- Details
- Category: ศาล
- Published: Friday, 25 December 2015 11:38
- Hits: 9937
ตัดสินคดีเกาะเต่า 2 พม่าโฮ ศาลประหารชีวิต ยื่นอุทธรณ์สู้ต่อ ญาติเหยื่อพอใจ ม็อบฮือประท้วง สถานทูต-เตือน ไทยในเมียนมา
ศาลตัดสินประหารชีวิต 2 แรงงานพม่า จำเลยฆ่า 2 นักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า คดีโด่งดังเมื่อปี 2557 หลังสิ้นคำพิพากษา แม่จำเลยโผเข้ากอดลูกชายร้องไห้โฮกลางห้องพิจารณาคดี ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตขอบคุณกระบวนการยุติธรรมไทยที่ให้ความเป็นธรรม ทนายจำเลยเตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน สถานทูตไทยในพม่าเตือนคนไทยระมัดระวัง-เลี่ยงการแสดงตัวเป็นคนไทย เพราะโลกโซเชี่ยลในพม่าวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินหนักหน่วง
วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9158 ข่าวสดรายวัน
ประหาร - จนท.นำตัวนายซอริน และนายเวพิว 2 ผู้ต้องหาฆ่านายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ และน.ส.ฮานนาห์ วิกตอเรีย วิทเธอริดจ์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ มาฟังคำพิพากษา ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยศาลตัดสินประหารชีวิต
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รถควบคุม ผู้ต้องขังเรือนจำเกาะสมุยนำตัวนายซอริน และนายเวพิว ชาวเมียนมา เชื้อสายยะไข่ จำเลยคดีฆาตกรรมนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และน.ส.ฮานนาห์ วิกตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ บริเวณโขดหินแหลม จปร. หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2557 มาฟังศาลอ่านคำพิพากษาตัดสินคดี ที่ห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ 6 โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศมาทำข่าวจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย พร้อมด้วยพ่อและแม่ของนายเดวิด วิลเลี่ยม มิลเลอร์ เดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยพ่อและแม่ของนายเดวิดกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ลูกของทั้งสองครอบครัวเสียชีวิตจากการเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะเต่า พวกเราทั้งสองครอบครัวเฝ้าติดตามการทำงานของกระบวน การยุติธรรมของไทยมาตลอด จนถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันพิจารณาคดีพวกเราหวังว่าครอบครัวเราทั้งสองจะได้รับความยุติธรรม
ด้านครอบครัวของนายเวพิวและนาย ซอริน จำเลย เดินทางมาศาลพร้อมด้วยทีมทนายความ นางพิว ชุยนุก แม่ของนายเวพิว กล่าวผ่านล่ามทั้งน้ำตาว่า ตนยังเชื่อมั่นว่าลูกชายทั้งสองคนไม่ได้เป็นคนฆ่าสองนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน พวกเราเชื่อมั่นว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมของลูกชาย
ต่อมาเวลา 10.30 น. ศาลจังหวัดเกาะสมุยอ่านคำพิพากษาสรุปว่า นายซอริน จำเลยที่ 1 และนายเวพิว จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289(7), 276 วรรคสาม ประกอบมาตรา 83 และจำเลยที่ 2 ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1) วรรคแรก และพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา12(1), 18 วรรคสอง, 62 วรรคหนึ่ง อีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดต่อไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 1 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง
ฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 2 เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง, ฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภริยาตนอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 20 ปี, ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จำคุกจำเลยทั้งสองมีกำหนด 2 ปี, ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางและเวลาตามกฎหมาย, ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่มีหนังสือเดินทางและไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านการตรวจของ เจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองฯ เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน ฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ส่วนถ้อยคำรับในชั้นจับกุมในความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การสืบสวนจนสามารถยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางได้ เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 3 เดือน
เมื่อลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งสองแล้ว ก็ไม่อาจนำโทษจำคุกในความผิดกระทงอื่นของจำเลยทั้งสองมารวมได้อีก คงให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองสถานเดียว ให้คืนจอบของกลางแก่เจ้าของ กับให้จำเลยที่ 2 ใช้ราคาโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลาง 15,000 บาท แก่ทายาทของผู้ตายที่ 1 ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ภายหลังศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษา นายเมไต และนางพิว ชุยนุก ได้โผเข้ากอดลูกชายทั้งสองแล้วร้องไห้โฮกลางห้องพิจารณาคดี พร้อมกับคร่ำครวญว่าลูกชายไม่มีความผิด ขอให้ศาลให้ความเป็นธรรมกับลูกชายด้วย ขณะที่ทีมทนายความและฝ่ายกฎหมายจากสถานทูตเมียนมาร่วมปรึกษาหารือเพื่อเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ซึ่งยังมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมคำให้การที่เป็นประโยชน์ต่อจำเลยต่อศาลอุทธรณ์เพื่อให้พิจารณาคดีนี้ใหม่อีกครั้ง จากนั้นเข้าพยุงพานางเมไต และนางพิว ชุยนุกที่ยังร้องไห้ตลอดเวลาขึ้นรถกลับที่พัก
ด้านครอบครัวของนายเดวิดได้แถลงขอบคุณผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรม ซึ่งครอบครัวมิลเลอร์อดทนรอคำพิพากษามากว่า 14 เดือน และวันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่านายเดวิดได้ตายด้วยความทรมานจากการถูกทุบตีด้วยจอบ จึงขอขอบคุณผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรม
นายนคร ชมพูชาติ ทนายความฝ่ายจำเลยกล่าวว่า หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นศาลอุทธรณ์ให้ทันภายใน 1 เดือนนี้ ส่วนประเด็นที่จะอุทธรณ์ก็เป็นประเด็นที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้วเห็นต่างกัน ประเด็นสำคัญคือศาลยอมรับว่าไม่มีประจักษ์พยาน ศาลจึงให้ความสำคัญกับพฤติเหตุแวดล้อม ซึ่งพยานพฤติเหตุแวดล้อมมีข้อโต้แย้งที่แตกต่างกัน เพียงแต่ศาลเห็นว่าข้อโต้แย้งนั้นไม่มีประเด็นที่หักล้างกันได้ อีกเรื่องคือเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอซึ่งศาลให้ความสำคัญและความเชื่อถือ ซึ่งรายละเอียดหรือข้อมูลที่นำมาเสนอนั้นเราได้โต้แย้งไปหลายอย่าง แต่ศาลยังเห็นว่าผลดีเอ็นเอที่ได้มายังเชื่อถือได้ จึงเอาเหตุผลสองอย่างมาพิจารณาว่าจำเลยมีความผิดจริง ส่วนการซ้อมทรมานจะมีหรือไม่นั้น ศาลชี้ให้เห็นว่าไม่ได้ยึดถือตามคำรับสารภาพของจำเลยมาเป็นข้อพิจารณาในการตัดสิน เอาแต่เพียงพฤติเหตุแวดล้อมเป็นสำคัญ ถึงแม้จะต่อสู้เรื่องนี้ขึ้นมาก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีที่ศาลจะวินิจฉัย
วันเดียวกัน ครอบครัวของน.ส.ฮันนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ ออกแถลงการณ์หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาความว่า "ในโอกาสที่การพิจารณาคดีสิ้นสุดและศาลได้มีคำพิพากษา ครอบครัวของเรารู้สึกอยู่ในหนทางของลมพายุของอารมณ์และความยากลำบากอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงเวลาที่ท้าทายเหล่านี้ เราจะมุ่งพยายามจดจำความสวยงามของฮันนาห์ ผู้เป็นคนที่สนุกสนาน มีชีวิตชีวาและน่าเหลือเชื่อ
หากว่าชีวิตของเธอไม่ได้พบกับโศก นาฏกรรมและถูกตัดให้สั้นโดยใช่เหตุ ตอนนี้เธอคงจะจบปริญญาโทด้านอรรถบำบัดและเริ่มทำงานที่มีคุณค่า และเธอคงสามารถเข้าไปเปลี่ยนชีวิตของหลายๆ คน จากจุดเริ่มต้นของการอุทิศและความหลงใหลด้านอรรถบำบัด ประกอบกับเสียงตอบรับที่เธอเคยได้รับระหว่างการเรียน มหาวิทยาลัยแห่งเอสเส็กซ์ยังมอบรางวัลด้านการรักษายอดเยี่ยมเพื่อเป็นการระลึกถึงฮันนาห์ โดยใช้ชื่อว่า "รางวัลการรักษายอดเยี่ยม ฮันนาห์ วิทเธอร์ริดจ์" ซึ่งฮันนาห์จะเป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ในฐานะครอบครัวของเธอ พวกเรารู้สึกซาบซึ้งสำหรับคำยกย่องที่สวยงามสำหรับฮันนาห์นี้ ในฐานะที่เธอเป็นผู้อุทิศตนและตั้งใจทำงาน
ปีที่ผ่านมาเป็นเวลาที่แทบจะคาดไม่ถึงสำหรับครอบครัวของเรา เราเห็นว่ากระบวนการพิจารณคดีนั้นมีความยากอย่างที่สุด และการเดินทางมาประเทศไทยเพื่อขึ้นศาลยังสร้างประสบการณ์ที่เจ็บปวด มันเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการรับฟังการพิจารณาคดี และเรายังต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและข้อมูลที่สับสน และในฐานะครอบครัว ในตอนนี้เราต้องการเวลา เพื่อทำความเข้าใจผลของการพิจารณาคดี และหาทางที่เหมาะสมที่สุดในการบอกเรื่องราวของเรา"
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ออกเอกสารประชาสัมพันธ์เรื่องขอให้เพิ่มความระมัดระวัง ตามที่ศาลจังหวัดเกาะสมุยมีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิตนายซอลิน และนายวิน ซอ ทุน แรงงานชาวเมียนมา ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ และน.ส.ฮานนาห์ วิกตอเรีย นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ส่งผลให้เกิดกระแสการต่อต้านคำตัดสินดังกล่าว โดยเฉพาะทางด้านสังคมออนไลน์ และมีการนัดหมายชุมนุมประท้วงบริเวณหน้าสถานเอกอัครราช ทูตในวันที่ 25 ต.ค. ในการนี้เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน สถานเอกอัครราชทูตจึงขอให้ทุกท่านเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางในช่วงนี้เป็นพิเศษ และหลีกเลี่ยงการแสดงตัวเป็นคนไทยในที่สาธารณะโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตจะแจ้งพัฒนาการของเหตุการณ์ให้ทุกท่านทราบเป็นระยะ
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. มีประชาชนเมียนมาประมาณ 30 คนรวมตัวประท้วงหน้าสถานทูตไทย กรณีการตัดสินคดีที่เกาะเต่า โดยชุมนุมนาน 1 ช.ม.ก่อนทยอยสลายตัวไปโดยสงบ ทั้งนี้สถานทูตไทยได้แจ้งเตือนชุมชนชาวไทยในเมียนมาติดตามข่าวสารและเพิ่มความระมัดระวังแล้ว ขณะที่ทางการเมียนมาได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่มารักษาการณ์หน้าสถานทูตไทยประมาณ 15-20 นาย อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าคนไทยในเมียนมาได้รับผลกระทบ