- Details
- Category: กรมตำรวจ
- Published: Tuesday, 05 May 2015 23:52
- Hits: 6071
เด้งผบก. 13 พตอ.-ดต.เซ่นโรฮิงยา จับแล้วสท.-2 ผู้ช่วยผญบ. พัวพันเครือข่ายค้ามนุษย์ บิ๊กโด่ง-สมยศบินคุมคดี
เด้งรูดผู้การสตูล - 5 เสือปาดังฯ เซ่นค้าโรฮิงยา พบอีก 4 ร.ต.ท.กับ 4 ด.ต.รับผลประโยชน์สั่งฟันด้วย 'สมยศ' นำทีมบินคุมคดี จับส.ท.ปาดังฯ กับ 2 ผู้ช่วยผญบ.โยงแก๊งค้า ทำหน้าที่จัดหาเสบียง-คุมแคมป์นรก แต่ยังให้การปฏิเสธ เหลืออีก 4 คนยังหลบหนี มีรองนายกเทศบาล-ผู้ใหญ่บ้านร่วมด้วย จ่อออกหมายเพิ่มอีก 4 คน เป็นจนท.ฝ่ายปกครองและเป็นเจ้าของแคมป์ ยังมีนักการเมืองท้องถิ่นอีก ด้านผบ.ตร.เผยเป็นขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ มีทั้งไทย พม่าและมาเลเซีย โดยทำมา 3-4 ปี พบใครเกี่ยวข้องไม่ละเว้น สั่งตรวจสอบปมแคมป์อยู่ใกล้ค่ายตชด. ก่อนรุดเยี่ยม 2 โรฮิงยากับ 2 บังกลาเทศรอดชีวิต ให้กันตัวไว้เป็นพยาน-สาวเอาผิดยกขบวน การ ด้านตัวแทนสำนักจุฬาฯ ชี้ถ้าชาวมุสลิม-ผู้นำศาสนาเอี่ยวก็ต้องดำเนินคดี เตรียมเข้า ไปช่วยชาวโรฮิงยา ขณะที่ผบ.ทบ.ก็บินไประนอง-สงขลา กำชับปราบปรามค้ามนุษย์
วันที่ 05 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8924 ข่าวสดรายวัน
จับส.ท. - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. แถลงจับนายอาสัน หรือบังสัน อินทนู อายุ 42 ปี ส.ท.ปาดังเบซาร์ พร้อมพวกรวม 4 คน ร่วมแก๊งค้ามนุษย์ชาวโรฮิงยา พร้อมออกหมายจับอีก 4 คน ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 4 พ.ค. |
จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณยอดเขาแก้ว บ้านตะโละ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ติดชายแดนไทย-มาเลเซีย และพบค่ายพักชั่วคราวของชาวโรฮิงยาหนีเข้าเมือง อีกทั้งพบหลุมศพชาวโรฮิงยาอีกกว่า 30 หลุม เบื้องต้นขุดขึ้นมาตรวจสอบแล้ว 26 ศพ ก่อนส่งไปตรวจชันสูตร เผยได้ข้อมูลจากชาวโรฮิงยาที่แจ้งความที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรม ราช ว่ามีญาติถูกลักพาตัวและเรียกค่าไถ่ แต่ถูกฆ่าตาย 1 คน อีกคนหนีรอด จนนำมาสู่การขยายผลและตรวจค้นค่ายกักกันบนเขา ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น
"สมยศ"นำทีมลุยคดีโรฮิงยา
สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็กเยาวชนและสตรี และปราบปรามการค้ามนุษย์ ตร. พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ส. พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผบก.ปคม. พร้อมชุดสืบสวนพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ แจ้งยอดสุข พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวส รอง ผบช.น. และชุดสืบสวนลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อมอบนโยบายและสืบสวนสอบสวนคดีพบศพชาวโรฮิงยาจำนวนมาก ภายในค่ายกักกันชั่วคราวบนภูเขาหัวช้าง บ้านตะโละ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา
พล.ต.อ.สมยศกล่าวก่อนเดินทางว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม สั่งการให้ลงพื้นที่จ.สงขลา เพื่อรับทราบข้อมูล หลังพบศพชาวโรฮิงยาจำนวนมาก เรื่องนี้นายกฯ และรองนายกฯ ให้ความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบระดับประเทศ ในการพิจารณาผลการดูแลแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยมอบหมายให้พล.ต.อ.เอกดูแลในเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งรับผิดชอบอยู่แล้ว และเมื่อสืบสวนสอบสวนขยายผล เบื้องต้นพบเป็นขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ จึงมอบหมายให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เข้ามากำกับดูแลในประเด็นนี้ โดยให้ร่วมกันทำงานบูรณาการกันทุกฝ่ายเต็มที่
