WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1.AAA A AA1บิ๊กป้อม

'บิ๊กป้อม-บิ๊กป็อก-นิพนธ์' ล้อมวงถก กก.นปถ. - ศปถ. ขับเคลื่อนป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน'นิพนธ์' ย้ำชัด ใช้ด่านชุมชน บูรณาการร่วมอปพร. ขับเคลื่อนในพื้นที่

     ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ(นปถ.)

     โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะประธานกรรมการศูนย์อำนวยการ ความปลอดภัยทางถนน(ศปถ) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายนิพนธ์ บุญญา มณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมฯศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน

      พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุสำคัญที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ รัฐบาลได้กำหนดให้การสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ และมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ) เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนยังคงมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ โดยจากการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนน พบว่า ปัจจัยที่นำไปสู่การลดอุบัติเหตุเป็นผลจากการบังคับใช้กฎหมาย การเสริมสร้างวินัยและจิตสำนึกในการใชัรถใช้ถนนอย่างปลอดภัย การสร้างมาตรฐานความปลอดภัยของยานพาหนะและถนน ประกอบกับรัฐบาลได้ยกระดับการสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาในภาพรวมของประเทศให้ดีขึ้น

       “คณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ) ได้ร่วมกันพิจารณาหารือข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและแนวทางเสริมประสิทธิภาพการขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนซึ่งมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเป็นแกนกลางการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาคีเครือข่าย มุ่งเน้นการวางแนวทางเชิงปฏิบัติที่เข้มข้นมากขึ้น ด้วยการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2564 - 2569 พร้อมกำหนดแผนการดำเนินการในแต่ละปีให้ชัดเจนและมีความต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างน้อยร้อยละ 50ในระหว่าง พศ. 2564 -2573 ตามปฏิญญาสต็อกโฮล์ม รวมถึงจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี พศ. 2564 ที่มุ่งเสริมสร้างการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่

       และการลดปัจจัยเสี่ยงหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วไม่สวมหมวกนิรภัย และการขับขี่รถของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถ อีกทั้งเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัดและจริงจังอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาเสริมประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนเพิ่มศักยภาพของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นกลไกหลักการดำเนินงานในระดับพื้นที่นอกจากนี้ยังได้มุ่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในรูปแบบการรณรงค์ประชาชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนแก่ประชาชน รวมถึงส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและลดอุบัติหตุทางถนน ทั้งนี้ เพื่อสร้างประเทศไทยให้มีการสัญจรปลอดภัยตามมาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน”พลเอก ประวิตรกล่าว

    พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา เปิดเผยว่า ศปถ.ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการจัดการปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเข้มขันตลอดปีทั้งในช่วงปกติและช่วงเทศกาล สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี พ.ศ. 2563 ได้กำหนดแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2563" ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" โดยยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง (Area Approach) ในการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตาม 8 มาตรการ ดังนี้ ด้านการบริหารจัดการ ลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน ลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม ลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ มาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ ด้านความปลอดภัยทางน้ำ ด้านดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และมาตรการพิเศษที่มุ่งดำเนินการในอำเภอเสี่ยงสีแดงอย่างเข้มข้น ซึ่งมีเป้าหมายในการลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15

       นายนิพนธ์ บุญญามณี  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนถนนสายรอง 70 เปอร์เซ็นต์อยู่ในการดูแลขององค์ปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เมื่อเดือนเมษายน 2562 ได้มีการแก้ไขกฎหมายบังคับให้ท้องถิ่นมีบทบาทหน้าที่จะมาดูแลเรื่องการจราจรตามภารกิจที่กฎหมายใหม่กำหนด  จึงอยากให้ศปถ.จังหวัดร่วมพูดคุยกำหนดมาตรการลดจุดเสี่ยงของถนนในท้องถนนซึ่งเป็นถนนสายรอง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจรในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น กำหนดการใช้ความเร็วบนถนนของท้องถิ่น

      รวมกันพิจารณาเรื่องความปลอดภัยทางถนนและปิดจุดเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในท้องถิ่น ใช้มาตรการด่านครอบครัว ด่านชุมชน  บูรณาการทำงานร่วมกันกับอปพร. จิตอาสาภัยพิบัติจะเป็นกำลังที่จัดตั้งด่านชุมชนในตำบลต่างๆได้  ส่วนการแก้ไขในระยะยาวเสนอให้มีมาตรการให้ท้องถิ่นสามารถออกพระราชบัญญัติหรือเทศบัญญัติเกี่ยวกับการจราจรเพื่อกำหนดอัตราความเร็วของรถจักรยานยนต์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการจราจรแก่ท้องถิ่น ลดจำนวนผู้เสียชีวิตในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     นอกจากนี้ มท.2 ยังได้เสนอให้มีการนำแผนงานตามปฏิญญาสต็อกโฮล์ม มาปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตลงอย่างน้อยร้อยละ 50 ในระหว่าง พ.ศ. 2564 -2573 หรือ อีก 10 ปีข้างหน้า พร้อมทั้ง ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้นำเป้าหมายดังกล่าวไปปรับเพื่อจัดทำและปฏิบัติตามแผนอย่างจริงจัง

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!