- Details
- Category: อาชญากรรม
- Published: Friday, 04 September 2015 12:22
- Hits: 9954
ค้นอีกจุด-มีนบุรี ควานต่อ เสื้อเหลืองไม่ใช่ยูซุฟู ผลพยานหลักฐานระบุ แต่ยันร่วมทีมบึ้มแน่! ทูตตุรกีจี้ไทยพูดให้ชัด คนร้ายถือสัญชาติอะไร
ผลตรวจพยานหลักฐานระบุ 'ยูซุฟู'ไม่ใช่ชายเสื้อเหลืองที่วาง บึ้มราชประสงค์ แต่เป็นตัวการสำคัญร่วมทีมบึ้มแน่ เพราะดีเอ็นเอกับลายนิ้วมืออยู่ในห้องที่ทำระเบิด จึงถูกหมายจับพกพาอาวุธระเบิดด้วย ตร.บุกค้นอีกจุด บ้านเช่าย่านมีนบุรี เจอขวดสารเคมี 7 ขวดส่งตรวจสอบว่าเกี่ยวพันกับแก๊งวางระเบิดกลางกรุงหรือไม่ โดยบ้านหลังดังกล่าวถูกเช่าโดย'วรรณา' ขณะที่เจ้าตัวเตรียมประสานตร.ขอเข้ามอบตัว ผบ.ตร.ยังย้ำสาเหตุเกิดจากพวกเสียประโยชน์ ยังไม่เข้าข่ายก่อการร้าย ด้านสถานทูตตุรกีแถลงชี้รัฐบาลไทยระบุให้ชัดเจนว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมเป็นสัญชาติอะไรกันแน่ ยันอะเด็มที่ถูกจับในอพาร์ตเมนต์หนองจอกไม่ใช่คนตุรกีแน่ บิ๊กตู่ยันไม่ต้องหารือจีนเรื่องอุยกูร์ รับจับหนุ่มนราฯ ลั่นหากโยงถึงไหนก็จับไปเรื่อย ขณะการข่าวระบุหนุ่มนราฯน่าเกี่ยวพันกับขบวนการขนคน
วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9046 ข่าวสดรายวัน
ค้นอีก - ตร.เข้าค้นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีชาวต่างชาติเข้าออก ในหมู่บ้านขุมทรัพย์แลนด์ ซอยราษฎร์อุทิศ 34 เขตมีนบุรี กทม. พบขวดสารเคมีจำนวนมาก ขณะที่ศาลออกหมายจับนายยูซุฟู มีไรลี ชายต่างชาติที่ถูกคุมตัวก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ย.
ยันไม่หารือจีนเรื่องอุยกูร์
จากกรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่ศาลพระพรหม สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและต่างประเทศ 20 ศพ ต่อด้วยการวางระเบิดที่ท่าเรือสาทร ใต้สะพานตากสิน ซึ่งเจ้าหน้าที่บุกค้นอพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก ควบคุมตัวนายอะเด็ม คาราแด็ก พร้อมของกลางอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก ต่อด้วยจับกุมนายยูซุฟู มีตำหนิคางเผือกได้ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ระหว่างตรวจสอบดีเอ็นเอว่าเป็นชายเสื้อเหลืองที่วางระเบิดหรือไม่ พร้อมกับออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 5 ราย รวม ทั้งหมด 8 ราย ตามที่ข่าวสดเสนอไปก่อน หน้านี้
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เดินทางไปประเทศจีน ว่า ไม่ได้มอบหมายให้ไปพูดคุยเรื่องอุยกูร์ พล.อ. ประวิตร ก็บอกแล้วว่าจะไม่คุย หากเขาไม่คุย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจีน เป็นปัญหาของบ้านเรา บางเรื่องอาจเป็นปัญหาระหว่างประเทศก็จะพูดแต่คนที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคย พูดว่าเป็นคนพวกไหน การจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ ก็ดูตามพาสปอร์ต ต้องพิสูจน์สัญชาติก่อน ประเทศต้นทางต้องมาชี้แจงว่าพาสปอร์ตใช่หรือไม่ใช่ ถ้าใช่ออกมาได้อย่างไร ถ้าพาสปอร์ต ถูกต้องก็ไม่ผิด แต่อย่างไรก็ผิดเรื่องหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพราะตรงกับที่แฟลตที่จับกุมได้ ทำไมต้องพูดให้เดือดร้อนกันจากนี้ต้องสอบต่อไปว่าใครเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ว่าประเทศ กับประเทศมีปัญหากัน
รับจับหนุ่มนราฯโยงบึ้ม
เมื่อถามว่า จีนให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุยกูร์บ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ได้ให้อะไร เพราะไม่ได้เกี่ยวกับเขา เมื่อถามต่อว่าอุยกูร์บางกลุ่มอาจเคยเคลื่อนไหวในประเทศจีน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าเป็นอุยกูร์ที่ไหน ส่วนการจับกุมผู้ต้อง สงสัยคนที่ 3 ที่จ.นราธิวาส นั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ก็จับมา โยงคนไหนก็จะจับเรื่อยๆ
เมื่อถามถึงกรณีที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) บอกว่าจะมีการปรับโครงสร้างความมั่นคง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การปรับปรุงอุปกรณ์เทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง ไม่ถือว่าเป็นการปรับโครงสร้าง เป็น การพัฒนา ถ้าปรับโครงสร้างความมั่นคงคือการยุบสมช.ตั้งกระทรวง แค่นี้เป็นการพัฒนาเครื่องมือว่าสมบูรณ์หรือยัง ที่ผ่านมาเป็นเบี้ยหัวแตก แต่ไปเสียในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องไม่บ่น ส่วนเครื่องมือพอจะซื้อก็บอกแพง โกง ทุจริต แต่วันนี้กลับพูดว่าทำไมไม่ทันสมัย ส่วนเรื่อง บูรณาการงานด้านความมั่นคงนั้น ตนทำมา สองปีแล้ว สั่งคนเดียวให้มีเอกภาพ
คสช.ขออย่าชี้นำคดี
ที่ศูนย์ติดตามสถานการณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. แถลงว่า การติดตามสืบสวนคดี มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สวนของตำรวจ อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวไว้ 2 ราย คือ นายอาเด็ม คาราแด็ก ซึ่งถูกจับได้ที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ เขตหนองจอก เมื่อวันที่ 29 ส.ค. และนาย ยูซุฟู มีไรลี ซึ่งถูกจับได้ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 1 ก.ย. จากผลการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยและพยานบุคคลต่างๆ ประกอบกับภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องสงสัยได้ รวมทั้งสิ้น 8 หมาย
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ปัจจุบันเริ่มมีความคิดเห็นที่มีมาอย่างหลากหลาย อาจเป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคลไม่อยากให้มีความคิดเห็นใน เชิงชี้นำ ที่จะไปสู่ความสับสนต่อการรับรู้ ของสังคมได้ ชุดเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในคดีนี้ ประกอบด้วยผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง และเป็นบุคคลที่มีความสามารถ ประกอบกับความพยายามในการคลี่คลายคดีด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวน เพื่อวิเคราะห์และค้นหาถึงมูลเหตุจูงใจ เครือข่ายขบวนการในครั้งนี้ต่อไป
นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้รายงานให้ทราบว่า จากผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งในเรื่องของการติดตามจับกุมคนร้าย และการดูแลช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และญาติของผู้เสียชีวิต รวมทั้งมาตรการรองรับเหตุฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ทั้งนี้เชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้ จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้คือประมาณ 29 ล้านคน
สำหรับ ในเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัย นอกเหนือไปจากการวางกำลังของเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งการเพิ่มความเข้มงวด ในการผ่านเข้าออกตามแนวชายแดน ท่าอากาศ ยาน รวมทั้งท่าเรือต่างๆ แล้วอย่างไรก็ตาม เพื่อลดช่องว่าง ในการรักษาความปลอดภัยและสนับสนุนข้อมูลข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย ขอให้รีบแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ และท่าเรือสาทร แจ้งผ่านหมายเลข 1515 ได้ตลอดเวลา
จ่ายแน่ - นายสมหวัง อัสราษี แกนนำ นปช. โชว์เงินสด 2 ล้านบาท ที่เตรียมไว้เป็นรางวัลนำจับคนร้ายคดีวางระเบิดศาลพระพรหม ราชประสงค์ โดยยืนยันจ่ายแน่แต่ขอให้คดีได้ข้อสรุปว่าเป็นคนร้ายแท้จริง เมื่อวันที่ 3 ก.ย. |
บิ๊กอ๊อด ยันปมเสียผลประโยชน์
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่าชุดสืบสวนสอบสวนกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อว่าการก่อเหตุรุนแรงเช่นนี้เริ่มมาจากความขัดแย้งหรือการเสียผลประโยชน์มหาศาลของกลุ่มคนที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย คล้ายๆกับคดีอาชญากรรมทั่วไปที่มักเกิดขึ้นจากความขัดแย้งเช่นเดียว กัน โดยตัวเขาเองอาจไม่ใช่เป็นผู้ลงมือเอง แต่อาจไปจัดหาคนมาลงมือก่อเหตุก็เป็นไปได้ มองว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลมาจากการที่กลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ที่มีผลประโยชน์ จำนวนมหาศาลอยู่แล้วถูกทำลายไป แต่ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ให้น้ำหนักประเด็นใดเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจมีกลุ่มอื่นที่ต้องการใช้สถานการณ์ความขัดแย้งนี้เพื่อลงมือก่อเหตุโดยหวังให้เข้าใจไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความ ขัดแย้งประเด็นนี้ แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นเพราะอีกเหตุผลหนึ่งก็เป็นไปได้ มันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น อย่างไรก็ดีต้องมีการสืบสวนสอบ สวนขยายผลต่อไปจนถึงที่สุด
สั่งตม.ทั่วปท.เข้มด่านชายแดน
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า จากนี้ทางฝ่ายจเรตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการสอบ สวนเพื่อหาสาเหตุของการบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตม.ทั้ง 6 คน หากการสอบสวนพบว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจหรือได้รับผลประโยชน์ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ในเบื้องต้นการปล่อยปละละเลยจนกระทั่งมีการเข้า-ออก ของชาวต่างชาติที่ผิดกฎหมายก็ต้องเรียกมาช่วยราชการดังกล่าว ทั้งนี้ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับว่าหากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หรือปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่จนกระทั่งได้รับผลประโยชน์ ร่วมด้วยต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด และตนจะได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ทั่วประเทศมาประชุมกำชับวางแนวทางการปฏิบัติหน้าที่กันใหม่ทั้งหมดในเร็วๆ นี้
ย้ำยังไม่เข้าข่ายก่อการร้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสุดท้ายแล้วการก่อเหตุครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของชาวอุยกูร์ ตำรวจจะต้องจัดระเบียบเช่นเดียวกับกรณีชาวโรฮิงยาหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่าแน่นอน จะต้องมีการดำเนินการอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ หากพบว่ามีข้อมูลเกี่ยวข้องชัดเจนว่าชาวต่างชาติที่หลบหนีเข้าเมืองกลุ่มดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเหตุ การณ์นี้ แต่ไม่ใช่เพียงผู้อพยพชาวกุยกูร์เท่านั้น แต่ที่ด่านจ.สระแก้ว ยังมีทั้งชาวโรฮิงยาและแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการเช่นกัน และก็ไม่ได้เฉพาะเจาะจงลงไปที่จ.สระแก้ว เท่านั้น แต่จากนี้ด่านตรวจทุกจุดทุกด่านจะต้องกลับมาอยู่ในกรอบ ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องแข็งขันและซื่อสัตย์สุจริต ถ้ายังดื้อดึงขัดขืนดื้อรั้นก็ต้องมีมาตรการในการดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะมันกระทบต่อการที่สหรัฐจัดอันดับให้ไทยอยู่ในอันดับเทียร์ 3 เรื่องปัญหาการค้ามนุษย์ และยังกระทบต่อการค้าขายกับต่างชาติอีกด้วย ที่ผ่านมาผมได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องผิดกฎหมายเหล่านี้อยู่ตลอด และจากนี้ถ้าพบว่ามีข้อมูลยืนยันได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็จำเป็นต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดเช่นเดียวกับกรณีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจ.สระแก้ว ต่อไป
เมื่อถามว่า จากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เข้าข่ายความผิดข้อหาก่อการร้ายหรือยัง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ข้อหาก่อการร้ายนั้นมีอยู่หลายองค์ประกอบ ซึ่งเรื่องนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนกำลังปฏิบัติงานอยู่ และหากเข้าข่ายองค์ประกอบข้อหา เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งข้อกล่าวหานี้แก่ผู้ต้องหากลุ่มนี้แน่นอน ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาหลักแก่คนกลุ่มนี้ มีแต่ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ที่หนองจอก ที่มีข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง
เผยวรรณาเตรียมขอมอบตัว
เมื่อถามถึงการประสานขอตัวน.ส.วรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาตามหมายจับ พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร. กล่าวว่า จากนี้ทางตำรวจจะขอความช่วยเหลือจากการบิน ไทยในการรับส่งน.ส.วรรณากลับประเทศไทย แต่ขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่าอยู่ประเทศใด เนื่อง จากยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการที่แน่ ชัด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนซักถามผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมไว้ได้ ก่อนจะนำตัวมาส่งให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานกับตำรวจสากลเพื่อติด ตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการแจ้งข้อมูลกลับมาแต่อย่างใด ทั้งนี้ขอยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ขอให้ศาลออกหมายจับนั้นเป็นบุคคลถูกกลุ่มถูกตัวอย่างแน่นอน เพราะมีพยานหลักฐานยืนยันได้ทั้งหมด เพียงแต่ต้องรอว่าจะสามารถจับกุมตัวได้เมื่อใดเท่านั้น
ระบุชายนราฯเชื่อมค้ามนุษย์
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำนายยูซุฟู ให้การว่า ในวันและเวลาเกิดเหตุไปเดินเล่นอยู่ที่บริเวณเซ็นทรัลเวิลด์จริง แต่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวจับภาพนายยูซุฟูไว้ได้หรือไม่ ซึ่งตามพยานหลักฐานที่เป็นวัสดุประกอบระเบิดที่ค้นได้ในห้องพัก พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ของนายยูซุฟู และนาย อะเด็ม สามารถชี้ชัดได้แล้วว่าทั้งสองต้องมีส่วนรู้เห็นในการระเบิดครั้งนี้ เช่นเดียวกับ น.ส.วรรณา สวนสัน และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ที่เป็นคนมาเปิดห้องเช่าให้ผู้ต้องสงสัยทั้งสองรายพัก ก็ต้องมีส่วนรู้เห็นเช่นกัน โดยช่วงเย็นเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ตำรวจนำพยานมาชี้ยืนยันว่านายยูซุฟู พักอาศัยอยู่ที่ห้อง 414 พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ จริง ซึ่งตรงกับลายนิ้วมือบนหลักฐานที่พบในห้องดังกล่าวด้วย
เสร็จแล้ว - ประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่สักการะพระพรหมเอราวัณ หลังช่างกรมศิลป์ดำเนินการซ่อมแซมจากเหตุถูกสะเก็ดระเบิดเสียหาย จนกลับมาสวยงามเหมือนเดิม พร้อมทำพิธีบวงสรวงครั้งใหญ่ |
สำหรับ กระแสข่าวว่าสามารถจับชายไทย สัญชาติไทย ที่ จ.นราธิวาส และมีส่วนเกี่ยว ข้องกับ น.ส.วรรณา หรือไม่นั้น ชายคนดังกล่าวถูกทหารควบคุมตัวได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 1 ก.ย. จากการสอบปากคำเบื้องต้นยังไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด เป็นเพียงคนที่เกี่ยวข้องกับการพาคนออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย และเคยติดต่อกับ น.ส.วรรณา เพราะเป็นชาว อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สามารถออกไปประเทศ มาเลเซียได้ นอกจากนี้พบหลักฐานว่า น.ส. วรรณา เคยเดินทางไปประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันคือชายคนดังกล่าวช่วยเหลือน.ส.วรรณา ในการเดินทางไปประเทศ มาเลเซีย เท่านั้น ทั้งนี้น่าเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายต้องรู้จักกับกลุ่มคนพื้นที่ใน 3 จังหวัดชาย แดนภาคใต้ และช่วยเหลือการลำเลียงคนผ่านเส้นทาง 3 จังหวัดเพื่อไปประเทศมาเลเซีย
ชี้'ฝักแค'จุดบึ้มมาจากมาเลย์
มีรายงานอีกว่า กลุ่มคนร้ายมีความเชื่อมโยงกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในคดีระเบิดทั้ง 2 แห่ง เพราะเชื้อปะทุและฝักแคที่ใช้จุดชนวนระเบิด จากการตรวจสอบพบว่าฝักแคจะใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และโรงโม่ ซึ่งจะมีการแบ่งแยกสีออกเป็นสีต่างๆ เพราะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการหน่วงเวลา หมายความว่า เช่น ฝักแคยาว 1 ฟุต อาจจะหน่วงเวลาไม่เท่ากัน ส่วนฝักแคสีชมพูที่พบในที่เกิดเหตุ ไม่มีขายทั่วไปในประเทศไทย แต่มีขายในประเทศมาเลเซีย เพราะเป็นยุทธภัณฑ์ที่ราชการไม่อนุญาตให้มีไว้ในความ ครอบครอง แต่ปรากฏว่าพบหลักฐานเมื่อ ปี 2551 และ 2553 เคยใช้ก่อเหตุวางระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บริเวณ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส วัตถุพยานที่เกิดเหตุที่พบเป็นชิ้นส่วนเกี่ยวข้องกับระเบิดตรงกับที่เกิดเหตุบริเวณท่าเรือสาทร อย่างไรก็ตามต้องไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่าคนร้ายจุดชวนระเบิดด้วยวิธีใด เพราะในที่เกิดเหตุไม่เจอหลักฐานตัวจุดชนวน แต่ตอนที่ไปค้นห้องพักเจอนาฬิกาดิจิตอลและรถบังคับวิทยุขนาดเล็ก จึงน่าเชื่อว่าคนร้ายอาจจุดชนวนจากการตั้งเวลาด้วยนาฬิกา
ออกหมายจับ'ยูซุฟู'แล้ว
ส่วนที่มีการไปตรวจค้นอาคารสูง 9 ชั้นย่านรามคำแหง เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากนายยูซุฟู ให้การว่าเดินทางเข้าออกประเทศไทยมาปีกว่า เคยขายโทรศัพท์มือถืออยู่ที่อาคารดังกล่าว และยังมีเพื่อนที่รู้จักกันอีกหลายคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจสอบโดยคาดว่าอาจมีกลุ่มคนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่ นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังได้เชิญพยานซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่สีเขียว-เหลือง อีก 1 คนมาจากบุรีรัมย์ มาให้ปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่าเป็นผู้รับส่งกลุ่มผู้ต้องหาจากห้องพักย่านหนองจอก พร้อมทั้งขนปุ๋ยยูเรียไปส่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ต่อมาเวลา 13.00 น. มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนสน.หนองจอก ขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับนายไมไรลี ยูซุฟู เชื้อชาติจีน สัญชาติจีน เลขหมายจับที่ จ.813/2558 ลงวันที่ 3 ก.ย. 58 ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับนาย ไมไรลี ยูซุฟู เชื้อชาติจีน สัญชาติจีน อายุ 26 ปี ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ครอบครอง โดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้นายยูซุฟูคือผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถควบคุมตัวได้ที่บริเวณด่านตรวจบ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะกำลังเดินทางออกนอกประเทศ
ยันไม่ใช่ชายเสื้อเหลือง
รายงานข่าวแจ้งว่า การออกหมายจับครั้งนี้เป็นไปตามคำให้การของพยานบุคคล และพยานหลักฐานที่ตรวจพบที่ห้องพักเลขที่ 414 พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก รวมทั้งจากผลตรวจดีเอ็นเอลายนิ้วมือแฝงบนถังบรรจุอุปกรณ์ในการก่อเหตุระเบิดซึ่งพบในห้องดังกล่าว จากข้อมูลของตำรวจคิดว่าชายคนนี้ไม่ใช่ชายเสื้อเหลืองที่นำระเบิดไปวางในที่เกิดเหตุแยกราชประสงค์ แต่อาจทำหน้าที่เกี่ยวกับวัตถุระเบิดอยู่ในขบวนการนี้ โดยการออกหมายจับครั้งนี้ยึดตามพาสปอร์ตที่ติดตัวเขา โดยระบุสัญชาติจีน อยู่ที่เมืองซินเจียง ขณะนี้ได้ส่งพาสปอร์ตส่งให้ทางการจีนตรวจสอบเพื่อยืนยันอีกครั้ง ขณะที่ชายคนดังกล่าวสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย ประกอบ กับภาษาท้องถิ่นซึ่งไม่ทราบว่าเป็นภาษาใด
ค้นบ้านเช่ามีนบุรี-เจอสารเคมี
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวถึงกรณีการตรวจค้นบ้านเช่าที่ราชอุทิศ 34 ย่านมีนบุรี ว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า น.ส.วรรณาเป็นผู้ทำสัญญาเช่าบ้านหลังกล่าวดังกล่าวเอาไว้ โดยพบว่ามีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดแวะเวียนเข้าออกอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเข้าไปค้นก็พบวัตถุต้องสงสัย เป็นแกลลอนบรรจุสารเคมีบางอย่าง ซึ่งเป็นของเหลวที่อาจใช้ผลิตระเบิดได้ โดยขณะนี้ได้ประสานให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่าสารเคมีดังกล่าวเป็นสารที่ใช้ผลิตระเบิดหรือไม่ต่อไป
