- Details
- Category: กสทช.
- Published: Tuesday, 05 January 2016 20:25
- Hits: 6991
กสทช. ชูนโยบายปี 59'เป็นองค์กรแห่งความโปร่งใส'เตรียมตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาทีวิดิจิทัล เปิดประมูลเลขสวยก่อน เม.ย.59
กสทช.ชูนโยบายปีนี้'เป็นองค์กรแห่งความโปร่งใส'เผยจะเร่งสรุปรายได้จากสัญญาสัมปทานคลื่น 1800 MHz ที่สิ้นสุดมา 2 ปีกว่าแล้วปีเศษแล้ว เพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน พร้อมย้ำค่าบริหาร 4G ต้องคิดตามจริงเป็นวินาทีในทุกแพ็คเกจ พร้อมกับเร่งจัดหาผู้บริหารจัดการประมูลเลขสวยให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. 2559 ตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาทีวิดิจิทัล
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยถึง นโยบายและทิศทางการดำเนินงานของสำนักงาน กสทช. ในปี 2559 ของผู้บริหารสำนักงานกสทช. มี 8 ประเด็นหลัก ดังนี้
เรื่องแรก งานกำกับดูแลต้องมีความรวดเร็ว เข้มข้น ทั้งทางด้านกิจการโทรคมนาคมและกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำหรับเรื่องกิจการโทรคมนาคม จะกำกับดูแลอัตราค่าบริการ 4G บนคลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ต้องไม่เกินอัตราค่าบริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในระบบเสียงและดาต้า โดยจะต้องมีการคิดอัตราค่าบริการตามจริงเป็นวินาทีในทุกแพ็คเกจ
ด้านกระจายเสียงและโทรทัศน์จะมีการกำกับดูแลเนื้อหาอย่างจริงจัง กรณีการออกอากาศเนื้อหาที่เป็นภัยต่อความมั่นคง หมิ่นสถาบัน จะต้องมีการระงับการออกอากาศทันที และจะมีการดำเนินคดีอาญา ส่วนเนื้อหาที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ เช่น ผิดกฎหมาย อย. จะมีการดำเนินการตามกฎหมายลงโทษในทันทีเพื่อให้คำสั่งทางปกครองใช้ได้ผล
เรื่องที่สอง เร่งรัดให้ได้ข้อยุติเรื่องรายได้จากการประกอบการบนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ที่สิ้นสุดสัญญาสัมปทานเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2556 ขณะนี้ได้ผ่านพ้นมา 2 ปีเศษแล้ว ซึ่งรายได้ดังกล่าวจะต้องนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน จากนั้นจึงให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการนำเสนอบอร์ด กทค. ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อบอร์ด กทค. จะได้พิจารณาต่อไป
เรื่องที่สาม เร่งจัดหาผู้บริหารจัดการประมูลเลขสวยให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. 2559 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเอกสารของผู้ที่จะเข้าร่วมบริหารจัดการเลขสวย โดยผู้เสนอรายได้ให้กับรัฐสูงสุดจะเป็นผู้ดำเนินการและจะมีการประมูลเลขสวยดังกล่าวภายในเดือน มิ.ย. 2559 เพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
เรื่องที่สี่ แก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอล โดยจะมีการแต่งตั้งคณะทำงานในระดับสำนักงาน โดยมี กสท. เป็นที่ปรึกษา และมีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง สถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนจากกระทรวงการคลัง และผู้แทนจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงาน เพื่อรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ได้ข้อสรุปเสนอต่อ กสทช. ก่อนนำเสนอนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เพื่อขอรับนโยบายแก้ไขปัญหาต่อไป
เรื่องที่ห้า เร่งรัดนำเงินที่อยู่ในซิมเติมเงินที่ค้างอยู่ในระบบที่ประชาชนไม่ได้มาขอรับจำนวนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้มาลงทะเบียนซิม โดยจะเร่งหาแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย เพื่อนำเงินดังกล่าวนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะให้ตรงตามวัตถุประสงค์ต่อไป
เรื่องที่หก เร่งรัดคณะทำงานที่ตั้งโดยสำนักงาน กสทช. ในการแก้ปัญหาวิทยุชุมชนของวิทยุเสียงธรรมให้ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน เพื่อที่จะหาแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. และราชเลขาธิการ เพื่อขอรับนโยบายในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
เรื่องที่เจ็ด การบริหารจัดการเลขหมายที่ไม่ได้ใช้งาน แต่ไม่สามารถส่งคืนสำนักงาน กสทช. ได้เนื่องจากหลักเกณฑ์การส่งคืนเลขหมายต้องส่งคืนเป็นกลุ่มเลขหมาย ซึ่งขณะนี้มีเลขหมายที่ไม่ได้ใช้งานอยู่จำนวน 100 ล้านเลขหมาย จะทำให้เลขหมายดังกล่าวไม่สามารถนำมาจัดสรรใหม่ได้ ต้องมีการแก้กฎเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อนำเลขที่ไม่ได้ใช้งานมาใช้งานใหม่ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ และสำนักงาน กสทช. ไม่ต้องเพิ่มเลขหมายเป็น 11 หลักต่อไป
และเรื่องที่แปด จะดำเนินการให้สำนักงาน กสทช. เป็นองค์กรแห่งความโปร่งใส การประมูล การดำเนินการ การออกใบอนุญาตทุกขั้นตอน ให้องค์กรนี้โปร่งใสทุกรูปแบบเปรียบเสมือนการประมูล 4G ที่ผ่านมา
“ปี2559 จะเป็นปีแห่งความโปร่งใสในการทำงานของสำนักงาน กสทช. โดยจะมุ่งเน้นหนักในเรื่องการกำกับดูแล เราจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในการดำเนินงานของสำนักงาน กสทช. จะเป็นอีกปีที่ผู้บริหารและพนักงานทุกคนจะทำงานด้วยความทุ่มเทเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน”นายฐากร กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย