- Details
- Category: กสทช.
- Published: Saturday, 27 September 2014 11:12
- Hits: 2838
วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8704 ข่าวสดรายวัน
ช่อง 3 โล่ง-ศาลปค. ยืดจอดำ ให้ทุเลาถึง 11 ตค. สั่งเจรจา'กสท.'หาข้อยุติ ผู้จัด-ดาราร้องบิ๊กตู่ช่วย ก่อนยกขบวนไปสคบ. สมาคมทนายก็ยื่นฟ้อง ทำประชาชนเดือดร้อน
ค้านจอดำ - กลุ่มผู้จัดรายการทางทีวีช่อง 3 เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ทำเนียบรัฐบาล ขอให้ประวิงเวลาการหยุดแพร่ภาพช่อง 3 อนาล็อกออกไปก่อน เมื่อ 26 ก.ย. |
ยืดเวลาช่อง 3 จอดำ 15 วัน ศาลปกครองกลางสั่งคุ้มครองวิก 3 ให้ไปตกลงหาข้อยุติกับกสท.ให้ได้ แล้วส่งผลสรุปให้ศาล ระหว่างนั้นให้ออกอากาศเป็นปกติ ขณะที่สมาคมทนาย ความแห่งประเทศไทยก็ยื่นฟ้องด้วย ชี้อย่าจับประชาชนเป็นตัวประกัน ส่วน'เสี่ยวีที'วิทวัจน์ สุนทรวิเนตร์ และ'เจ๊หน่อง'อรุโณชา นำทีมผู้จัดรายการและนักแสดงตบเท้าไปทำเนียบรัฐบาลร้องขอความช่วยเหลือจาก นายกฯ'ตู่'ในกรณีเดียวกัน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ก.ย. ตัวแทนจากบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ผู้ถือใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ยื่นหนังสือถึงพ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เพื่อสอบถามประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการออกอากาศคู่ขนานระหว่างสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อนาล็อก และสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ดิจิตอล โดยมีนายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงานกสทช. เป็นผู้รับหนังสือแทน ประธานกสท.
ทั้งนี้ การยื่นหนังสือครั้งนี้ เป็นการทำหนังสือในนามของบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ตาม คำสั่งของกสท. หลังจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย. นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้บริหารช่อง 3 เข้ายื่นหนังสือสอบถามมาแล้วครั้งหนึ่งในนามบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด แต่บอร์ดกสท. แนะให้ทำหนังสือมาใหม่ในนามบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย และจะมีการพิจารณาข้อเสนออีกครั้ง
ส่วนที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตช่อง 3 นายวิทวัจน์ สุนทรวิเนตร์ และน.ส.อรุโณชา ภาณุพันธุ์ ผู้ผลิตรายการช่อง 3 นำตัวแทนผู้ผลิตรายการของช่อง 3 และนักแสดงยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการงดออกอากาศช่อง 3 ผ่านทางระบบโทรทัศน์เคเบิลหรือดาวเทียม โดยมีพล.ต.ท.พิจาร จิตติรัตน์ ที่ปรึกษานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือแทน
นายวิทวัจน์ กล่าวว่า การมาร้องเรียนครั้งนี้มาในฐานะประชาชน ที่กำลังจะได้รับความ เดือดร้อนจากกรณีช่อง 3 จอดำในอีกไม่กี่วัน และในฐานะผู้ผลิตยังได้รับผลกระทบในเชิงธุรกิจด้วยเช่นกัน รวมถึงประชาชนที่มีเครื่องรับโทรทัศน์ผ่านระบบเคเบิลและดาวเทียมจะไม่สามารถรับชมช่อง 3 ได้อีก รวมถึงผลกระทบต่อรายการและละครที่ผลิตล่วงหน้า การวางแผนสื่อโฆษณาของลูกค้าจะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ ผู้ผลิตจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
นายวิทวัจน์ กล่าวอีกว่า แต่ประเด็นหลักคือ ผู้บริโภคที่อาจยังไม่ได้เห็นว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไร ที่ผ่านมามีบทเรียนจากกรณีฟุตบอลยูโร แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้สึกว่า ช่อง 3 กำลังจะเป็นจอดำ หากเกิดขึ้นจริงคงเกิดความระส่ำระสายขึ้นในสังคมอย่างแน่นอน แต่การมายื่นหนังสือในครั้งนี้ไม่ได้มาในนามผู้บริหารช่อง 3 แต่มาในฐานะประชาชนและผู้ผลิตที่ได้รับความเดือดร้อน โดยบรรดาผู้ผลิตรายการและนักแสดงช่อง 3 ร่วมกันลงชื่อเพื่อเป็นหลักฐานแสดงถึงความเดือดร้อนร่วมกันกว่า 200 รายชื่อ
"40 ปี ที่ผ่านมาไม่มีวันใดที่ทุกคนจะไม่ได้ดูช่อง 3 แล้วอยู่ๆ วันหนึ่งจะไม่ได้ดูช่อง 3 คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตอีกไม่กี่วันข้างหน้าเป็นความสุขที่ถูกดึงไป ทั้งที่ตอนนี้มีแต่การคืนความสุขให้ประชาชน แล้วจะดึงความสุขของประชาชนไปได้อย่างไร ดังนั้นในนามของประชาชนและผู้ผลิตรายการ ดาราของช่อง 3 จึงต้องมาขอความเป็นธรรม" นายวิทวัจน์กล่าว
หลังจากนั้นทั้งหมดเดินทางไปยื่นร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาลด้วย
วันเดียวกัน ที่สำนักงานศาลปกครอง นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 พร้อมทีมกฎหมาย เข้ายื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คณะกรรมการกสทช. และกสท. ต่อศาลปกครองกลาง
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฎหมายบริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ กล่าวว่า การยื่นฟ้องดังกล่าวเพื่อขอให้มี คำสั่งเพิกถอนมติของ กสท. เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ให้โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุตินำช่อง 3 ในระบบอนาล็อกไปออกอากาศบนโครงข่ายของตน พร้อมกับขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินและกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ช่อง 3 อนาล็อกต้องจอดำในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ซึ่งหวังว่าศาลจะเรียกไต่สวนตามที่มีการร้องขอ โดยทางผู้บริหารและทีมกฎหมายจะอยู่รอจนกว่าศาลจะมีคำสั่งที่ชัดเจน
ขณะเดียวกัน สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย นำโดยนายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ นำรายชื่อที่อ้างว่าเป็นประชาชนซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการที่ช่อง 3 จะจอดำ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า ได้รับคำร้องเรียนจากประชาชนที่จะเดือดร้อนหลายครัวเรือน การฟ้องไม่ได้ต้องการให้ศาลชี้ว่าคำสั่งของกสท.ถูกหรือผิด แต่อยากให้ศาลสั่งขยายระยะเวลาไม่ให้ช่อง 3 จอดำออกไป เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชน
นายนรินทร์พงศ์ กล่าวว่า กสท.กับช่อง 3 จะถกเถียงโต้แย้งกันอย่างไร ก็อย่าให้ประชาชนตกเป็นตัวประกัน เพราะถ้าหลังวันที่ 30 ก.ย. ช่อง 3 จอดำ ประชาชนจะเดือดร้อนต้องไปซื้อกล่องดิจิตอลมาติด ทั้งที่กสท.ยังแจกคูปองส่วนลดค่ากล่องไม่ทั่วถึง ยืนยันว่าการมายื่นครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับช่อง 3 หรือรับงานช่อง 3 มา แต่มาในฐานะประชาชนที่จะได้รับความเดือดร้อน
ด้านนายธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือเป็ด เชิญยิ้ม ผู้บริหารบริษัทคอเมดี้ไลน์ จำกัด ผู้ผลิตรายการก่อนบ่ายคลายเครียด สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ซึ่งยื่นคำร้องต่อศาลปกครองในประเด็นเดียวกัน โดยระบุว่าบริษัทจะได้รับความเสียหายหากช่อง 3 จอดำ เวลานี้ได้อัดเทปรายการไว้ 3-4 ตอน และขายโฆษณาไปแล้ว หากไม่ได้ออกอากาศจะมีผลกระทบกับธุรกิจ
ต่อมาเวลา 14.00 น. ศาลปกครองกลางเรียกไต่สวนฉุกเฉิน โดยมีนายดนัย ศรีโมรา ตุลาการผู้พิจารณาคดี เป็นผู้พิจารณา โดยฝ่ายช่อง 3 ประกอบด้วย นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการผู้จัดการช่อง 3 นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พร้อมทีมทนายความ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนฝ่ายกฎหมายของ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโครงข่ายเคเบิลเข้าร่วมด้วย
ขณะที่ สำนักงานกสทช. มีนายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงานกสทช. เป็นตัวแทน ส่วน 3 กรรมการ กสท. ประกอบด้วย พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ, น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ และนาย ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ก็มาตามที่ศาลเรียกไต่สวนโดยพร้อมเพรียงกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุม กสท. ยกเลิกการประชุมพิจารณาถึงแนวทางแก้ปัญหาประเด็นคนละนิติบุคคล โดยจะออกบทเฉพาะกาลในประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การแบ่งเวลาให้ ผู้อื่นดำเนินรายการ พ.ศ.2556 ขยายสัดส่วนการแบ่งเวลาให้ผู้อื่นดำเนินรายการเป็น 100% จากเดิมที่กำหนดไว้ขั้นต่ำ 10% แต่ไม่เกิน 40% เพื่อให้ช่อง 3 อนาล็อกสามารถไปเช่าเวลาออกอากาศช่อง 33 เอชดี เนื่องจากคณะกรรมการส่วนใหญ่ ไปอยู่ที่ศาลปกครองเพื่อรอผลการไต่สวนฉุกเฉิน โดยนัดประชุมใหม่อีกครั้งในวันที่ 29 ก.ย.นี้
ต่อมาเวลา 19.10 น. ภายหลังการไต่สวนนานกว่า 5 ชั่วโมง กรรมการกสท.ทั้ง 3 คน ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยพล.ท. พีระพงศ์กล่าวว่า ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้มติกสท.ลงวันที่ 8 ก.ย. ที่ให้ช่อง 3 อนาล็อกไม่สามารถออกอากาศในระบบโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลหลังวันที่ 30 ก.ย.นี้ ออกไป โดยยังคงให้ช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศในระบบโครงข่ายได้ปกติไปจนถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.30 น.