เผยมีจนท.รัฐเอี่ยวด้วย
"เมื่อสักครู่นายกฯ ก็โทรศัพท์กำชับอีกครั้ง ให้ผมลงไปดูแลคดีนี้ให้ดี ใครที่มีส่วนเกี่ยว ข้องเชื่อมโยงให้จับกุมดำเนินคดีไม่ละเว้น ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น เรื่องนี้สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติอย่างร้ายแรง รุนแรง ได้รับรายงานล่าสุดจากพล.ต.อ.เอกว่า วันนี้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในขบวนการนี้แล้ว โดยในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย" ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อถามว่าจุดที่ตั้งค่ายกักกันพบอยู่ไม่ห่างจากที่ตั้งของตำรวจตชด. ต้องตรวจสอบตำรวจที่เกี่ยวข้องว่าบกพร่องละเลยหรือรู้เห็นหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขอให้พล.ต.อ. เอกใช้เวลาในการสอบสวนขยายผลก่อน ซึ่งนายกฯ กำชับว่าหากพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาดไม่มีการละเว้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการสืบสวนสอบสวนบ่งบอกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐปล่อยปละละเลย อย่างที่พบว่าค่ายนี้อยู่ไม่ห่างจากค่ายตชด.ก็ต้องนำมาพิจารณาว่าเข้าไปมีส่วน หรือมีหลักฐานเข้าไปเกี่ยวข้องช่วยเหลือรับผลประโยชน์หรือไม่ แต่ถ้าพบว่าเข้าข่ายปล่อยปละละเลย ก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวด้วยว่า นายกฯ สั่งการให้ตนโทรศัพท์คุยประสานงานกับพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. ซึ่งลงพื้นที่ จ.สงขลา ในวันนี้ด้วย ที่ผ่านมาตำรวจ และทหารร่วมกันมาตลอด โดยประสานแลกเปลี่ยนข่าวสารกันตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้ชัดเจนว่าจุดที่พบค่ายกักกันและพบศพเป็นเรื่องของขบวนการค้ามนุษย์ ชัดเจนด้วยว่าเป็นขบวน การข้ามชาติ
โรฮิงยา - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เข้าเยี่ยม 4 ชาวโรฮิงยาและชาวบังกลาเทศ ที่ร.พ.ปาดังเบซาร์ โดยทั้งหมดเคยถูกนำไปกักอยู่ในแคมป์บนยอดเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 4 พ.ค. |
รอผลชันสูตร 26 ศพชี้ชัด
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นในช่วงที่สหรัฐอเมริกากำลังประเมินผลเรื่องการค้ามนุษย์ของไทยอีกครั้ง ผบ.ตร.กล่าวว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด จากร่องรอยที่พล.ต.อ.เอกลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าจำนวนค่าย สิ่งปลูกสร้างที่มี แสดงให้เห็นว่ามีการเคลื่อนย้ายชาวโรฮิงยาครั้งละจำนวนมากๆ ทำมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรหลายปี เหตุไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น ที่รัฐบาลและตำรวจกำลังทำคือ กำลังแก้ปัญหาที่เคยมีเคยเกิดขึ้น ทั้งนี้จะระบุชัดเจนว่าใคร เจ้าหน้าที่รัฐคนใดเกี่ยวข้องบ้าง ต้องรอให้พล.ต.อ.เอกสรุปผลการสืบสวน สอบสวนก่อน หากเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือ ได้ผลประ โยชน์ตรงนี้เชื่อว่าพล.ต.อ.เอกจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด เพราะเป็นบัญชาของนายกฯ
ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า จากนี้ชุดสืบสวนสอบสวนทุกหน่วยที่ร่วมทำคดี ทั้งในพื้นที่และชุดของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ต้องประสานงานไปยังประเทศมาเลเซียและพม่า เพื่อสืบ สวนจับกุมเครือข่ายนี้ ขณะที่สันติบาลก็ต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหานี้
สำหรับ สาเหตุการเสียชีวิตของชาวโรฮิงยาทั้ง 26 ราย พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยมอบหมายให้พล.ต.อ. จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผบ.ตร. ด้านนิติวิทยา ศาสตร์ ลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อช่วยเก็บพยานหลักฐานและตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ ซึ่งต้องขอเวลาอีกระยะหนึ่ง เพื่อพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต อาจเพราะเจ็บป่วย โรคภัย หรือถูกทำร้าย ขณะเดียวกันกรณีที่สงสัยว่าจะเกี่ยวพันกับกรณีการเรียกค่าไถ่ ที่อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช หรือไม่ ยังต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอเช่นกัน
จับส.ท.ปาดังฯ-2 ผช.ผญบ.
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.อ.สมยศ พร้อมคณะ เดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยพล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 ได้รายงานความคืบหน้า ใช้เวลากว่า 20 นาที จากนั้นพล.ต.อ.สมยศเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและติดตามความคืบหน้าคดี โดยมีตำรวจ บช.ภ.9 บช.ก. ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ ตชด. และชุดสืบสวนพิเศษร่วมประชุม
รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลจังหวัดนาทวี อนุมัติ หมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ 8 คน ประกอบด้วย 1.นายประสิทธิ์ เหล็มแหล๊ะ รองนายกเทศมนตรีตำบลปาดัง เบซาร์ 2.นายอาสัน หรือมูสัน อินทนู ส.ท. ตำบลปาดังเบซาร์ 3.นายยาหลี เขร็ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านตะโละ ต.ปาดังเบซาร์ 4.นายร่อเอ สนยาแหละ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 5.นาย อาหลี ล่าเม๊าะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 6.นายอันวา หรือซอ เนียง อานู ชาวพม่า 7.นายพรรคพล เบ็ญล่าเต๊ะ อายุ 47 ปี และ 8.นายเจริญ ทองแดง อายุ 45 ปี ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว และเรียกค่าไถ่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมได้แล้ว 4 ราย คือ นายอาสัน นายร่อเอ ทำหน้าที่จัดหาเสบียง นายอาหลีทำหน้าที่ควบคุมแคมป์ และนาย อันวา ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งยึดอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก พร้อมกระสุน 8 นัด และซองพก 1 ซอง จากนั้นนำตัวนายอาสัน นายร่อเอและนายอาหลี มาแถลงต่อสื่อมวลชน ซึ่งทั้ง 3 คนยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เจ้าหน้าที่ยังเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 3-4 คน ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นเจ้าของแคมป์บนเทือกเขาแก้ว และผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้กว้างขวางในต.ปาดังเบซาร์ ทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและผู้นำท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีชาวโรฮิงยาด้วยกันเองรวมอยู่ด้วย ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าทั้งหมดได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
เด้งผู้การสตูล-5 เสือปาดังฯ
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวภายหลังการประชุมว่า เตรียมออกหมายจับเพิ่มเติมอีกหลายคน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมือง ท้องถิ่น หากพบมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะจับกุมทั้งหมด ส่วนผลการตรวจสอบและเก็บหลักฐานภายในแคมป์ เจ้าหน้าที่พบศพทั้งหมด 26 ศพ เป็นชาย 25 ศพ และหญิง 1 ศพ มีทั้งที่เสียชีวิตมาแล้วเป็นปีและเพิ่งเสียชีวิต ซึ่งชี้ว่าแคมป์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมานาน ส่วนสาเหตุของการตายนั้น ต้องรอผลการตรวจจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แต่เบื้องต้นคาดว่าตายเพราะป่วยและขาดอาหาร ซึ่งขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้เป็นอาชญากรข้ามชาติ มีทั้งไทย พม่าและมาเลเซีย โดยทำมาแล้วอย่างน้อย 3-4 ปี
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนสอบสวนของพล.ต.อ.เอก ได้เสนอให้พิจารณา ย้ายตำรวจที่อาจเกี่ยวพันออกจากพื้นที่ชั่วคราว โดยลงนามในคำสั่งย้ายพล.ต.ต. สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ภ.จว.สตูล เนื่องจากมีความสนิทสนมกับตัวการใหญ่ในขบวนการนี้และอยู่ในพื้นที่จ.สตูล และพ.ต.อ.ภาสกร ภักดีวานิช ผกก.สภ.ควนโดน โดยให้มาช่วยราชการที่ศปก.ตร. นอกจากนี้มีคำสั่งให้ 5 เสือสภ. ปาดังเบซาร์ ประกอบด้วย พ.ต.อ.วีระสัณห์ ธารเปียม ผกก. รองผกก.ป รองผกก.สส. สวป.และสว.สส. ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ รวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดนกก.ตชด.43 ที่ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ค่ายกักกักจำนวนหนึ่งมาช่วยราชการที่ศปก.ตร.
พบอีก 7 ตร.รับผลประโยชน์
ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า พล.ต.ท.มนตรี เสนอรายชื่อตำรวจที่มีพฤติการณ์พัวพันหรือมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการค้ามนุษย์ ประกอบด้วย 1.ร.ต.ท. อารีย์ หมัดสมัน รองสวป.สภ.ปาดังเบซาร์ ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจป้อมเขารูปช้าง สืบสวนเชื่อว่าเรียกรับผลประโยชน์จากขบวน การค้ามนุษย์ในพื้นที่ดังกล่าว 2.ด.ต.อัศณีย์รัญ นวลรอด ผบ.หมู่ป.สภ.ปาดังเบซาร์ สายตรวจป้อมเขารูปช้าง เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับร.ต.ท. อารีย์ เชื่อเรียกรับผลประโยชน์ 3.ด.ต.สุชาติ จันทบูรณ์ ผบ.หมู่ป.สภ.ปาดังเบซาร์ เชื่อเรียกรับผลประโยชน์ 4.ร.ต.ท.มงคล สุโล ผบ.มว.ร้อยตชด.4303 คุมกำลังที่ตั้งหน่วยบริเวณปากทางเข้าออกแคมป์ดังกล่าว เชื่อเรียกรับผลประโยชน์ 5.ด.ต.สุกาจ โสบผอม ผบ.หมู่กก.ตชด.43 ทำหน้าที่กำกับดูแลพื้นที่ 6.ด.ต. เฉลิมพล จันทรัตน์ สังกัดตม.6 คุมพื้นที่ดังกล่าว เชื่อเรียกรับผลประโยชน์ 7.ร.ต.ท. สุนันท์ แก้วมณี รองสวป.หมวดการข่าวบก.ตชด.43 เชื่อเรียกรับผลประโยชน์ โดยจะลงนามคำสั่งย้ายทั้งหมดมาช่วยราชการ ศปก.ตร.
