- Details
- Category: มหาดไทย
- Published: Thursday, 17 January 2019 12:45
- Hits: 1706
กองทุนหมู่บ้านฯ สานพลังจัดงาน'มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐ' ช่วยเศรษฐกิจฐานรากได้ผลตามเป้าเผย 3 ปี ยกระดับชุมชนกว่า 70,000 กองทุน ผ่าน 200,000 โครงการ เกิดการจ้างงานกว่า 1.6 ล้านคน
นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นประธานในงาน 'มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จัดโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พร้อมระบุ 3 ปีที่ผ่านมา (2559-2561) กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน ในหมู่บ้านและชุมชนเมืองกว่า 70,000 กองทุน ผ่านการดำเนินโครงการตามแนวทางประชารัฐ กว่า 200,000 โครงการ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำประชาคมโดยประชาชน เพื่อประชาชน ผ่านกลไกของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศโดยมีผู้แทนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจากทุกจังหวัดทั่วประเทศมาร่วมงานประมาณ 20,000 คน ณ อาคารชาเลนเจอร์2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ระบุว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลมีความเชื่อมั่น และไว้วางใจในกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองซึ่งมีอยู่ ทั่วประเทศว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสในการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้เป็นอย่างดี รัฐบาลจึงได้สนับสนุนงบประมาณให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ทั้ง 79,595 กองทุน ให้ดำเนินโครงการตามแนวทางประชารัฐ ใน 3 ปีต่อเนื่อง คือ 1. โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ในปี 2559 วงเงิน 35,000 ล้านบาท 2.โครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนเพื่อความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ในปี 2560 วงเงิน 15,000 ล้านบาท และ 3.โครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืนโดยศาสตร์พระราชา ตามแนวทางประชารัฐ ในปี 2561 วงเงิน 20,000 ล้านบาท
ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี กองทุนหมู่บ้านและชุมเมืองกว่า 70,000 กองทุน ได้จัดทำและดำเนินโครงการตามแนวทางประชารัฐดังกล่าวกว่า 200,000 โครงการ ก่อให้เกิดประโยชน์หลายมิติ เช่น ทำให้เกิดร้านค้าชุมชนไม่น้อยกว่า 25,000 ร้านค้าทั่วประเทศ โครงการน้ำดื่มชุมชนไม่น้อยกว่า 10,000 โครงการ โครงการส่งเสริมการเกษตรไม่น้อยกว่า 56,000 โครงการ โครงการบริการเพื่ออุปโภค-บริโภค ไม่น้อยกว่า 45,000 โครงการ โครงการผลิตภัณฑ์ประชารัฐไม่น้อยกว่า 37,000 โครงการ และโครงการตลาดประชารัฐไม่น้อยกว่า 2,900 โครงการ นอกจากนี้ การดำเนินโครงการประชารัฐยังก่อให้เกิดการจ้างงานประชาชนในหมู่บ้านและชุมชน กว่า 1.6 ล้านคน ทำให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมีรายได้รวม 3 ปี ไม่น้อยกว่า 39,000 ล้านบาท ได้รับผลกำไรกว่า 8,500 ล้านบาท ประการสำคัญก็คือ การทำให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมีโอกาสฟื้นฟูกลับมาเป็นกองทุนที่เข้มแข็ง ตามนโยบายของรัฐบาที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอีกกว่า 5,000 กองทุน
และเพื่อประกาศความสำเร็จที่จะนำไปสู่การถอดบทเรียนเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความพร้อมเพื่อการพัฒนาต่อยอดการดำเนินโครงการตามแนวทางประชารัฐที่ดำเนินการโดยกลไกของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และเป็นการให้กำลังใจแก่คณะกรรมการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่มุ่งมั่น ตั้งใจดำเนินโครงการจนประสบผลสำเร็จ รวมทั้งการขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความเชื่อมั่น และไว้วางใจในความมุ่งมั่น ตั้งใจ และศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั้งประเทศ คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมการบริหารโครงการ จึงมีมติเห็นชอบให้มอบรางวัลโครงการประชารัฐตัวอย่างให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในทุกจังหวัด ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะทำงานในแต่ละจังหวัด แบ่งเป็นรางวัลในภาพรวมของแต่ละจังหวัด 231 รางวัล และรางวัลตามยุทธศาสตร์ 20 ปีของประเทศ ใน 6 ด้าน ในแต่ละจังหวัด ได้แก่ 1.การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน สร้างความสุขและความมั่นคง 2.การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการพัฒนา 3.การพัฒนาและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ 4.การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และลดความเหลื่อมล้ำ 5.การพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 6.การบูรณาการกิจกรรมการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน จำนวนทั้งสิ้น 1,386 รางวัล รวมทั้งสิ้น 1,617รางวัล โดยหวังว่าจะมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างคุณค่า และมูลค่าของโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นสินทรัพย์ของแผ่นดิน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า ภายใต้การดำเนินโครงการของกองทุน ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมสนับสนุนตามแนวทางประชารัฐให้โครงการเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น เช่น กระทรวงพาณิชย์ สนับสนุนการพัฒนาร้านค้าประชารัฐ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สนับสนุนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อยกระดับ คุณภาพโครงการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ให้การรับรองคุณภาพ และคุณธรรมของโครงการด้วยการมอบตราสัญลักษณ์คุ้มครองผู้บริโภคให้โครงการที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ร่วมติดตามประเมินผล และสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดโครงการ เป็นต้น
สำหรับ กิจกรรมในงาน นอกจากมีการมอบรางวัลให้กับโครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตามแนวทางประชารัฐซึ่งได้มีการคัดเลือกจากแต่ละจังหวัดแล้วยังมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบนิทรรศการของโครงการตัวอย่างที่คัดเลือกมาจากแต่ละจังหวัด และการนำเสนอแนวทางการดำเนินงานของหน่วยภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานสำหรับเป็นบทเรียนแห่งการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการดำเนินงานในระยะต่อไป โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) นอกจากได้มอบรางวัล และมอบนโยบายในการขับเคลื่อนงานต่อไปแล้ว ยังเปิดปฏิบัติการ การพัฒนาต่อยอดโครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามแนวทางประชารัฐเพื่อให้โครงการได้ดำเนินการต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลตาม “วิถีประชารัฐ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” และในช่วงบ่ายได้เปิดโอกาสให้มีการลงทะเบียนเป็นอาสาพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจากสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่เข้าร่วมกิจกรรม กว่า 18,000 คน ทั้งนี้เพื่อจะได้ให้ อาสาพัฒนาได้ช่วยประสานงานและสนับสนุนการต่อยอดโครงการตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและ ชุมชนเมือง เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนในแต่ละพื้นที่ให้สัมฤทธิ์ผลยิ่งขึ้นต่อไป
Click Donate Support Web