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวอีกว่า ระหว่างนี้ทางช่อง 3 จะทำหนังสือมายังกสท.ให้มีการพิจารณา โดยในการไต่สวน กสท. ได้อธิบายถึงแนวทางที่จะทำให้ช่อง 3 สามารถออกอากาศคู่ขนานโดยไม่ขัดกฎหมาย ทำให้ทางช่อง 3 คลายกังวล ซึ่งทางช่อง 3 ได้ขอให้ศาลขยายเวลาไป 30 วัน เพื่อจะได้มีเวลาในการจัดการระบบภายในก่อน แต่ทางกสท. เห็นว่ากรณีดังกล่าวได้ให้โอกาสแล้ว และในข้อเท็จจริงสามารถดำเนินการออกคู่ขนานได้เลย รวมทั้งระยะเวลา 15 วัน น่าจะเพียงพอ ศาลจึงได้มีคำสั่งดังกล่าว แต่มติกสท. วันที่ 8 ก.ย. ยังถือว่ามีผลอยู่เพียงแค่ถูกสั่งให้ทุเลาเท่านั้น ดังนั้นสำหรับช่อง 3 ต้องถือว่าสิ่งที่ได้ตกลงในศาลเป็นพันธสัญญาที่ต้องดำเนินการ จะไม่สามารถเลยวันที่ศาลมีคำสั่งได้ โดยศาลให้คู่กรณีรายงานผลการปฏิบัติตามคำสั่งศาลด้วย
"เราพูดกันต่อศาล ไม่ใช่การเจรจาธุรกิจ ซึ่งผู้แทนช่อง 3 ที่มา ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ซึ่งศาลถามช่อง 3 ว่า ตกลงจะออกคู่ขนานไหม หลังจากที่เราให้ความชัดเจนในข้อกฎหมายว่าสามารถดำเนินการได้ ซึ่งช่อง 3 ตกลงเลยว่าจะไปดำเนินการให้ได้ตามกรอบเวลานี้ แม้ว่าในทางเทคนิคทางเราจะเห็นว่าสามารถออกอากาศแบบคู่ขนานได้ทันทีก็ตาม เพราะในวันที่ 10 ต.ค.ทาง กสท. จะเริ่มแจกคูปองส่วนลดกล่องรับสัญญาณดิจิตอล หากมีการดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการแจกคูปองได้จะยิ่งดี ส่วนเรื่องเยียวยา ช่อง 3 นั้น ไม่ได้พูดถึง เพราะก่อนหน้านี้เราก็ได้เยียวยาไปเป็นจำนวนเงินพอสมควรแล้ว" พล.ท.พีระพงศ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันศาลปกครองได้เผยแพร่คำสั่งผลการไต่สวนฉุกเฉินดังกล่าว โดยสรุปว่าคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายแถลงต่อศาลว่า จะไปตกลงทำความเข้าใจกัน เพื่อหาข้อยุติข้อพิพาทในคดีนี้ ในชั้นนี้จึงมีความเห็นร่วมกันขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติของกสท. ในคราวประชุมครั้งที่ 37/2557 เมื่อวันที่ 8 ก.ย. และคำสั่งทางปกครองตามหนังสือ ทสช. 0412/29664 ลงวันที่ 10 ก.ย. ไปจนถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.30 น. โดยให้คู่กรณีแจ้งผลเจรจาความคืบหน้าผลการหารือดังกล่าวให้ศาลทราบภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จึงมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติ กสท. และคำสั่งทางปกครองดังกล่าว ไปจนถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.30 น. เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ด้านนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ กล่าวว่า หลังจากที่ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาแล้ว ได้ให้ช่องและกสท.ไปตกลงกันเพื่อหาข้อยุติ ซึ่งช่อง 3 ที่จะออกอากาศคู่ขนาน แต่ทาง กสท.ต้องหาข้อยุติให้ได้ในการออกอากาศคู่ขนานว่าไม่ผิดกฎหมาย