กัน 2 โรฮิงยาเป็นพยาน
จากนั้น พล.ต.อ.สมยศเดินทางไปเยี่ยมชาวโรฮิงยา 2 คน และชาวบังกลาเทศอีก 2 คน ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ปาดังเบซาร์ ซึ่งทั้ง 4 คนเคยถูกนำไปกักตัวอยู่ที่แคมป์บนยอดเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ โดยพล.ต.อ.สมยศพูดผ่านล่ามว่า ขอให้ทั้ง 4 คนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และบอกข้อมูลเกี่ยวกับแคมป์แห่งนี้ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดและจะให้การคุ้มครองดูแลอย่างดีที่สุด โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะสอบสวนทั้ง 4 คนเพิ่มเติมและจะกันไว้เป็นพยาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง หมดที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว 8 คน
ด้านนายอารี อารีฟ ตัวแทนสำนักจุฬาราช มนตรี และกรรมการสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี ซึ่งเข้ารับฟังการแถลงข่าวได้เสนอแนะกระบวนการจัดการกับปัญหาชาวโรฮิงยา โดยขอให้ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดหากมีชาวมุสลิมเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือผู้นำศาสนา โดยให้สำนักจุฬาราชมนตรีและภาครัฐ เข้ามามีส่วนร่วมจัดการด้านมนุษยธรรมกับชาวโรฮิงยา ทั้งที่มีชีวิตและเสียชีวิต
ผบ.ทบ.บินไประนอง-สงขลา
วันเดียวกัน ที่ฝูงเครื่องบินกองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผบ.ทบ. เดินทางลงพื้นที่ จ.ระนอง และจ.สงขลา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีโรฮิงยา โดยพล.อ. อุดมเดชกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากพล.อ. ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตรให้ลงพื้นที่ ซึ่งปัญหาตอนนี้มีขบวนการลักลอบนำคนหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งมีขบวน การพาแรงงานเหล่านี้มาพักที่ประเทศไทย ก่อนพาไปยังประเทศที่สาม ซึ่งตนคิดว่า เรื่องนี้เป็นภัยร้ายแรง และเราจะดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ให้ได้
พล.อ.อุดมเดช กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องทำงานอย่างจริงจัง เพื่อให้ขบวนการเหล่านี้หมดไปจากประเทศให้ได้ ตามหลักมนุษยธรรมและไม่ให้ประเทศตกเป็นเป้าหมายการค้ามนุษย์ในสายตาของนานาชาติ รัฐบาลมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา ส่วนความคืบหน้าที่พบหลุมศพนั้น ก็ตามที่ตนให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ จากการที่ตำรวจเข้าไปพิสูจน์หลักฐานก็พบหลุมศพ 31 หลุม และขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ 25 โครง แล้วพบอีก 1 ศพที่เสียชีวิตไม่นานมาก อีกทั้งยังพบที่พักอาศัยชั่วคราวในจุดดังกล่าว ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าจุดพักชั่วคราวนี้เป็นที่พักของคนหลบหนีเข้าเมืองชาวโรฮิงยา เพื่อนำส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน
กำชับปราบปรามค้ามนุษย์
พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะคลี่ คลายปัญหานี้ โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบจุดอื่นๆ ไม่ว่าจะพบหลักฐานหรือไม่พบก็ตาม ซึ่งตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเราจะ กวดขันเรื่องค้ามนุษย์มากขึ้น ทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือนต้องร่วมมือกันดำเนินการ และต้องไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนใดคนหนึ่ง
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวชาวโรฮิงยา 700 คน เดินทางไปประเทศมาเลเซียแล้ว จะประสานงานกันอย่างไร พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า เมื่อหลบหนีออกจากประเทศเราไปแล้ว ประกอบกับพวกเขาก็ไม่ใช่คนไทยด้วย จึงไม่ทราบว่ามีจำนวนคนหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านเท่าไร แต่ว่าตอนนี้เราสนใจว่าการแก้ไขปัญหา ขบวน การค้ามนุษย์ในอดีตมีความถูกผิดอย่างไร ซึ่งจะต้องสืบให้ได้ โดยตนคิดว่าปัญหานี้น่าจะมีความเชื่อมโยงกันทั้ง 2 ฝั่ง เช่น ฝั่งนี้ส่งคนไป อีกฝั่งรับคนมา อีกทั้งเชื่อว่าไม่ใช่ขบวนการเล็กๆ เพราะมีการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว
ต่อมาพล.อ.อุดมเดช พร้อมคณะ เดินทางมาถึงสนามบินระนอง โดยมีพล.ต.คุณวุฒิ หมอแก้ว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 และนายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ รอง ผวจ.ระนอง ให้การต้อนรับ ก่อนเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่ กอ.รมน.ภาค 4 จ.ระนอง ค่ายรัตนรังสรรค์ พร้อมติดตามความคืบหน้าและรับทราบปัญหาชาวโรฮิงยา โดยมีหน่วยงานในพื้นที่ชี้แจงและระบุถึงมาตรการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม. จากนั้นพล.อ.อุดมเดชเดินทางด้วยเครื่องบินต่อไปยังท่าอากาศยาน บน.56 อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.สงขลา พล.อ. อุดมเดช พร้อมคณะ ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าแก้ปัญหาชาวโรฮิงยาในพื้นที่ โดยพล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาขบวนการลักลอบนำคนหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและขบวนการค้ามนุษย์โดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งคลี่คลายคดี โดยจากนี้ไปรัฐบาลจะเปิดยุทธการกวาด ล้างและสกัดกั้นอย่างเต็มที่ โดยจะเร่งตรวจสอบ จุดอื่นต่อไป และจะเร่งกวดขันเรื่องค้ามนุษย์อย่างเข้มข้น ซึ่งได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกนายต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีกำลังพลคนใดเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ถ้าหากมีกองทัพก็จะไม่ปกป้องและต้องดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด
มท.สั่งทั่วประเทศคุมเข้ม
ด้านนายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังสือเวียนด่วนถึงปลัดจังหวัดและนายอำเภอทุกจังหวัด โดยระบุว่าตามที่ปรากฏว่าศาลจังหวัดนาทวีอนุมัติหมายจับผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใน จ.สงขลา ในข้อหาเกี่ยวข้องสนับสนุนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ปกครองนั้น เนื่องจากการค้ามนุษย์มีผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล จึงให้จังหวัดและอำเภอทุกอำเภอวางมาตรการเข้มงวดกวดขันไม่ให้ข้าราชการในพื้นที่ รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้านสมาชิก อส.และชรบ.ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาด โดยให้นายอำเภอเรียกประชุมส่วนราชการช่วงวันที่ 6-10 พ.ค. เพื่อประชุมชี้แจงเรื่องดังกล่าว หากมีข้อมูลว่ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้นายอำเภอรายงานทันที เพื่อดำเนินการทางวินัยและอาญา โดยกรณีเป็นข้าราชการปกครองเมื่อถูกออกหมายจับ ให้รายงานจังหวัดมีคำสั่งให้ออกจากราชการหรือพักการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน
สำหรับ จ.ชุมพร ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี พัทลุง นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ให้ประสานกับกอ.รมน.ภาค 4 และหน่วยกำลังในพื้นที่ เพื่อสนธิกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่อาจเป็นที่พักพิงของขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งพื้นที่ป่าเขา พื้นที่ชายแดนและเกาะแก่งต่างๆ ในพื้นที่ด้วย
คุมเข้มพยาน-ผวาถูกเก็บ
ที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนายกูราเมีย น้าชายของคาซิมที่ถูกนายอานัว ฆ่าตายที่ แคมป์ที่ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา และพยานปากสำคัญชาวโรฮิงยาที่ออกมาแฉถึงขบวน การดังกล่าว ต่างต้องผวาอย่างหนัก เนื่องจากเกรงขบวนการค้ามนุษย์ติดตามมาทำร้าย พ.ต.อ. อนุชนต์ ชามาตย์ รองผบก.ภ.จว.นครศรีธรรม ราช จึงสั่งการให้ตำรวจเพิ่มความระมัดระวังและดูแลทั้ง 2 คน เป็นพิเศษ เนื่องจากเกรงว่าขบวนการที่อยู่เบื้องหลังจะตามมาฆ่าปิดปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายอานัว ผู้ต้องหาในคดีเรียกค่าไถ่และฉ้อโกง อีกทั้งสงสัยเป็นผู้จัดการแคมป์กักขังชาวโรฮิงยาในอ.สะเดา ตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์เพิ่มเติม