- Details
- Category: กสทช.
- Published: Tuesday, 05 January 2016 15:16
- Hits: 2363
เศรษฐพงค์ เปิดแผนโรดแมป 'กทค.'ดันไทยขึ้น'เบอร์1'ไอซีทีอาเซียน
หลังจากเสร็จสิ้นประมูล 4G คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ที่มีแม่ทัพใหญ่ "พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ" เป็นรอง ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธาน กทค.จะเปิดแผนการดำเนินงานในปี 2559 ว่ามีอะไรบ้าง
โดย พันเอกเศรษฐพงค์ บอกว่า โรดแมป กทค. มี 4 องค์ประกอบ มีเป้าหมายที่จะผลักดัน ให้ประเทศมีระดับการพัฒนาด้านไอซีที ที่สูงขึ้นเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ภายในปี 2563 คือ
การเข้าถึงบรอดแบนด์อย่างทั่วถึง
"ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป กทค. ต้องมุ่งเน้นการดำเนินโครงการ USO เพื่อประชาชนในพื้นที่ชนบทให้สามารถเข้าถึงบริการอินเตอร์เนตความเร็วสูง (Broadband Internet)ได้มากขึ้นเนื่องจากผลการรายงานของ ITU (สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ) ใน Measuring the Information Society Report 2015 ระบุว่า ประเทศไทยยังมีการให้บริการ Fixed Broadband ที่อยู่ในระดับที่ต่ำมากเนื่องจากประชาชนยังเข้าถึงได้จำนวนไม่มากพอ และหากเราสามารถทำให้ประชาชนเข้าถึงการบริการดังกล่าวเพิ่มขึ้นก็จะทำให้มีผลต่อลำดับการพัฒนาด้าน ICT ของไทยสูงขึ้นได้และจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็น ที่ 1 ในการพัฒนาด้าน ICT ในภูมิภาค ASEAN ภายในปี 2563
ด้านการคุ้มครอง ผู้บริโภค
"เนื่องจากการประมูลคลื่นความถี่ 4G ในย่านความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) และ 900 MHz สิ้นสุดลงด้วยความสำเร็จ และจะทำให้มีการวางโครงข่าย และให้บริการระบบดังกล่าวตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.2559 ซึ่งกทค.จะต้องดำเนินการ ติดตามตรวจสอบให้ราคา และคุณภาพการให้บริการเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดโดยราคาการให้บริการ 4G จะต้องถูกกว่า 3G ที่กำหนดไว้"
แผนการประมูลคลื่นความถี่
"การประมูลคลื่น ความถี่ 4G ย่าน 1800 MHz และ 900 MHz ทำให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีการใช้เม็ดเงินในลงทุนไปเป็นจำนวนเงิน ที่สูงมาก ดังนั้น กทค. จึงต้องสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นต่อผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) และนักลงทุนว่าในอนาคตจะมีการจัดสรรคลื่นความถี่ด้วยวิธีการประมูลบนคลื่นย่านใดและเมื่อใดเพื่อให้อุตสาหกรรมเกิดความแน่นอนในการวางแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างชัดเจนซึ่งจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและจะยังผลให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน"
การให้บริการทาง การเงินอย่างทั่วถึง
"การวางติดตั้งโครงข่าย 4G และ 3G ทำให้ประชากรมากกว่า 90% ทั่วประเทศสามารถเข้าถึงการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้รวมทั้งสามารถเข้าถึงบริการต่างๆที่มีอยู่บนระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่การให้บริการที่จะมีผลกระทบในการพัฒนาประเทศครั้งใหญ่ที่ยังไม่เคยมีการดำเนินการอย่างจริงจังมาก่อนคือการให้บริการทางการเงินอย่างทั่วถึง (Financial Inclusion) ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ เกิดการขยายตัวของธุรกิจส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการด้าน การเงิน การธนาคารด้วยความรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่ง กสทช. จะต้องสร้างความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และ ITU ซึ่งในขณะนี้ได้เริ่มมีการดำเนินการเพื่อหารือแล้วเพื่อวางแผนงานและทิศทางต่อไปแล้ว
ความร่วมมือในระดับนานาชาติภูมิภาค
"กทค. จะต้องแสวงหาความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับ ITU, APT, ASEAN, GSMA และองค์กร ระหว่างประเทศอื่นๆ ในทุกมิติเพื่อ จะขับเคลื่อนการกำกับดูแลให้มีความ ทันสมัยสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลง ไปทั้งในด้านเทคโนโลยีที่มีการหลอมรวมกันและการเปลี่ยนแปลงในการใช้งานคลื่นความถี่ในอนาคต เช่น คลื่นความถี่ในย่าน Digital Dividend 700 MHz เป็นต้น เพื่อนำมาใช้งาน ในบริการอินเตอร์เนตบนมือถือที่มีความต้องการในกิจการโทรคมนาคม โดย กทค. คาดว่าประเทศไทยจะมีปริมาณการใช้งานด้านอินเตอร์เนตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในปี 2020 ถึง 600%"
"ดังนั้น อนาคตอันใกล้การ เปลี่ยนผ่านที่สำคัญของประเทศไทย จะเข้าสู่ "สังคมโมบายดิจิทัล" อย่างเต็ม รูปแบบนั้นเข้าใกล้ความเป็นจริง เข้าทุกที โดยในปีนี้ 2558 ที่ผ่านมา GSMA ได้รายงานว่า มีการเชื่อมต่อผู้คน รวมทั้ง สิ่งต่างๆ จำนวนมหาศาลบนโลกสู่ Cyber space ผ่านระบบ 2G/3G/4G ที่มี subscriber จำนวน ถึง 7.5 พันล้าน แล้ว และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ คาดว่า ในปี 2020 จะมีจำนานถึง 9 พันล้านราย"
จากรายงานของ GSMA พบว่า ในปี 2558 ยอดผู้ใช้บริการ (subscrier) บนระบบ 4G ทั่วโลก มีจำนวนประมาณ 700 ล้าน และจะมีการก้าวกระโดดถึงกว่า 1.3 พันล้านในปีหน้า (2559)
"รายงานของ ITU ก็สอดคล้อง กับ GSMA Mobile Economy Report ที่วิเคราะห์ว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการเติบโตในด้านขีดความสามารถในการแข่งขันด้าน ICT ที่โดดเด่นหลังจากมีการประมูล คลื่น 3G คลื่น 2100 MHz และหาก ประสบความสำเร็จในการประมูล คลื่น 4G คลื่น 1800 MHz ก็จะ ทำให้ประเทศไทยมีลำดับก้าวกระโดดขึ้นไปอีกครั้งหนึ่ง"
แนวหน้า : น้ำฝน บำรุงศิลป์