- Details
- Category: ปปช.
- Published: Sunday, 05 July 2015 08:28
- Hits: 7068
ป.ป.ช. ร้องสอบโกงภาคอีสานพุ่ง 2,500 เรื่อง อีสาน-เหนือ ถูกครอบงำให้เชื่อว่า ป.ป.ช.สองมาตรฐาน
บ้านเมือง : นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงถึงความเคลื่อนไหวในคดีทุจริตที่มีการกล่าวหาร้องเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ที่อยู่ในชั้นแสวงหาข้อเท็จจริง ทั้งในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานรัฐที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นคดีกระทำความผิดเกี่ยวกับการเรียกรับสินบน หรือยักยอกทรัพย์ การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต และการกระทำผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งหมด 2,492 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จระดับจังหวัด 417 เรื่อง หรือร้อยละ 16.73 หลายจังหวัดถือว่าทำคดีได้สำเร็จลุล่วงไปพอสมควร แต่ก็ยังถือเป็นตัวเลขที่ต่ำอยู่ ดังนั้น ป.ป.ช. จะพยายามเร่งไต่สวนให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น
นายวิชา กล่าวอีกว่า ส่วนใน จ.อุดรธานี มีคดีที่อยู่ในขั้นตอนการไต่สวนข้อเท็จจริงทั้งหมด 41 เรื่อง ซึ่งมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน หรือพนักงานไต่สวนรับผิดชอบแล้ว ทั้งนี้มีคดีใหญ่ๆ อยู่หลายเรื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคดีผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงอุดรธานี และผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปี 2549 กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีข้อกล่าวหาคือ เรียกรับเงินเปอร์เซ็นต์จากเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 และรับเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้วไม่จ่ายให้ผู้มีสิทธิสินบนรางวัลปี 2549-2550 ของสถานีตำรวจ 23 สถานี ซึ่ง ป.ป.ช. จะต้องรีบไต่สวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงโดยเร็ว
นายวิชา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีคดีที่นายเมฑา ศิริไพวงษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอน้ำโสม จ.อุดรธานี ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) กรณีการสอบจ้างเหมาโครงการขุดลอกลำห้วยของ อ.น้ำโสม จำนวน 3 โครงการ รวมถึงคดีนาวาอากาศโท ณัฐมณต์ รุนเวลา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งโรงพยาบาลกองบิน 23 ถูกกล่าวหาว่า ทุจริตในการสั่งซื้อยาและเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาลกองบิน 23 และคดีนายสุรพล สุขประเสริฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนค่ายประจักษ์ศิลปาคม และนางสัมพันธ์ ต้นกันยา ข้าราชการครูโรงเรียนดังกล่าว ถูกกล่าวหารับรองผลงานวิชาการเป็นเท็จ ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการไต่สวนของป.ป.ช. ต่อมามีข้าราชการระดับสูง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพป.) อุดรธานี เขต 3 เข้ามาติดต่ออ้างว่าสามารถเคลียร์คดีกับ ป.ป.ช. ได้ โดยเรียกรับเงินร่วมล้านบาทสำหรับคดีนายสุรพล และนางสัมพันธ์นั้น เป็นต้นตอที่ทำให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ ผอ.ป.ป.ช.อุดรธานี แจ้งความต่อข้าราชการระดับสูง สพป.อุดรธานี เขต 3 คนดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143 นอกจากนี้ ป.ป.ช. เตรียมจะแจ้งความเอาผิดเพิ่มตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ในมาตรา 123 ข้อหาอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือคดี ซึ่งถือว่าเป็นการทุจริตอีกด้วย และเราจะดำเนินการให้ถึงที่สุด
'วิชา'เชื่ออีสาน-เหนือ ถูกครอบงำให้เชื่อว่า ป.ป.ช.สองมาตรฐาน
มติชนออนไลน์ :เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่โรงแรมนภาลัย จ.อุดรธานี นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. บรรยายพิเศษเรื่อง "พลังการสื่อสาร : แรงขับเคลื่อนสำคัญในการต่อต้านทุจริต" ตอนหนึ่งว่า ตราบใดประชาชนยังไม่เลิกเป็นฝักเป็นฝ่ายและคอยจับผิดคนอื่น การไม่ใช้ความรู้ความสามารถเพื่อระดมสรรพกำลังทุกอย่างแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ คิดว่าประเทศชาติคงไปไม่รอด
นายวิชา กล่าวต่อว่า การจะทำให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นเรื่องยากจริงๆ อย่างน้อยที่ได้มาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อไปภาคเหนือ เรารู้ว่าความคิดของผู้คนยังถูกครอบงำด้วยความรู้สึกว่า ป.ป.ช.สองมาตรฐานหรือไม่ เราพูดตอนประชุม เราต้องติดตามคดีไม่ว่าฝ่ายไหน ต้องทำให้ปรากฏ และพยายามจัดการปัญหาความยุ่งยากต่างๆ ในการเผยแพร่ความรู้เพื่อจะเข้าไปถึงประชาชนทุกกลุ่ม
กรรมการ ป.ป.ช. มองด้วยว่า จากนี้ถ้าเกิดคดีน้อยลงก็ต้องป้องกันเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เวลามากขึ้นต้องให้ความรู้กับประชาชนให้มากขึ้น ป้องกันการทุจริตให้มากขึ้น เพื่อจะได้มีแกนนำให้มากขึ้น ให้มีคนรัก ป.ป.ช.ให้มากขึ้น