- Details
- Category: ปปท.
- Published: Sunday, 28 December 2014 17:54
- Hits: 9487
อึ้ง!ค้นโกดังข้าวปทุมฯ แฉพิรุธอื้อ! นั่งร้านโผล่กลางโกดัง
แนวหน้า : อึ้ง!ค้นโกดังข้าวปทุมฯ แฉพิรุธอื้อ!นั่งร้านโผล่กลางโกดังหาย 3 ครั้งกว่าแสนกระสอบ ปปท.งงทั้งที่อตก.ส่งคนเฝ้า ปชช.ผิด-ข้าราชการไม่เกี่ยว
นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สนธิกำลังร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำโดย พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจภายใต้คณะทำงานของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ลงพื้นที่ตรวจโกดังเก็บข้าวของบริษัท ฟีนิกซ์ อกริเทค (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ หมู่ 1 ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นโกดังเก็บข้าวสารจำนวน 162,000 กระสอบ โดยองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เป็นผู้เช่าเก็บข้าวในโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2555/2556 หลังตรวจสอบไปแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา พบข้าวหายไปจากคลังแห่งนี้ถึง 3 ครั้งระหว่างปี 2556-2557 จำนวนกว่า 108,480 กระสอบ
นายประยงค์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ที่มีม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ลงตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวในโกดังที่เก็บข้าวกว่าพันโกดังทั่วประเทศ และพบว่ามีปริมาณข้าวคลาดเคลื่อนจากยอดตามบัญชีหน้าคลังสินค้าเกินกว่าร้อยละ 5 จำนวน 176 โกดัง แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีเพียง 33 โกดัง ที่เหลือแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น
ดังนั้น ป.ป.ท.จึงร่วมกับดีเอสไอ สตง. ปปง.และทหารเข้าตรวจสอบคลังดังกล่าวอีกครั้งว่า ได้ดำเนินการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมหรือไม่ เพราะคลังที่บางกระดี่นั้น พบข้าวหายหลายครั้ง ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่คลังสินค้าของอ.ต.ก.ประจำอยู่จึงยากที่จะปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นกรณีที่ข้าวหายออกจากคลังสินค้ากว่าแสนกระสอบ อีกทั้ง ในโกดังยังใส่กุญแจไม่ครบตามระเบียบที่กำหนดไว้ในสัญญา ซึ่งจากการตรวจสอบข้าวในคลังดังกล่าวตามที่แจ้งจำนวน 10 กอง พบมี 7 กองทำนั่งร้านล้อมกองข้าวไว้ ทำให้ตรงกลางโปร่งเพื่ออำพราง โดย 1 กองจะมีประมาณ 2 หมื่นกระสอบ พบข้าว 2 กองหายไปทั้งหมด และอีก 1 กองยังมีข้าวบางส่วนหลงเหลืออยู่ ขณะที่สภาพข้าวส่วนใหญ่ คล้ายเสื่อมสภาพ เพราะเก็บรักษาไม่ถูกวิธี บางกระสอบป่นเหมือนแป้ง
นายประยงค์กล่าวต่อว่า การที่ข้าวหายนับแสนกระสอบมีความเสียหายเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่คลังสินค้า อ.ต.ก.จังหวัดปทุมธานีแจ้งความกับผู้ร่วมขบวนการที่เป็นประชาชนเพียง 24 คน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ฉะนั้น หลังจากนี้ ป.ป.ท.จะตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องครบถ้วนหรือไม่ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดรู้เห็น และดูว่าทำไมเจ้าหน้าที่คลังหรือคนเฝ้าที่เป็นผู้ถือกุญแจถึงไม่รู้ว่า มีการขนนั่งร้านเข้ามาในโกดังและไม่ทราบว่ามีข้าวหายไป รวมถึงตัวบุคคลของผู้บังคับบัญชาฯ ซึ่งดูแลโกดังดังกล่าวได้ดำเนินการใดๆหรือไม่ พนักงานสอบสวนดำเนินคดีครอบคลุมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ป.ป.ท.จะตั้งอนุกรรมการตรวจสอบให้เร็วที่สุด และหลังเทศกาลปีใหม่ ป.ป.ท. และดีเอสไอจะตรวจสอบคดีโครงการรับจำนำข้าวทั่วประเทศต่อไป ส่วน ศอตช.จะเข้าตรวจสอบคลังที่มีปริมาณข้าวคลาดเคลื่อนทั้ง 176 คลัง