เมื่อเวลา 18.00 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต. สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต. ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร ร.2 พัน.3 รอ. หน่วยพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ร่วมกันเข้าตรวจสอบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เลขที่ 59/79 ภายในหมู่บ้านขุมทรัพย์แลนด์ ซอยราษฎร์อุทิศ 34 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. ภายหลังได้รับรายงานว่าพบสิ่งผิดปกติคล้ายสารตั้งต้นวัตถุประกอบระเบิด
จากการตรวจสอบพบขวดแกลลอนจำนวน หนึ่งซึ่งบรรจุอยู่ภายในกล่องกระดาษ โดยเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ชัด เจนว่าเป็นสารชนิดใดเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจ สอบหาสารอย่างละเอียดให้แน่ชัดอีกครั้ง
ด้านเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง ให้การว่า ก่อนหน้านี้บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านร้าง โดย 2-3 เดือนที่ผ่านมา พบชาวต่างชาติเพศชาย ผิวขาว ใส่ชุดของชาวอาหรับ เดินทางเข้า -ออกบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งบางครั้งมาเพียงคนเดียว บางครั้งมากัน 2-3 คน ซึ่งมักจะเดินเท้าเข้ามาจากหน้าหมู่บ้าน โดยไม่ใช้ยานพาหนะ และมาไม่บ่อยครั้ง ซึ่งตนคิดว่าเป็นผู้เข้ามาเช่าพักอาศัยจึงไม่ได้สงสัยแม้แต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้นำเชือกมากั้นบริเวณโดยรอบซึ่งเป็นระยะทางกว่า 200 เมตร เพื่อไม่ให้สื่อมวลชนและผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังช่วงบริเวณบ้านจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีคนไทยเป็นเจ้าของบ้าน ก่อนปล่อยให้ชาวต่างชาติ เข้ามาเช่าพักอาศัยต่อ จากนั้นชาวต่างชาติรายดังกล่าว ได้ปล่อยให้ชาวต่างชาติผิวขาว 2 ราย เป็นผู้ชายและผู้หญิง เข้ามาเช่าเพื่อพักอาศัยต่อ ซึ่งอยู่ได้มานานกว่า 1 ปีแล้ว โดยเมื่อช่วงประมาณ 2-3 เดือน ที่ผ่านมา ก็ไม่พบว่าทั้งคู่จะเดินทางกลับเข้ามาที่พักอีก
พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อีโอดี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 59/79 ซอยราษฎร์อุทิศ 34 ก็พบแกลลอนบรรจุสารเคมีจำนวน 7 แกลลอน ด้านนอกแกลลอนเขียนว่าคลีนนิ่งคัลเลอร์ แต่เจ้าหน้าที่จะต้องนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากเป็นสารต้องสงสัย เพื่อให้เกิดความแน่ชัดว่าเป็นสารชนิดใด ส่วนบ้านหลังดังกล่าวตรวจสอบแล้ว และสันนิษ ฐานว่ามีชายชาวตุรกีเป็นผู้เช่าพัก ซึ่งจากการสอบถามเจ้าของบ้านชาวไทยระบุว่า มีชายต่างชาติชาวตุรกี แต่จำชื่อไม่ได้ ใช้พาสปอร์ต เช่าพัก ก่อนยกเลิกเช่าไปนาน 6 เดือน แล้ว กลับมาเช่าใหม่ แต่ครั้งนี้ไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ ซึ่งการสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ข้อมูลว่า พบเห็นแท็กซี่นำสิ่งของมาเก็บไว้ในบ้านหลังดังกล่าวบ่อยครั้ง แต่ไม่พบชายที่เช่าบ้าน และมีบางคนเห็นนางวรรณา สวนสัน ที่ถูกออกหมายจับมาที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบอีกครั้ง
ขณะที่เจ้าของบ้านเช่าหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นหญิงอายุประมาณ 45 ปี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวและปล่อยให้คนเช่ามานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาก็เปิดให้เพียงคนเช่าห้องเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีชายลักษณะผิวขาวเป็นคนเช่า จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ให้เพื่อนผู้ชายอีกคนเช่าต่อนาน 1 ปี ราคา 6,000 บาท แต่ชายคนเช่าไม่ค่อยอยู่ เช่าทิ้งไว้
นปช.ยันให้แน่-นำจับ 2 ล.
ที่ด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนิน นายสมหวัง อัสราษี อดีตเลขานุการรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำเงินสด 2 ล้านบาทมาแสดงต่อสื่อมวลชน
โดยนายสมหวังกล่าวว่า ตนยืนยันหากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร จับกุมคนร้ายตัวจริงที่ลอบวางระเบิด ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรได้จะมอบเงิน 2 ล้านบาทให้ทันที เพียงแต่ในวันนี้ จากที่ติดตามข่าว คนที่ถูกจับกุมยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยและยังไม่แน่ชัดว่าเป็นคนร้ายตัวจริงหรือไม่ จึงอยากฝากถึงนายกฯ ว่าไม่ต้องกังวล หากทหารจับได้ก็จะให้เงินแก่ทหาร ถ้าตำรวจจับได้ก็จะมอบเงินแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเหตุการณ์ผ่านมากว่า 3 สัปดาห์ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับคนร้ายตัวจริงมาลงโทษได้ ถึงแม้จะจับกุมผู้ต้องสงสัยได้จำนวนหนึ่งก็ตาม สิ่งที่เป็นห่วงกลัวว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุที่อื่นอีกหรือไม่ ขณะนี้ประเทศบอบช้ำมามากแล้ว อยากให้ทุกอย่างดีขึ้น หากสามารถจับตัวคนร้ายได้ ก็ตอบคำถามชาวโลกได้ว่านี่คือการก่อการร้าย
จี้ไทยพูดชัด-สัญชาติคนร้าย
วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ต่อกรณีจับกุมชาวต่างชาติ ผู้ต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดบริเวณท่าน้ำสาทร ว่า ทางสถานทูตฯ ร้องขอให้กระทรวงการต่างประเทศไทยชี้แจงว่า ผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวเป็นพลเรือนชาวตุรกีหรือไม่ ซึ่งทางการไทยระบุว่าคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน และยังไม่ชี้ชัดถึงสัญชาติของผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้สื่อมวลชนไทยรายงานว่า มีการออกหมายจับพลเรือนชาวตุรกีที่อาจพัวพันกับเหตุก่อการร้าย แต่สถานทูตฯ ไม่เคยได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทยเลย
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศตุรกี ตอบข้อซักถามระหว่างแถลงการณ์สื่อมวลชนในประเทศ ต่อประเด็นที่ชาวตุรกีถูกเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด 2 แห่ง ทั้งที่ศาลพระพรหม บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และท่าน้ำสาทร ว่า ตุรกีรับทราบข้อมูลเบื้องต้นจากทางการและข่าวสารในไทย ซึ่งระบุว่าเจ้าหน้าที่จับกุม ผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 2 คน เมื่อวันที่ 29 และ 31 ส.ค.
ยันอะเด็มไม่ใช่คนตุรกี
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องสงสัยคนแรกมีหนังสือ เดินทางตุรกีที่ปลอมแปลงขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากรูปว่าเป็นพาสปอร์ตปลอม แต่หลังการจับกุม สื่อมวลชนไทยกลับได้รับข้อมูลผิดพลาด และรายงานว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชาวตุรกี สถานทูตฯ ขอกล่าวไว้ ณ ที่นี้ว่าชายผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ชาวตุรกี ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอังการา ประเทศตุรกี แถลงเช่นกันว่าข้อมูลผู้ต้องสงสัยยังไม่ชัดเจน ขณะที่การจับกุมชายผู้ต้องสงสัยคนที่ 2 จากชายแดน ไทย-กัมพูชา เมื่อ 31 ส.ค.นั้น พบว่าชายคนดังกล่าวมีหนังสือเดินทางจีน ไม่ใช่ตุรกี ซึ่งทางการไทยควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนกับการรายงานข่าวนี้
โฆษกกระทรวงต่างประเทศยังกล่าวอีกว่า สถานทูตตุรกีประจำประเทศไทยประสานงานกับทางการไทยอย่างใกล้ชิด ขณะที่กระทรวงก็ทำงานกับสถานทูตไทยประจำกรุงอังการา และยื่นเรื่องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล) แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม สถานทูตฯ ขอยืนยันการประณามและต่อต้านการก่อการร้ายซึ่งเคยแถลงไปก่อนหน้านี้