- Details
- Category: กสทช.
- Published: Thursday, 02 October 2014 17:22
- Hits: 2930
คุมเข้มทุจริตกล่องทีวีดิจิตอล 'กสทช.'อนุมัติ 1 คนซื้อ 3 สิทธิ์หวั่นสต็อกลมฮั้วแบ่งเงิน
ไทยโพสต์ : สโมสรทหารบก * กสทช.เรียก 42 บริษัทผลิตจำหน่ายกล่องทีวีดิจิตอล เข้ารับฟังทำความเข้าใจขั้นตอนการแจกคูปอง หวั่นทุจริตสต็อกลม เผยความพร้อมโอนเงินสำรองจ่ายให้ ธ.กรุงไทยแล้วพันล้าน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิ การสำนักงานคณะกรรมการกิจ การกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานได้เชิญผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายกล่องรับสัญญาณระบบดิจิตอลที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอลทีวี จำนวน 42 ราย เข้าร่วมรับฟังและทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการแจกคูปองทั้งหมด โดยเฉพาะการป้องกันทุจริต พร้อมเชิญตัวแทนธนาคารกรุงไทย และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. เข้าร่วมรับฟัง ขั้นตอนและรายละเอียดต่างๆ เพื่อยืนยันว่ามีการดำเนินงานด้วยความโปร่ง ใส"กสทช.ได้วางระบบป้อง กันการทุจริตและมีขั้นตอนการแลกกล่องรับสัญญาณที่ชัดเจน กรณีการรวบรวมบัตรประจำตัวประชาชนจำนวนหลายใบเพื่อนำมาแลกกล่องในคราวเดียวกันก็ไม่สามารถทำได้ เพราะ กสทช.ให้ 1 คน สามารถรับมอบสิทธิ์การแลกได้ไม่เกิน 3 สิทธิ์ และกรณีการขายกล่องรับสัญญาณล่วงหน้าและนำคูปองแลกคืนภายหลังก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการจะต้องได้รับสติกเกอร์เพื่อเข้าร่วมโครงการ และต้องมีใบรับรองการนำเข้า (BL) จากกรมศุลกากรสำหรับกล่องที่นำเข้ามาแสดงกับ กสทช.เพื่อรับสติกเกอร์ ส่วนกล่องที่ผลิตในไทยจะต้องมีใบกำกับภาษีมาแสดง อีกทั้งคูปองก็ไม่สามารถแลกคืนเป็นเงินสดได้" นายฐากรกล่าว
ทั้งนี้ กสทช.ยังมีความกังวล กรณีของการสต็อกสินค้าสต็อก ลม หรือการที่ผู้ประกอบการ กล่องรับสัญญาณและประชาชนร่วมมือกัน โดยใช้วิธีที่ผู้ประกอบการรับแลกคูปองจากประชาชน พร้อมดำเนินการทำตามขั้นตอนทุกอย่างถูกวิธี ติดสติกเกอร์ แต่ให้เฉพาะกล่องเปล่าประชาชนไป ส่วนผู้ประกอบการจะเก็บตัวเครื่องไว้ เมื่อผู้ประกอบการนำคูปองไปขึ้นเงินที่ธนาคาร จะเอา เงินจำนวนนั้นมาแบ่งคนละครึ่งกับประชาชน ซึ่งวิธีการดังกล่าวประชาชนต้องเห็นด้วยและยินยอม ส่งผลให้เกิดการควบคุมยาก แต่ กสทช.จะพยายามเข้าไปเช็กสต็อก เพื่อป้องกันการทุจริตดังกล่าว หาก ตรวจพบการทุจริตจะยึดสิทธิ์ผู้เข้าร่วมโครงการและตัดสิทธิ์การใช้คูปองทีวีดิจิตอล รวมถึงดำเนินการตามกฎหมายในคดีอาญา
สำหรับ กรอบระยะเวลาการแจกคูปองแก่ประชาชนใน 21 จังหวัดรอบแรกจำนวน 4.6 ล้านใบ จะส่งมอบให้ไปรษณีย์ไทยทำ การจัดส่งตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.57 คาดว่าจะถึงมือประชาชนประ มาณวันที่ 14-15 ต.ค.57 จากนั้น จะให้ผู้ประกอบการขายกล่องรับสัญญาณเปิดให้ประชาชนแลกคูปองได้ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.57 นี้
ส่วนธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นตัวแทนในการรับแลกเงินจากผู้ประกอบการกล่องนั้น ตอนนี้สำนักงานได้โอนเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารไปแล้วจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อสำรองจ่ายเบื้องต้น ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนเงินที่จะมีการนำคูปองมาแลกรับในรอบแรก 4.6 ล้านใบ ใบละ 690 บาท หรือคิดเป็นจำนวนรวม 3,174 ล้านบาท
ยันฟ้องร้องไม่กระทบทีวีดิจิตอล
บ้านเมือง : นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า กรณีที่มีบางบริษัทจะยื่นฟ้อง กสทช. ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกสู่ทีวีดิจิตอล จะไม่กระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ ส่วนกรณีช่อง 3 มองว่า กระบวนการในการเปลี่ยนผ่านต้องออกอากาศคู่ขนาน และเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดจะยุติลงได้ก่อนวันที่ 11 ตุลาคม ส่วนกรณีที่ช่อง 3 อนาล็อก นำรายการไปออกอากาศทางช่องดิจิตอลทั้ง 28 เอสดี และ 33 เอชดี นั้น ในระหว่างนี้สามารถทำได้ ไม่ผิดมาตรา 9 พระราชบัญญัติการประกอบการกิจการเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551 และช่อง 3 ได้แจ้งมาที่ กสทช. แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. สำนักงาน กสทช. ได้ทำหนังสือถึงบริษัท บีอีซีมัลติมีเดีย ให้รับทราบมติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. เมื่อวันที่ 29 กันยายน แล้วนอกจากนี้ สำนักงาน กสทช. เชิญผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านสู่การรับชมโทรทัศน์ ภาคพื้นในระบบดิจิตอลทั้ง 42 บริษัท มาประชุมเพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจ ประเด็นหลัก คือ ขั้นตอนการปฏิบัติในการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมโครงการ การขอสติกเกอร์ร่วมโครงการการใช้สิทธิ หรือการใช้คูปองของประชาชน 4.ขั้นตอนบริการหลังการขาย และขั้นตอนการเรียกเก็บเงินของผู้เข้าร่วมโครงการ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. เข้าร่วมด้วย
โครงการนี้ใช้งบประมาณไปแล้ว 220 ล้านบาท ต่ำกว่าวงเงินที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. อนุมัติให้ 400 กว่าล้านบาท ส่วนที่เหลือจะส่งคืนเป็นเงินแผ่นดิน ส่วนปัญหาที่พบในการแจกคูปอง คือ กล่องลม หมายถึง นำมาจัดแสดงหน้าร้าน แต่ไม่สามารถแลกคูปองได้ ทั้งนี้ ย้ำว่า ผู้ที่จะนำไปแลกต้องมีสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน