- Details
- Category: อาชญากรรม
- Published: Monday, 09 November 2015 12:15
- Hits: 10462
แจ้งจับแล้วร่วมทีมหยอง พ.อ.คชาชาต 'เสธ.โจ้'ผิดคดีม.112 แอบอ้างรีด 2 เอกชน เร่งพม่าส่งกลับไทย พบอีกพิรุธ'ราชภักดิ์'ปลูกปาล์มต้นละแสน ค่าโต๊ะจีน 5 แสน- 1 ล.
คสช.แจ้งความแล้ว'พ.อ.คชาชาต บุญดี'หรือ เสธ.โจ้ ร่วม 'หยอง' อ้างเบื้องสูงเรียกเงิน'ซีพี-คิงเพาเวอร์' ส่วนกรณีอุทยาน ราชภักดิ์พบพิรุธอีก ทั้งปลูกปาล์มต้นละแสน ค่าโต๊ะจีนคนละ 5 แสนถึง 1 ล้าน ด้านกองทัพบกแจง ยังไม่ได้รับโอนอุทยานราชภักดิ์ เนื่องจากพิพิธภัณฑ์ยังไม่เสร็จ ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์
วันที่ 09 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9112 ข่าวสดรายวัน
ผู้ต้องหาใหม่ - พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือเสธ.โจ้ (ภาพซ้าย) นายทหารที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีกับบก.ป. เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ฐานร่วมกับ "หมอหยอง" แอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ จาก 2 งานกิจกรรมสำคัญ ตามข่าว
จากคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ที่คณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการขยายผลการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหาที่เหลือ ซึ่งจากการสอบปากคำนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ผู้ต้องหาคนสำคัญของคดี ได้พาดพิงถึงนายทหารยศพล.ต.และพ.อ.ว่าเข้ามามีส่วนพัวพันด้วย
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ย. รายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา พล.ต. วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสุริยันและพวก เพิ่มเติมอีก 2 คดี สำหรับทั้ง 2 คดี ที่มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม เป็นพฤติกรรมเดียวกัน แต่ต่างกรรมต่างวาระ
โดยคดีแรก เลขคดี113/2558 ผู้กล่าวหา คือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง อายุ 55 ปี ผอ.ส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว คสช. ได้พบพนักงานสอบสวนบก.ป. เพื่อ ร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และพ.อ.คชาชาต หรือโจ้ บุญดี ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือในความผิดฐานอื่นที่พบภายหลัง
วันเผ่น - กล้องตม.จุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก จับภาพพ.อ.คชาชาต บุญดี หรือเสธ.โจ้ เดินทางออกนอกประเทศไปยังเมืองเมียวดี ประเทศพม่า เมื่อเวลา 06.35 น. วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดคสช.แจ้งความดำเนินคดีกับพ.อ.คชาชาต ฐานแอบอ้างเบื้องสูงแล้ว |
สำหรับ พฤติการณ์คือนายสุริยันและพวกได้แอบอ้างเบื้องสูง ในการดำเนินการกิจกรรมสำคัญที่ได้จัดขึ้นไปแล้ว เหตุเกิดกรม ทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน และบริษัท ซีพีออลล์ แขวงสีลม เขตบางรัก เมื่อปลายเดือนพ.ค.-6ส.ค. 2558
ส่วนคดีที่สอง เลขคดี114/2558 ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง อายุ 55 ปี ผอ.ส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว คสช. ได้พบพนักงานสอบสวนบก.ป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และพ.อ.คชาชาต หรือโจ้ บุญดี ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือในความผิดฐานอื่นที่พบภายหลัง
พฤติการณ์ คือนายสุริยันและพวกได้ แอบอ้างเบื้องสูง ในการดำเนินการกิจกรรมสำคัญที่กำลังจะจัดขึ้น เหตุเกิดบริษัทคิง เพาเวอร์ จำกัด ถ.ซอยรางน้ำ แขวงพญาไท เขตราชเทวี เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2558
สำหรับพ.อ.คชาชาต หรือโจ้ บุญดี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายทหารฝ่ายเสนา ธิการ ประจำกองทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยผ่านทางด่านตม.แม่สอดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. และไม่ได้กลับมาทำงานที่กองทัพภาคที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. ขณะที่คณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือจากคณะกรรมการชายแดนไทย อ.ผาซอง จ.บอลาแคะ รัฐคะยา ประเทศเมียนมา ให้ช่วยติดตามและนำตัวพ.อ.คชาชาตส่งกลับทางการไทย ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้ว
รายงานข่าวจากชุดสืบสวนแจ้งว่า ในช่วงที่จัดเตรียมกิจกรรมสำคัญ ได้มีการนำเสื้อกิจกรรมสำคัญมาส่งที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง โดยมีนายทหารยศ พล.ต.และพ.อ.เกณฑ์กำลังพลในค่าย มาบรรจุเสื้อกิจกรรมสำคัญหลายหมื่นตัวภายในค่ายทหาร ซึ่งเหตุที่ใช้สถานที่ดังกล่าวแพ็กเสื้อเพราะว่า พล.ต.มีตำแหน่งคุมค่ายทหารดังกล่าว จากการสืบสวนยังทราบด้วยว่าเสื้อที่นำมาใช้ในกิจกรรมสำคัญนั้นมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ตัวละ 140 บาท แต่กลับเสนอราคาให้กับหน่วยงานเอกชน ที่ไปขอรับการสนับสนุนทางการเงิน เกินจากราคาจริง ถึงตัวละ 280 บาท
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ส่วนเรื่องตรวจสอบปมทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น เบื้องต้นพบว่า นอกจากข้อพิรุธเรื่องการก่อสร้าง และหล่อรูปบูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์แล้ว ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยมีพฤติกรรมเจตนาทุจริต คือเรื่องราคาต้นปาล์มที่ถูกนำมาปลูกประดับในพื้นที่ของอุทยาน ซึ่งทราบว่ามีราคาที่สูงเกินจริง คือต้นละ 1 แสนบาท นอกจากนี้ยังทราบด้วยในงาน วันเปิดตัวอุทยาน ที่มีการจัดงานเลี้ยงด้วย โดยทราบอีกว่าผู้ที่เข้าร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว จะต้องจ่ายค่าที่นั่งในการเข้าร่วมงานเลี้ยง ถึงคนละ 5 แสนบาท และหากเป็นโต๊ะวีไอพี จะมีราคาถึงที่นั่งละ 1 ล้านบาทอีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจากการ จัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ที่พบความผิดปกติแล้ว พบว่ายังมีกรณี ราชภักดิ์ ไบค์ แอนด์ คอนเสิร์ต ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมาด้วย โดยทางชุดคลี่คลายคดีกำลังได้รวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องจำหน่ายโต๊ะจีนที่มีราคาสูงมาก ซึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวบข้อมูล
แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงจากกอง ทัพบก เปิดเผยถึงกรณีอุทยานราชภักดิ์ว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ยังไม่ได้มีการสั่งการใดๆ เป็นพิเศษในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้ประสานขอข้อมูลมาแต่อย่างใด ทั้งนี้โครงการดังกล่าวถือว่าในขณะนี้ยังไม่ได้อยู่ในความดูแลของกองทัพบก แต่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ที่มีพล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีตผบ.ทบ. เป็นประธานมูลนิธิ เพราะทางมูลนิธิยังไม่ได้ส่งมอบอุทยานดังกล่าวให้กับกองทัพบกเป็นผู้ดูแล เนื่องจากการจัดสร้างยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ ที่ยังไม่แล้วเสร็จตามเกณฑ์
'คชาชาต'ร่วมหยองหมิ่น แจ้งจับพ.อ. แอบอ้างหาผลประโยชน์ เรียกรับจาก 2 บ.ยักษ์ เซียนพระอ.อยู่ฮ่องกง เล็งขอสอบปมอุทยาน มัดก๊วน'กินส่วนแบ่ง'โผล่อีกโก่งค่าโต๊ะจีน
'ปนัดดา'โพสต์เฟซบุ๊กเตือนกลั่นกรองเสนอข่าวคดีหมิ่น ชี้ไม่เป็นผลดีต่อบรรยากาศสร้างความปรองดอง พบอีก'ไบค์ฟอร์ราชภักดิ์' ตั้งราคา'โต๊ะจีน-ปลูกต้นไม้'สูงผิดปกติ
- มติชนออนไลน์ :
ความคืบหน้าการจับกุมนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง อายุ 53 ปี นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท อายุ 39 ปี เลขาฯหมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด อายุ 44 ปี ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อมา พ.ต.ต.ปรากรมเกิดความเครียดและผูกคอตาย ขณะที่นายศุกร์โข ตามเสรี หรือเค คนสนิท พ.ต.ต.ปรากรม ถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืน ส่วน พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ อดีตที่ปรึกษา (สบ 10) ซึ่งสนิทสนมกับกลุ่มผู้ต้องหา ลาออกจากราชการไปแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวมีนายทหารยศ พล.ต.ที่ถูกพาดพิงยื่นหนังสือลาออก และ พ.อ.เดินทางข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุด ชุดสืบสวนตรวจสอบทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่อาจมีบุคคลหลายฝ่ายเข้าไปเกี่ยวข้องกับค่าส่วนต่างนั้น
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ความในใจของข้าพเจ้า ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ไม่อยากให้มีการให้ข่าวหรือนำเสนอข่าวที่ยังขาดการกลั่นกรองรอบคอบหรือเป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่เป็นการนำข่าวลือมาพูดจนกระทั่งเป็นข่าว ทั้งเรื่อง มาตรา 112 ที่ภาคราชการต้องให้ความเคารพและดำรงรักษาพระเกียรติยศถวายฯ เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชนชาวไทย แต่ไม่ใช่ก่อให้เกิดความแบ่งแยกหรือแตกแยก ด้วยการที่ภาคราชการควรต้องพิจารณาการให้ประชาชนสามารถบริโภคข่าวสารอย่างมีคุณภาพที่ผ่านการกลั่นกรองอย่างรอบคอบและมีมูลความจริง สิ่งใดควรเป็นข่าวหรือจำเป็นต้องให้ข่าว รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน อาทิ เรื่องอุทยานราชภักดิ์ที่กำลังปรากฏเป็นข่าวทั้งที่ประชาชนกำลังให้ความนิยมชมชอบ ไปท่องเที่ยวทัศนศึกษากันเป็นจำนวนมากมายในแต่ละวันด้วยความภาคภูมิใจ"
ม.ล.ปนัดดาระบุด้วยว่า ข่าวที่ปรากฏวันนี้โยงทหาร พรุ่งนี้โยงตำรวจ เดี๋ยวมีพลเรือนและภาคเอกชน เดี๋ยวนายทหารจำนวน 50 คน เดี๋ยวคนโน้นลาออก ไม่ลาออก เดี๋ยวมีเรียกค่าคอมมิสชั่น เกี่ยวพันกับใครต่อใครมากมายได้ทุกวันทุกเวลา จนกระทั่งประชาชนสะท้อนกลับมาว่าไม่ควรเป็นการให้ข่าวในลักษณะนี้ ที่ทำให้สังคมมีความทุกข์และสับสนกับข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน ย่อมไม่เป็นผลดีต่อบรรยากาศการสร้างความปรองดองและความรักสมัครสมานของทางราชการและทุกๆ ฝ่าย ที่ชาวไทยทุกคนต่างพร้อมใจกันเข้าร่วมกิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา และปั่นเพื่อพ่อ ที่กำลังจะมาถึงด้วยความจงรักภักดี ข้าราชการมีหน้าที่ช่วยสร้างเสริมบรรยากาศอันดีให้เกิดขึ้น พี่น้องประชาชนมีความสุขในวันอันมีความหมายยิ่งต่อชนชาติไทย
ขณะที่แหล่งข่าวจากชุดสอบสวนกรณีก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่มีการหล่อองค์พระบรมรูปทั้ง 7 พระองค์ โดยพบว่ามาจากโรงหล่อ 6 โรง ดังนี้ 1.พ่อขุนรามคำแหงมหาราช โรงหล่อ ซอยปฏิมากรรม อินดัสตรี จำกัด จ.นครปฐม 2.สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3.พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงหล่อ เอเชีย ไฟน์ อาร์ท จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา 4.สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โรงหล่อ ร็อคคลา ไฟน์อาร์ท จำกัด จ.ลพบุรี 5.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โรงหล่อ ปฏิมาไฟน์อาร์ท (พุทธรังษี) จำกัด จ.ปทุมธานี 6.พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โรงหล่อ พุทธปฏิมา พรหมรังสี จำกัด จ.ปทุมธานี และ 7.พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงหล่อ โผนปฏิมากรรมสากล จำกัด กทม.นั้น จากการสอบปากคำผู้ประกอบกิจการโรงหล่อบางแห่ง 2-3 ปาก ทราบข้อมูลว่ามีบุคคลที่อยู่ในวงการพระเครื่อง หรือเซียนพระ อ. มาติดต่อว่าจ้างโรงหล่อทำการหล่อองค์พระบรมรูปทั้ง 7 พระองค์ 6 โรงหล่อ โดยการสืบสวนสอบสวนพบว่าเซียนพระ อ. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับค่าหัวคิวและขณะนี้เดินทางไปประเทศฮ่องกงโดยเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวมาสอบปากคำหลังจากเดินทางกลับมา อย่างไรก็ดี จากการสืบสวนพบว่ามีทหารคนหนึ่งเป็นคนชักค่าหัวคิวรวมทั้งหมด 20-30 ล้านบาท
โดยชุดสอบสวนกำลังตรวจสอบบัญชีธนาคารของบุคคลดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่ามีความเชื่อมโยงกับการทุจริต โดยนำเงินที่ได้จากค่าหัวคิวแล้ว โอนไปยังหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งเพื่อเป็นการอำพราง และจะสอบปากคำต่อไป
แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงจากกองทัพบก (ทบ.) เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของ ทบ.ภายหลังจากกรณีที่มีรายงานข่าวจากชุดคลี่คลายคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงพบข้อมูลเพิ่มเติมว่าพบความผิดปกติเกี่ยวกับโครงการอุทยานราชภักดิ์ ที่กองทัพบกดำเนินการจัดสร้างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ว่า ทาง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยังไม่ได้สั่งการใดๆ เป็นพิเศษในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งทางตำรวจและพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ประสานขอข้อมูลมาแต่อย่างใด ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือว่าในขณะนี้ยังไม่ได้อยู่ในความดูแลของกองทัพบก แต่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ที่มี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และอดีต ผบ.ทบ. เป็นประธานมูลนิธิ เพราะทางมูลนิธิยังไม่ได้ส่งมอบอุทยานดังกล่าวให้กับกองทัพบกเป็นผู้ดูแล เนื่องจากการดำเนินการจัดสร้างยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ที่ยังไม่แล้วเสร็จตามเกณฑ์
ข่าวแจ้งว่า นอกจากการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ที่พบความผิดปกติแล้ว ยังมีกรณีกิจกรรมสำคัญ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมาด้วย โดยทางชุดคลี่คลายคดีกำลังรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องจำหน่ายโต๊ะจีนที่มีราคาสูงมาก ประกอบกับกิจกรรมปลูกต้นไม้ในบริเวณอุทยานราชภักดิ์ที่ผู้เข้ามาร่วมต้องสนับสนุนเงินในราคาที่สูงมากเช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล
รายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง และพวก เพิ่มเติมอีก 2 คดี ที่มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม เป็นพฤติกรรมเดียวกัน แต่ต่างกรรมต่างวาระ คดีแรกผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผอ.ส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว คสช. ได้พบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุริยัน นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และ พ.อ.คชาชาต หรือโจ้ บุญดี ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือในความผิดฐานอื่นที่พบภายหลัง
สำหรับ พฤติการณ์คือ นายสุริยันและพวกได้แอบอ้างเบื้องสูงในการดำเนินการกิจกรรมสำคัญได้จัดขึ้นไปแล้ว เหตุเกิดกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน และบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง เมื่อปลายเดือน พ.ค.-6 ส.ค.2558
ส่วนคดีที่สอง ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง อายุ 55 ปี ผอ.ส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว คสช. ได้พบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุริยัน นายจิรวงศ์ และ พ.อ.คชาชาต ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือในความผิดฐานอื่นที่พบภายหลัง พฤติการณ์คือ นายสุริยันและพวกได้แอบอ้างเบื้องสูงในการดำเนินการกิจกรรมสำคัญที่กำลังจะจัดขึ้น เหตุเกิดที่บริษัทยักษ์ใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2558
สำหรับ พ.อ.คชาชาต หรือโจ้ บุญดี ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยผ่านทางด่าน ตม.แม่สอดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. และไม่ได้กลับมาทำงานที่กองทัพภาคที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. ขณะที่คณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาได้ทำหนังสือขอความร่วมมือจากคณะกรรมการชายแดนไทย อ.ผาซอง จ.บอลาแคะ รัฐคะยา ประเทศเมียนมา ให้ช่วยติดตามและนำตัว พ.อ.คชาชาตส่งกลับทางการไทย