนเสียงในทุกพื้นที่เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ย่อมมีผลต่อจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคจะได้รับ ดังนั้น