ขณะที่พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบข้าวในโกดังคลังสินค้า อ.ต.ก.ในจ.ปทุมธานีดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาพบข้าวหายเป็นระบบ และหายซ้ำหายซ้อนหลายครั้ง นอกจากนี้ มีความผิดปกติที่พบเห็นหลายอย่าง อาทิ วิธีการนำนั่งร้านมาตั้งไว้ตรงกลางแล้วเอาข้าวมากองล้อมนั่งร้านอำพรางจำนวนข้าวที่หายไปอีกที ส่วนเจ้าของผู้เช่าโกดังก็นำกุญแจมาคล้องโกดังเอง ซึ่งผิดเงื่อนไขสัญญาให้เช่าคลังสินค้าที่ทำกับอ.ต.ก. อีกทั้ง การที่บริษัท ฟีนิกส์ อกริเทค (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำสัญญาเช่าโกดังในราคาเดือนละ 360,000 บาท ในขณะที่ทำสัญญาให้อ.ต.ก.เช่าเพียงเดือนละ 320,000บาท ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติว่าเหตุใดจึงลงทุนทำธุรกิจทั้งที่ขาดทุน
สำหรับ โกดังข้าวอีกกว่า 130 โกดังที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบฯชุดของม.ล.ปนัดดาเป็นประธานได้ตรวจสอบแล้วและพบความผิดปกตินั้น พ.ต.ท.พงษ์อินทร์กล่าวว่า จะหารือกับอ.ต.ก.และอคส.ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้เกี่ยวข้องแล้วหรือไม่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 33โกดังที่ตรวจพบข้าวหายนั้น ประกอบไปด้วยจ.พิจิตร 16 โกดัง เชียงราย 5 โกดัง สุรินทร์5 โกดัง เพชรบูรณ์ 3 โกดัง และชัยนาท ศรีสะเกษ ลำปาง ลำพูนอย่างละ 1โกดัง ได้ดำเนินการใดๆหรือไม่ หลังตรวจพบมีข้าวหาย ตลอดจนได้มีมาตรการป้องกันอะไรหรือไม่
แหล่งข่าวจาก ศอตช.เปิดเผยว่า จากการข่าวทราบมา สาเหตุที่ข้าวหายไปจากโกดังที่จ.ปทุมธานีแล้วแต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ เนื่องมาจากพบความสัมพันธ์ระหว่าง“เสี่ย อ.” บริษัทเซอร์เวย์เยอร์แห่งหนึ่ง จ่ายเงิน 8 ล้านบาทให้ผู้ต้องหา และคนทำหน้าที่เซอร์เวย์เยอร์ ขณะที่แนวทางสืบสวนข้าวหายจากโกดังบางกระดี่ จ.ปทุมธานี ที่ดีเอสไอทำร่วมกับป.ป.ท.นั้น พบว่าข้าวที่สูญหายไม่เคยถูกนำมาเก็บไว้ในคลังดังกล่าวเลย แต่นำโครงเหล็กนั่งร้านมาก่อเป็นโครงตบตา และเมื่อเจ้าหน้าที่นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ ไม่ปรากฎภาพการขนข้าวออกจากคลัง บริเวณประตูด้านข้างใกล้จุดที่พบนั่งร้าน ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ในชั้นสอบปากคำเจ้าหน้าที่คลังสินค้าเบื้องต้น ให้การยืนยันว่าตรวจรับข้าวตามเอกสารใบปะหน้า โดยไม่ได้นับสินค้าว่าตรงกับบัญชีที่แจ้งไว้หรือไม่ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่คลังสินค้ารายงานต้นสังกัดว่า เอกชนนำกุญแจมาล็อคเพิ่มทำให้ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในคลังว่ามีข้าวครบหรือไม่ แต่ป.ป.ท.ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด นอกจากนี้ จะเร่งตำรวจให้เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีเพียงการแจ้งความเอาผิดคดีลักทรัพย์ ซึ่งสำนวนคดีไม่รัดกุม ไม่พบของกลางในการกระทำความผิดและไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าผู้ใดเป็นผู้ลักทรัพย์ออกจากคลังสินค้า
แหล่งข่าวยังตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่คน อ.ต.ก.แจ้งความดำเนินคดีเพียง 33 โกดัง จากที่อนุกรรมการตรวจสอบฯชุดม.ล.ปนัดดาตรวจสอบพบความผิดปกติ 176 โกดัง ที่เหลืออีก 40 โกดัง อ.ต.ก.ไม่ได้แจ้งความ เพียงแต่แจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่า เป็นเรื่องที่ทางผู้บริหารของ อ.ต.ก.ต้องมีส่วนร่วมรู้เห็นในการกระทำความผิดด้วยอย่างแน่นอน
ด้านนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ สมัยรัฐบาลน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับพวกได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้ได้รวบรวมสำนวนเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและนักการเมือง ซึ่งจะสรุปเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ วันที่ 20 มกราคม 2558 ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อหลังจากนั้น