- Details
- Category: มหาดไทย
- Published: Monday, 18 September 2017 18:38
- Hits: 2318
พก. เดินหน้าพัฒนา ติดตามผลการดำเนินงานสำนักงานเลขานุการกรม ปี 2560 ภายใต้การทำงาน 'Work Hard & Work Smart'รองรับแผน Thailand 4.0
กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินหน้าพัฒนาบุคลากร ปรับแนวทางการดำเนินงานรองรับการทำงานแห่งอนาคตตามแผนนโยบาย Thailand 4.0 ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ที่จะส่งผลต่อหน่วยงาน โดยวางแผนระยะสั้น ระยะยาว ภายใต้หัวข้อ Work Hard & Work Smart เพื่อประสิทธิภาพการทำงานในปัจจุบันสู่การพัฒนาในอนาคต มุ่งเน้นการพัฒนาด้านความสามารถรองรับแผนงานประจำปี 2561 การบริหารจัดการ และเข้าถึงคนพิการ กลุ่มเป้าหมายของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต
นายสมชาย เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กล่าวว่า การประชุมสัมมนาปฏิบัติการการเดินหน้าพัฒนาด้านบุคลากร พร้อมติดตามผลการดำเนินงานสำนักงานเลขานุการกรม ประจำปี 2560 ถือเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนปฏิบัติงานเพิ่มประสิทธิภาพ สนองต่อแผนการเดินหน้าของประเทศตามแนวทางนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งหน่วยงานคือกลไกในการปฏิบัติหน้าที่ขับเคลื่อนส่วนงานต่างๆ โดยเฉพาะสำนักงานเลขานุการกรม ต้องมีการเชื่อมโยงส่วนงาน สำนักงาน กลุ่มงาน กองงานต่างๆ ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ให้เดินหน้า ขับเคลื่อนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การประชุมสัมมนาครั้งนี้ ยังได้เป็นการกำหนดทิศทาง แผนงานประจำปี 2561 ทบทวนการดำเนินงาน แผนปฏิบัติงานในปี 2560 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมวางแผนการดำเนินงาน ภารกิจของสำนักงานเลขานุการกรม ประจำปี 2561 ต่อไป
นายสมชาย กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งภารกิจในการพัฒนาสำนักงานเลขานุกรม ต้องมีวางแผนงานที่ดี มีการกำหนดทิศทางการดำเนิน วางแผนปฏิบัติงาน ขับเคลื่อนด้านบุคลากรอันเป็นทรัพยากรสำคัญในการเดินหน้าปฏิบัติงาน ให้บรรลุเป้าหมาย ส่งผลต่อแผนปฏิบัติที่มีศักยภาพ ส่งผลต่อภาพรวมของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตคนพิการ ประชาชน และสังคมเป็นสำคัญ
“บุคลากรถือเป็นเครื่องมือ กลไกสำคัญในการทำงาน ความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงาน มองผลลัพธ์ของผลงานที่ออกมา คือ การวางแผนงาน เป้าหมายของการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อคุณภาพของงาน ซึ่งการทำงานต้องมีกระบวนการ การตรวจสอบ ขั้นตอนที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ และที่สำคัญบุคลากรต้องมีสุขภาพจิตดีความสุขในการทำงาน ซึ่งภาพรวมสัดส่วน Work Hard และ Work Smart ต้องมีความสัมพันธ์กัน เพื่อประสิทธิภาพของงานที่ออกมาอย่างมีคุณภาพ โดยการทำงานในลักษณะ Work Hard ซึ่งต้องมองขั้นตอนของ Work Hard ดังนี้
ว่างมากเกินไป : ไม่รู้จะไปไหน ไม่รู้จะทำอะไรดี อยู่ออฟฟิตทำงานดีกว่า
ไม่ยอมปล่อยวาง : คิดแต่ว่าจะทำงานให้เสร็จ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องทำอะไร
ขาดสมาธิ : การขาดสมาธิในการทำงาน อาจจะทำให้ต้องเสียเวลาในการทำงานเพิ่มมากขึ้น
บริหารเวลาไม่เป็น : มาทำงานเช้ากลับบ้านดึก สาเหตุด้วยการจัดระบบความสำคัญของงานที่ไม่ถูกต้อง
ปริมาณงานมีมากเกินไป : หน้าที่รับผิดชอบมากเกินขอบเขตการรับผิดชอบ เรียกว่า Work Load
สำหรับ บุคลากรที่ทำงานแบบ Work Hard จะสำคัญในการทำงาน ผลงานเป็นหลัก ไม่ใส่ใจคนรอบตัว มุ่งที่ทำงานเป้าหมายความสำเร็จ ไม่ค่อยให้เวลากับครอบครัว หรือ คนรอบตัว”
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า การอบรมให้ความรู้ในครั้งนี้ ต้องการเพิ่มพูลให้บุคลากรของกรมฯ ปรับสัดส่วนการพัฒนาการทำงาน และเกิดการบริหารจัดการที่ดี ทั้งการทำงานและ Life Style ส่วนตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งต้องนำส่วนของ การทำงานในลักษณะ Work Smart มาปรับใช้ ดังนี้
S = Smile: ยิ้มรับกับทุกปัญหาที่เข้ามา เพราะทุกปัญหามีทางแก้เสมอ
M = Manage: ทำงานอย่างชาญฉลาดรู้จักบริหารเวลาให้เป็น
A = Analyze: รู้จักวิเคราะห์ แยกแยะงานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อจะไม่ให้เสียเวลาในการทำงาน
R = Recognize: รู้ศักยภาพความสามารถในการทำงานของตนเอง ตระหนักถึงการบริหารงานที่ได้รับมอบหมาย
T = Train: ทำงานกันเป็นทีมฝึกให้เพื่อนในกลุ่มมีทักษะที่หลากหลาย หากมีใครคนนึงหายไป
โดยการทำงานแบบ Work Smart ไม่จำเป็นต้องทำงานแบบไม่ลืมหูลืมตา เพียงแต่เป็นกลุ่มคนที่ทำงานอย่างชาญฉลาด รู้จักการบริหารงานในส่วนต่าง ดังนั้น Hard และ Smart คือการทำงานให้มีความเก่งและพร้อมกับทุกหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย มีความรับผิดชอบ ทำงานเป็นทีมให้ความสำคัญในเพื่อนร่วมงาน มีความคิด มีการวางแผนงาน และเป้าหมายที่ชัดเจน และให้ความสำคัญแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง